ข่าวกีฬา

อดีตนักบาสฯ NBA เปิดตัวเป็นเกย์ อัดคลิปเล่าชีวิต สู้ “มะเร็งสมองระยะ 4”

เจสัน คอลลินส์ อดีตผู้เล่นเ็นบีเอ NBA ที่เคยประกาศตัวว่ามีรสนิยมรักร่วมเพศ เผยปัจจุบันกำลังต่อสู้กับโรคร้าย มะเร็งสมองระยะที่ 4 อัปเดตอาการมาเร็วหลังแต่งงานไม่กี่เดือน เปรียบเทียบการต่อสู้ครั้งนี้เหมือนกับการดวลกับ “แชค” ชาคิลล์ โอนีล

เจสัน คอลลินส์ (Jason Collins) อดีตผู้เล่น NBA ซึ่งเป็นนักกีฬาเกย์ที่เปิดเผยตัวคนแรกที่ได้ลงเล่นในลีกกีฬาหลัก 4 ลีกของอเมริกาเหนือ และปัจจุบันเป็นทูตให้กับลีก NBA กำลังเข้ารับการรักษาเนื้องอกในสมอง โดยดมื่อ ก.ย.ที่ผ่านมา ครอบครัวของเขาออกแถลงการณ์ ว่า ขอความเป็นส่วนตัว เพื่อจะได้ทุ่มเทความสนใจทั้งหมดให้กับสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีของเจสัน

ก่อนหน้านี้มีรายงานว่า คอลลินส์ ซึ่งปัจจุบันอายุ 47 ปี ตรวจพบว่าเป็นมะเร็งกลิโอบลาสโตมา (Glioblastoma) ระยะที่ 4 ซึ่งเป็นมะเร็งสมองชนิดรุนแรงและมีการแพร่กระจายอย่างรวดเร็ว

แฟ้มภาพ IG @jasoncollins_98
แฟ้มภาพ IG @jasoncollins_98

“นี่คือความท้าทายที่ใหญ่ที่สุด” คอลลินส์ จู่โผล่ๆ อัดคลิปเล่าเรื่องราวต่อสู้มะเร็งด้วยตัวเอง

คอลลินส์ ระบุว่า มะเร็งกลิโอบลาสโตมา เป็นมะเร็งสมองที่อันตรายถึงชีวิตที่สุดชนิดหนึ่ง ซึ่งเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วมาก

ในเดือนพฤษภาคม คอลลินส์เพิ่งจัดพิธีแต่งงานกับ บรูนสัน กรีน สามีของเขาที่เมืองออสติน รัฐเท็กซัส แต่เพียงไม่กี่เดือนถัดมา อาการป่วยก็เริ่มส่งสัญญาณ เดือนสิงหาคม ทั้งคู่มีแผนจะไปชมการแข่งขันยูเอส โอเพ่น ตามปกติ แต่คอลลินส์ไม่สามารถเตรียมตัวได้ทัน ทำให้พวกเขาพลาดเที่ยวบินเป็นครั้งแรกในรอบหลาย 10 ปี เนื่องจากเขาสูญเสียสมาธิในการจัดกระเป๋า

ต่อมาคอลลินส์เริ่มมีอาการผิดปกติเล็กน้อยมาก่อนหน้านี้ 2 สัปดาห์ แต่เขาพยายามฝืนไปต่อตามสัญชาตญาณของนักกีฬา อย่างไรก็ตาม ความผิดปกติที่แท้จริงได้เกิดขึ้นแล้ว

เมื่อเข้าตรวจด้วยเครื่อง CT Scan ที่มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย ลอสแอนเจลิส หรือ ยูซีแอลเอ (UCLA) ในเวลาเพียง 5 นาที ช่างเทคนิคก็ดึงเขาออกมาและแนะนำให้ไปพบแพทย์เฉพาะทางทันที

ครอบครัวของคอลลินส์เล่าว่า ภายในเวลาไม่กี่ชั่วโมง ความคิด ความจำระยะสั้น และความเข้าใจของคอลลินส์หายไปหมดอย่างรวดเร็ว แพทย์วินิจฉัยว่ามะเร็งกลิโอบลาสโตมานี้อันตรายเพราะมันเติบโตและขยายตัวอย่างก้าวร้าวภายในพื้นที่จำกัดของกะโหลกศีรษะ

มะเร็งที่คอลลินส์เป็นคือชนิด “มัลติฟอร์ม” ซึ่งมีลักษณะคล้ายสัตว์ประหลาดที่มีหนวดแผ่กระจายไปทั่วใต้สมอง และกำลังรุกล้ำกลีบสมองส่วนหน้า ซึ่งควบคุมบุคลิกภาพและความเป็น “ตัวตน” ของบุคคล

ผลการตัดชิ้นเนื้อยืนยันว่ามะเร็งของเขามีปัจจัยการเติบโตสูงถึง 30% ซึ่งหมายความว่าหากไม่ได้รับการรักษาใด ๆ เนื้องอกอาจขยายตัวจนทำให้เสียชีวิตภายใน 6 สัปดาห์ถึง 3 เดือน มะเร็งชนิดนี้ยังเป็นประเภท “Wild Type” ซึ่งมีการกลายพันธุ์หลายอย่างที่ทำให้รักษายากยิ่งขึ้นไปอีก

คอลลินส์เปรียบเทียบมะเร็งชนิดนี้กับสัตว์ในตำนานอย่าง ไฮดรา ที่ตัดหัวไปหนึ่งแต่กลับงอกมาสอง

คอลลินส์กล่าวว่า ในช่วงที่เขาได้รับข่าวร้าย เขาไม่ได้สติเต็มที่และจำไม่ได้มากนัก แต่สามีและครอบครัวก็ช่วยกันค้นคว้าและวางแผนการรักษา พวกเขาตัดสินใจพาเขาออกจากโรงพยาบาลเพื่อเริ่มการรักษาด้วยยา อะวาสติน (Avastin) และการฉายรังสี

หลังเริ่มการรักษาเพียงไม่กี่วัน อาการสับสนของคอลลินส์ก็เริ่มดีขึ้น ในการรักษาครั้งแรกเขาต้องนั่งรถเข็น แต่ในการรักษาครั้งที่สาม เขาสามารถเดินได้แล้ว และในช่วงกลางเดือนตุลาคม เขาก็เริ่มเดินเล่นรอบ ๆ บ้านได้

ในฐานะนักกีฬา คอลลินส์กล่าวว่า เขาเรียนรู้ที่จะไม่ตื่นตระหนกในช่วงเวลาวิกฤต และมองว่าการต่อสู้กับมะเร็งครั้งนี้คือความท้าทายที่ใหญ่ที่สุดในชีวิต เขาเปรียบเทียบสถานการณ์นี้กับการเผชิญหน้ากับ ชาคิลล์ โอนีล ในช่วงพีคของเขาในสนามบาสเกตบอล

คอลลินส์กล่าวถึงแรงขับเคลื่อนของนักกีฬาว่า “เราไม่ได้ประสบความสำเร็จโดยบังเอิญ แต่มันมาจากการทำงานหนัก ความมุ่งมั่น การเห็นอุปสรรค และการหาทางเอาชนะมัน”

เขายังเสริมด้วยว่า ได้รับกำลังใจจาก จาร์รอน พี่ชายฝาแฝด ซึ่งบอกว่า “นายต้องสู้ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น นายต้องสู้”

คอลลินส์มีความหวังว่าแนวทางการรักษาที่เขากำลังลองนี้ จะช่วยให้เขาต่อสู้กับมะเร็งได้นานพอที่จะได้รับภูมิคุ้มกันบำบัดแบบเฉพาะบุคคลที่กำลังพัฒนาขึ้น เขาย้ำว่าหากการรักษาที่เขาทำอยู่ไม่สามารถช่วยชีวิตเขาได้ อย่างน้อยมันอาจจะช่วยคนอื่นที่ได้รับการวินิจฉัยโรคแบบนี้ในอนาคตได้

“ตอนที่แพทย์แจ้งการวินิจฉัยโรคให้คุณย่า ท่านถูกบอกว่าจะมีชีวิตอยู่ได้อีก 6 เดือน แต่สุดท้าย ท่านกลับมีอายุยืนยาวกว่าแพทย์ที่ทำนายอาการของท่านเสียอีก ดังนั้น เมื่อแพทย์บอกว่าคุณมีเวลาอยู่เท่านี้ ในความคิดของผมก็คือ ใช่ ๆ ๆ ผมรู้ว่าผมยังเหลือไฟที่จะสู้มากกว่านั้น”

“ขณะที่ผมอยู่ในโรงพยาบาล เพื่อนและครอบครัวมาเยี่ยมเพื่อกล่าวคำอำลา เพราะตอนนั้นไม่มีใครรู้ว่าผมจะหลุดออกจากภาวะสับสนนี้ได้หรือไม่”

“ในฐานะนักกีฬา คุณเรียนรู้ที่จะไม่ตื่นตระหนกในช่วงเวลาเช่นนี้ นี่คือไพ่ที่ผมได้รับมา มันเหมือนกับการที่ผมบอกตัวเองว่า หุบปากแล้วไปดวลกับแชค (ชาคิลล์ โอนีล) คุณต้องการความท้าทายใช่ไหม นี่แหละคือความท้าทาย และไม่มีความท้าทายที่ไหนในการเล่นบาสเกตบอลที่ยิ่งใหญ่ไปกว่าการดวลกับชาคิลล์ โอนีล ในช่วงพีคของเขาอีกแล้ว ซึ่งผมเคยทำมาแล้ว” (ดูคลิป)

ทั้งนี้ คอลลินส์ ประกาศเปิดตัวว่า เป็นเกย์ในปี 2013 กลายเป็นนักกีฬาเกย์คนแรกที่เปิดเผยตัวว่าเป็นชาวสีม่วงในลีกกีฬาหลักทั้งสี่ชนิดของทวีปอเมริกาเหนือ ก่อนจะแขวนรองเท้าในปี 2014 หลังจากการเล่นใน NBA มายาวนาน 13 ปี โดยเจ้าตัวเคยเล่นให้กับหลายทีม ได้แก่ นิวเจอร์ซีย์ เน็ตส์, เมมฟิส กริซลีย์, มินเนโซตา ทิมเบอร์วูล์ฟส์, แอตแลนตา ฮอว์กส์, บอสตัน เซลติกส์, วอชิงตัน วิซาร์ดส์ และกลับไปเล่นให้ “เน็ตส์” อีกครั้งที่บรูคลิน

ตลอดอาชีพการเล่นของคอลลินส์ เขามีค่าเฉลี่ยทำได้ 3.6 แต้ม กับ 3.7 รีบาวด์ต่อเกม โดยฤดูกาลที่ดีที่สุดของเขาคือปี 2004-05 สมัยอยู่กับนิวเจอร์ซีย์ เน็ตส์ ซึ่งทำได้เฉลี่ย 6.4 แต้ม กับ 6.1 รีบาวด์ต่อเกม.

ที่มา : อีเอสพีเอ็น , เอพี

อ่านข่าวเพิ่มเติม

ติดตาม The Thaiger บน Google News:

Pachara

นักเขียนประจำที่ Thaiger จบการศึกษาด้านศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา เคยผ่านประสบการณ์ผู้สื่อข่าวกีฬา เริ่มเขียนบทความกับ Thaiger ตั้งแต่ปี 2021 วิ่งกับการอ่านหนังสือ คือ กิจกรรมที่สนใจเป็นพิเศษ ช่องทางติดต่อ pachara@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to top button