ไดกิ้นแจกทอง 3 บาท ฟังอีกมุม เปิดเงื่อนไขแจกย้ำเป็นสวัสดิการบอกไว้แต่แรก มานิตย์ ปิยัง ประธานสหภาพแรงงานไดกิ้นอมตะรักษ์เสรี ย้ำเสียงแข็งตัวแปรแท้จริง เจรจา 12 หนก่อนประกาศ “ปิดงาน” ขณะนี้พนักงาน 1500 ชีวิต กำลังเจอผลกระทบหนักหน่วง
เรียกว่าตั้งแต่มีการประกาศ “ปิดงาน” หนล่าสุดออกมาจากบริษัท ไดกิ้น อินดัสทรีส์ (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งหนังสือแจ้งปิดงานงดจ้าง “สหภาพแรงงานไดกิ้นอมตะรักษ์เสรีและสมาชิก” โดยมีการเจรจาครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2568 แต่ไม่สามารถตกลงกันได้ทั้ง 2 ฉบับ บริษัทฯ จึงขอยุติการเจรจาเมื่อเวลา 12.00 น. ทั้งนี้ บริษัทฯ ขอใช้สิทธิปิดงานงดจ้างกับสหภาพแรงงานไดกิ้นอมตะรักษ์เสรีและสมาชิกสหภาพที่เกี่ยวข้อง โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 6 ธ.ค.2568 เวลา 08.00 น. เป็นต้นไป
เปิดเงื่อนไขข้อตกลงสัญญาแจกทอง
อาศัยอำนาจตามกฎหมายแรงงานสัมพันธ์
- ใครโดนบ้าง – เฉพาะสมาชิกสหภาพแรงงานฯ (ประมาณ 1,500 คน) ส่วนพนักงานอื่นยังทำงานได้ปกติ
- ไม่ให้เข้างาน – ห้ามสมาชิกสหภาพฯ เข้าทำงาน
- ตัดท่อน้ำเลี้ยง – งดจ่ายค่าจ้างและสวัสดิการทุกชนิ
- มีผล – ตั้งแต่ 6 ธันวาคม เวลา 08.00 น. เป็นต้นไป

ด้าน มานิตย์ ปิยัง ประธานสหภาพแรงงานไดกิ้น ให้สัมภาษณ์ในรายการกรรมกรข่าว คุยนอกจอ ถึงกรณีที่บริษัทประกาศปิดงานงดจ้างว่า ตนเองไม่รู้มาก่อนและรู้สึกงงกับประกาศดังกล่าว เพราะมองว่าเรื่องนี้ควรจะพูดคุยกันได้ โดยขณะนี้มีพนักงานที่ได้รับผลกระทบประมาณ 1,500 คน ซึ่งหลังจากถูกปิดงานก็ต้องดำเนินการไปตามกระบวนการและรอหน่วยงานภาครัฐเข้ามาไกล่เกลี่ย โดยมีกำหนดนัดเจรจาอีกครั้งในวันที่ 8 ธันวาคมนี้
ส่วนเงื่อนไข “แจกทอง” ประธานสหภาพฯ อธิบายว่า เป็นสวัสดิการที่พนักงานเซ็นสัญญากับบริษัทแบบตัวต่อตัวมาตั้งแต่เข้าทำงาน เป็นระเบียบข้อบังคับเพื่อจูงใจในการทำงาน โดยหากพนักงานทำงานครบ 5 ปี ไม่ขาด ไม่ลา ไม่มาสาย จะได้รับทองคำ 1 บาท แต่เนื่องจากปัจจุบันทองคำมีราคาสูง บริษัทจึงต้องการเปลี่ยนเงื่อนไขและโยนเรื่องมาให้สหภาพรับแทน
ด้วยเหตุนี้ทางสหภาพฯ จึงมีเหตุผลที่จะไม่สามารถรับข้อเสนอได้ เพราะถือเป็นข้อตกลงสิทธิ์ส่วนบุคคล ระหว่าง “ลูกจ้าง” กับ “บริษัท” หากบริษัทต้องการยกเลิกควรไปคุยกับพนักงานเอง
นอกจากนี้ นายมานิตย์ ยังยืนยันเสียงแข็งว่า กระแสข่าวที่ระบุว่าสหภาพไปเรียกร้องโบนัส 11-12 เดือน บวกเงิน 1-2 แสนบาทนั้น “ไม่เป็นความจริง” โดยตัดพ้อว่า อยากให้สังคมเห็นใจพนักงาน เพราะเงินเดือนไม่ได้สูงและไม่พอค่าครองชีพจริงๆ หากไม่มีพนักงานฝ่ายผลิตช่วยกันทำงานเต็มที่ บริษัทก็คงไม่มีผลประกอบการที่ดีเช่นนี้
แม้ทางสหภาพฯ จะพยายามยื่นหนังสือขอเจรจาเป็น ครั้งที่ 12 ในวันที่ 8 ธ.ค. แต่ดูเหมือนบริษัทจะตัดสินใจเด็ดขาดแล้วที่จะ “Reset ระบบ” ครั้งนี้ และไม้ตายที่โหดที่สุดคือ: บริษัทประกาศจัดงาน “Daikin Career Day 2025” ในวันที่ 11 และ 16 ธันวาคม ทันที! เปิดรับสมัครพนักงานใหม่ทุกตำแหน่ง ตั้งแต่วิศวกรยันฝ่ายผลิต เป็นการส่งสัญญาณกดดันขั้นสูงสุดว่า “ถ้าคนเก่าไม่ยอมรับเงื่อนไข บริษัทพร้อมจะมีคนใหม่มาแทนที่เสมอ”

อย่างไรก็ดี เรื่องการแจกทองซึ่งเป็นสวัสดิการของ “ไดกิ้น” ได้มีระบุไว้โดยมีเงื่อนไข คือ พนักงานที่จะได้ต้องไม่ขาด ไม่ลา ไม่สาย
- ครบ 6 ปี + 6,000 + 1 บาท 1 สลึง
- ครบ 7 ปี + 7,000 + 1 บาท 2 สลึง
- ครบ 8 ปี + 8,000 +1 บาท 3 สลึง
- ครบ 9 ปี + 9,000 + 2 บาท
- ครบ 10 ปี + 10,000 + 3 บาท
ถ้าย้อนไปในช่วงนั้นคาดว่า ราคาทองคำเต็มที่คงไม่เกินบาทละ 22,000 บาท พอมาถึงปัจจุบันราคาทองคำพุ่งไปอยู่ที่บาทละ 60,000 กว่า จึงเกิดปัญหาที่หาทางออกร่วมกันไม่ได้นี้ขึ้นมา

เคสของไดกิ้นถ้าว่ากันตามข่าว คือ บริษัทระบุเอาไว้ในสัญญาจ้างเลยว่า ทำงานตามเงื่อนไขมาครบ 10 ปี ได้ทองคำ 3 บาท ฉะนั้น บริษัทจะไม่ให้ไม่ได้เพราะเป็นสภาพการจ้าง ยกเว้นจะคุยกับลูกจ้างได้ว่าขอเปลี่ยนแปลง ซึ่งแน่นอนลูกจ้างที่ทำงานตามเงื่อนไข (เห็นว่าเงื่อนไขเยอะอยู่) มาได้ 10 ปี แถมราคาทองตอนนี้ก็แบบสูงเอาเรื่อง 3 บาท (เกือบ 2 แสนบาท) ใครจะยอมเปลี่ยนแปลง อันนี้มองอีกมุมจึงเป็นสิทธิของลูกจ้างเพราะมันคือ สภาพการจ้างถูกระบุเอาไว้ในสัญญาจ้าง
ตอนนี้สิ่งที่ตกลงกันไม่ได้คือ “ทอง” ซึ่งเป็นระเบียบข้อบังคับบริษัทที่ผูกพันนายจ้างกับลูกจ้างโดยตรง สหภาพไม่เกี่ยว
ข้อมูลบางแหล่งอ้างว่า ถ้าบริษัทได้ออกเป็นลายลักษณ์อักษรแบบนี้ในคู่มือข้อบังคับและแจ้งพนักงานทราบแล้ว ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของสัญญาจ้างโดยอัตโนมัติ ตามกฏหมายแรงงานไดกิ้นอาจจะแพ้ข้อนี้ “เรื่องทอง ก็ต้องให้”
ทั้งนี้ อ้างอิงข้อมูลล่าสุดจากประชาไทระบุ ในด้านผลกระทบจะมีพนักงานที่เป็นสมาชิกสหภาพแรงงานบริษัท ไดกิ้น อินดัสทรีส์ สาขา อมตะรักษ์เสรี จ.ชลบุรี จำนวน 1,500 คน จะถูกปิดงาน หรือจะไม่ต้องมาทำงานและไม่ได้รับเงินเดือน

เปิดข้อสรุปเบื้องต้นจาก รองอธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน
ขณะเดียวกัน พงศ์เทพ เพชรโสม รองอธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน กล่าวถึงเรื่องนี้ตัวเลขของพนักงานที่ถูกปิดงานมีประมาณ 1,700 กว่าคน แต่ย้ำว่า ยังไม่ใช่การเลิกจ้าง และถือเป็นสิทธิที่นายจ้างสามารถทำได้ โดยการปิดงานถือเป็นกลไกตามพ.ร.บ.แรงงานสัมพันธ์ พ.ศ. 2518
การเจรจาที่ยังไม่คืบหน้าไปไหน นายพงศ์เทพ เปิดเผยว่า ส่วนหนึ่งเป็นเพราะเรื่องราคาทอง เพราะขณะที่ทำสัญญาเรื่องการให้ทองเมื่อทำงานครบจำนวนปี ราคาทองไม่ได้ผันผวนเท่านี้ อย่างปีที่แล้วทางบริษัทจ่ายเงินค่าทองประมาณ 100 ล้านบาท และปีนี้คาดว่า น่าจะเพิ่มขึ้นอีกเท่าตัวคิดเป็นมูลค่าประมาณ 200 ล้านบาท
ส่วนประเด็นเรื่องไม่สามารถเปลี่ยนแปลงข้อตกลงสัญญาได้นั้น นายพงศ์เทพ อธิบายว่า ตัวสัญญาดังกล่าวเป็นการใช้สิทธิตามพ.ร.บ.แรงงานสัมพันธ์ ซึ่งตามกฎหมายสามารถปรับปรุง เปลี่ยนแปลงสิทธิประโยชน์นอกเหนือจากที่กฎหมายกำหนดได้ โดยจะเป็นการตกลงกันระหว่างนายจ้าง และลุกจ้าง
โดยวันที่ 8 ธ.ค.นี้ ซึ่งจะมีการพูดคุยระหว่างนายจ้าง และลูกจ้าง ทางกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน เตรียมจะเข้าประชุมร่วมระหว่างนายจ้าง และลูกจ้าง เพื่อพยายามหาข้อยุติให้เร็วที่สุด
ส่วนจะต้องใช้อำนาจรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานในการสั่งให้เปิดการจ้างงานหรือไม่นั้น ต้องดูตามเงื่อนไขของกฎหมายซึ่งระบุไว้ว่า หากการปิดงานดังกล่าวกระทบต่อความมั่นคง เศรษฐกิจ ความสงบเรียบร้อยของประชาชน รัฐมนตรีสามารถดำเนินการได้
แต่วันนี้ยังไม่ต้องถึงขั้นต้องใช้อำนาจของรัฐมนตรี เพราะทั้ง 2 ฝ่าย ยังประสงค์ให้กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานเข้าไปไกล่เกลี่ยพุดคุยอยู่
ส่วนเรื่องโบนัสตอนนี้การเจรจาของทั้ง 2 ฝ่าย ยังอยู่ระหว่างการตกลงเรื่องตัวเลขซึ่งค่อนข้างใกล้เคียงกัน โดยนายจ้างให้ 6 เดือน แต่ลูกจ้างขอ 7 เดือน สุดท้ายก็คงอยุ่ที่การพูดคุย และหาตัวเลขระหว่างกลางที่ทุกคนยอมรับได้ และวินวินทั้ง 2 ฝ่าย ซึ่งทางกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน ขอย้ำว่าจะพยายามช่วยเร่งหาข้อยุติให้เร็วที่สุด.

อ่านข่าวเพิ่มเติม
- สรุปให้ ไดกิ้น ปิดงานมีผล 6 ธ.ค. ไม่ใช่เลิกจ้าง เปิดมุมนายจ้าง-พนง.ใครเจ็บสุด
- ไดกิ้นไปต่อ! ไม่ง้อคนเก่า ประกาศรับพนง.ใหม่ ยืนโบนัส 6 เดือน+12000
ติดตาม The Thaiger บน Google News:





