ข่าว

ล้อกันสนุก ซีเกมส์ 2025 “อวสาน AI” โปรโมตกีฬายังไงให้ดู “ด้อยค่าตัวเอง”

ผลพวง ดราม่าซีเกมส์ ภาพกราฟิกโปรโมตงานวิ่ง “33rd SEA Games Virtual Run” ถูกจับโป๊ะ ล้อกันสนุก ซีเกมส์ไทยแลนด์ 2568 “อวสาน AI” โปรโมตแข่งกีฬายังไงให้ดูไร้ค่า ล่าสุดเพจทีมฟุตบอลดังเยอรมนี ขอแจมพร้อมติดแคปชั่นเจ็บ

ตามที่มีเสียงวิพาหษ์วิจารณ์อย่างหนัก ! ถึงกรณีดราม่าการจัดการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ โดยล่าสุด เพจ SEA GAMES Thailand 2025 โพสต์ประชาสัมพันธ์กิจกรรม Virtual Run วิ่งเสมือนจริง แต่กลับถูกหลายคนจับผิดสนั่นพร้อมกับเสียงสับเละไม่มีชิ้นดีถึงการจัดการที่สุดชุ่ย ! เพราะโปสเตอร์โปรโมตที่ใช้ สร้างจากเอไอ AI ไม่เท่าไหร่ แต่ที่ผิดพลาดมหันต์ คือไม่มีการตรวจสอบ โดยแค่งานง่ายๆ อย่างการตรวจสอบทานไวยากรณ์ของภาษาอังกฤษที่ใช้โปรโมตก็ดูจะผิดพลาดเกินเบอร์จนไม่น่าให้อภัย

แถมยังมีรายละเอียดเพี้ยนหลายจุด จนถูกวิจารณ์หนักว่า “ไม่สมศักดิ์ศรีงานระดับนานาชาติ”

ตัวอย่างที่ถูกโจมตีมาก ไม่พ้นภาพกราฟิกโปรโมตงานวิ่ง “33rd SEA Games Virtual Run” ถูกจับโป๊ะ โดยทีมงานไทยรัฐทีวีโชว์ตีแผ่จุดผิดพลาดชนิดไม่น่าเชื่อว่า ทีมงานตรวจสอบของภาครัฐจะปล่อยปละละเลยได้ถึงเพียงนี้

จุดแรก “มิ้นต์” อรชพร ชลาดลคำ ในฐานะคนจบคณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ตำหนิตรงๆ ประโยค “BE PART OF HISTORY JOIN THE 33rd SEA GAMES VIRTUAL RUN”

เนื้อหาข้างต้นผู้ประกาศข่าวสาวยืนยันว่า ประโยคที่ถูกต้องนั้น ต้องขึ้นแค่คำว่า”BE PART OF HISTORY” โดยคำว่า “JOIN” ต้องอยู่ข้างล่าง ตามหลักการเรียงไวยากรณ์ภาษาที่ถูกต้อง ภาพที่เห็นจึงไม่น่าเชื่อว่าจะปล่อยผ่านโดยไม่มีการตรวจสอบมาได้อย่างไร

เท่านั้นไม่พอ รายละเอียดเรื่องของวันที่ในโปสเตอร์โปรโมตดังกล่าวก็ระบุวันที่จบทัวร์นาเมนต์คลาดเคลื่อนของซีเกมส์ครั้งที่ 33 หนนี้ จะจัดถึงวันที่ 20 ธันวาคม 2568 เท่านั้น ไม่ใช่ 31 ธ.ค.

รวมถึงการใส่โลโก้สปอนเซอร์ที่หลายเสียงก็มองว่า ปกติที่เคยเห็นโปสเตอร์โปรโมตของประเทศสากลอื่นๆ ไม่เห็นมีโลโก้ผู้สนับสนุนมากมาย เท่ากับซีเกมส์ที่บ้านเราจัดเที่ยวล่าสุดมาก่อน

ถ้าคิดว่าอันนี้พลาดหนักแล้ว ล่าสุดเฟซบุ๊กแฟนเพจ FC Augsburg อย่างเป็นทางการของสโมสรฟุตบอลเอาส์บวร์กในบุนเดสลีกาเยอรมนี ถึงกับนำโปสเตอร์โปรโมตซีเกมส์ “33rd SEA Games Virtual Run” ไปลงโพสต์ล้อเลียนพร้อมกับติดแคปชั่น “เมื่อมีงานด่วนเข้ามา”

ทั้งนี้ภาพที่เป็นประเด็นนั้น มีการระบุเป็นผลงานที่มาจาก “บริษัทที่ชนะการเสนอราคาแบบวิธีเฉพาะเจาะจง” สำหรับดูแลสื่อสารผ่านช่องทางออนไลน์ทางการของซีเกมส์ (SEA Games) ด้วยงบประมาณสูง 8 ล้านบาท

ขณะเดียวกัน อีกประเด็นที่โดนตำหนืเรื่องป้ายโปรโมตใกล้กับจุดคบเพลิง ในสนามราชมังคลากีฬาสถาน ซึ่งปรากฏโลโก้ของสปอน์เซอร์โชว์หราอีกเช่นกัน รายงานล่าสุดจากกกท. ด้านของดร.ก้องศักดิ ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ได้มีการสั่งปลดป้ายดังกล่าวแล้ว พร้อมขอบคุณทุกเสียงตำหนิของประชาชน

run to augsburg
แฟ้มภาพ Facebook @fcaugsburgenglish

ทั้งนี้ นางสาวอัยรินทร์ พันธุ์ฤทธิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยวานนี้ (4 ธ.ค.68) โดยระบุชัดเจนว่า ประเทศไทยในฐานะเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 มีความพร้อมเต็ม 100% โดยกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่ได้รับมอบหมายจากรัฐบาล เตรียมนับถอยหลังเข้าสู่โค้งสุดท้ายก่อนเริ่มการแข่งขันฯ ระหว่างวันที่ 9-20 ธันวาคม 2568 นี้ ซึ่งบรรจุการแข่งขัน 50 ชนิดกีฬา รวมทั้งสิ้น 574 เหรียญทอง และมี 3 กีฬาสาธิต รวมถึง 1 กีฬาสร้างมูลค่า ในการแข่งขันฯ ครั้งนี้ ซึ่งจะถ่ายทอดสดมากที่สุดเท่าที่เคยมีมา โดยสถานีโทรทัศน์แห่งประเทศไทย (NBT) ทำหน้าที่เป็นแม่ข่ายหลัก

ขณะที่สื่อประเทศเพื่อนบ้านอย่าง เดอะสตาร์ของมาเลเซีย ถึงกับพาดหัววานนี้ (4 ธ.ค.) ว่า “จับตาซีเกมส์ 2025 ไทยเจอดราม่ารุมเร้า ทั้งโปรโมตเงียบ สนามไม่พร้อม เบี้ยเลี้ยงค้างจ่าย และการเมือง

โดยระบุ มหกรรมกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ซึ่งมีกำหนดเปิดฉากอย่างเป็นทางการ ในวันที่ 9 ธันวาคมนี้ ถือเป็นการกลับมาเป็นเจ้าภาพของไทยอีกครั้งในรอบ 18 ปี แม้ฝ่ายจัดการแข่งขันจะยืนยันหนักแน่นว่า “พร้อม 100%” แต่เสียงตอบรับจากประชาชนและโลกโซเชียลกลับมองต่างมุม โดยพุ่งเป้าไปที่ “ความไม่พร้อม” และ “บรรยากาศที่เงียบเหงา” อย่างน่าใจหาย

แบ่งเป็น 4 ประเด็นหลัก ซึ่งเป็นข้อถกเถียงในวงกว้าง ดังนี้

1. การโปรโมตที่เงียบกริบ: ซีเกมส์ที่คนรู้น้อยที่สุด

แม้จะเหลือเวลาอีกไม่กี่วัน แต่ซีเกมส์ครั้งนี้ได้รับฉายาว่าเป็น “ซีเกมส์ที่เงียบที่สุดในประวัติศาสตร์” คนไทยจำนวนมากยังไม่รู้ตารางการแข่งขัน ไม่รู้สถานที่จัดงาน หรือบางคนแทบไม่รู้ด้วยซ้ำว่ากำลังจะมีงานนี้เกิดขึ้น ซึ่งแตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับบรรยากาศในอดีต อย่างเช่นซีเกมส์ปี 1995 ที่เพลง “Win It In Your Heart” ดังกระหึ่มไปทั่วประเทศ

นายอรรถกร ศิริลัทธยากร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (ในฐานะตัวแทนฝ่ายรัฐบาลที่ดูแล) ปฏิเสธข้อครหาเรื่องความไม่พร้อม แต่ยอมรับว่าต้องเร่งเครื่องประชาสัมพันธ์ให้มากกว่านี้ โดยตั้งเป้าว่าหากแผนโปรโมตสำเร็จ จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้ถึง 15,000 ล้านบาท

2. ย้ายสนามวุ่น ความล่าช้าและภัยธรรมชาติ

เดิมทีแผนการจัดการแข่งขันกระจายอยู่ใน 3 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพฯ ชลบุรี และสงขลา แต่สถานการณ์น้ำท่วมในภาคใต้ทำให้ฝ่ายจัดต้องย้ายการแข่งขัน 10 ชนิดกีฬามาที่กรุงเทพฯ และชลบุรีแทน เพื่อความปลอดภัย

นอกจากนี้ ปัญหาการก่อสร้างสนามยังคงน่าเป็นห่วง โดยเฉพาะสระว่ายน้ำที่การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ซึ่งมีความล่าช้าจนหลายฝ่ายกังวลเรื่องงบประมาณอุปกรณ์ที่อาจพุ่งสูงขึ้น ปัญหาเหล่านี้ทำให้หลายคนนึกย้อนไปถึงความล้มเหลวของการจัดเอเชียนอินดอร์และมาร์เชียลอาร์ตเกมส์ที่ถูกยกเลิกไปเมื่อปีก่อน

3. ดราม่าเบี้ยเลี้ยงนักกีฬา

ประเด็นที่สร้างความไม่พอใจมากที่สุดคือ การลดเบี้ยเลี้ยงและการจ่ายเงินล่าช้า ซึ่งบั่นทอนกำลังใจนักกีฬาอย่างหนัก กรณีของ “หมิว” พรปวีณ์ ช่อชูวงศ์ นักแบดมินตันทีมชาติไทย ที่ถอนตัวจากการแข่งขันในตอนแรก ก่อนที่ผู้ใหญ่จะเกลี้ยกล่อมให้กลับมาลงแข่งในภายหลัง เป็นตัวอย่างที่ชัดเจน

4. การเมืองกีฬาระหว่างประเทศ “กัมพูชาถอนตัวและตารางแข่งรวน”

กัมพูชาประกาศถอนตัวจากการแข่งขันหลายรายการอย่างกะทันหัน โดยอ้างเหตุผลเรื่อง “ความปลอดภัย” จากเหตุปะทะตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา แต่หลายฝ่ายตั้งข้อสังเกตว่าเรื่องนี้น่าจะเกี่ยวข้องกับความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ ซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงต่อมหกรรมกีฬาแห่งอาเซียน

การถอนตัวของกัมพูชาทำให้ตารางการแข่งขันต้องเลื่อนออกไป และบางรายการยังไม่มีกำหนดวันที่ชัดเจน ซึ่งกลายเป็นอีกจุดที่ถูกนำมาวิจารณ์ถึงความไม่พร้อมของเจ้าภาพ

ปิดท้ายด้วยดราม่า “ทีมจัดพิธีเปิด” โดนเทกลางอากาศ

ก่อนหน้านี้ไม่นาน เรืองฤทธิ์ สันติสุข อาร์ตไดเรกเตอร์ชื่อดัง ออกมาเปิดเผยความจริงสุดช้ำเกี่ยวกับแผนงานพิธีเปิด-ปิดซีเกมส์ 2025 ที่พังไม่เป็นท่า เขาและทีมงานเล็ก ๆ ทุ่มเททำงานมานานกว่า 7 เดือน แต่กลับถูกเปลี่ยนทีมใหม่เข้ามาแทนที่ในช่วงกลางเดือนตุลาคม และประเด็นนี้ก็เสียงดังพอที่สื่อเพื่อนบ้านจะหยิบยกและนำไปเผยแพร่ต่อ

เรืองฤทธิ์เล่าว่า ทีมของเขาเข้ามารับงานตั้งแต่เดือนมีนาคม โดยใช้ทุนส่วนตัวในการออกแบบงานทั้งหมดตั้งแต่เริ่มต้น ทั้งการวางคอนเซปต์โชว์และทำแบบจำลองเวที จนได้รับการอนุมัติในเบื้องต้น

ช่วงแรกการเตรียมงานเป็นไปอย่างราบรื่น แต่เมื่อถึงเดือนกรกฎาคม ปัญหาเรื่องงบประมาณและความกังวลด้านความปลอดภัยจากเหตุชายแดนไทย-กัมพูชา ทำให้มีการเปลี่ยนสถานที่จัดพิธีเปิดจากสนามหลวงมาเป็นราชมังคลากีฬาสถาน

Rueangrith Suntisuk Ton
ภาพจาก Facebook @rueangrith

แม้จะเจอโจทย์ยาก แต่ทีมงานยังคงเดินหน้าปรับแก้รูปแบบงานใหม่ แต่จุดเปลี่ยนสำคัญเกิดขึ้นในเดือนกันยายน หลังมีการเปลี่ยนแปลงรัฐบาล การสื่อสารกับภาครัฐเริ่มติดขัด ทีมงานไม่ได้รับคำตอบที่ชัดเจนและการอนุมัติต่าง ๆ ล่าช้าออกไป

จนกระทั่งต้นเดือนตุลาคม เรืองฤทธิ์ได้รับแจ้งว่ามีทีมงานซีเกมส์ชุดใหม่เข้ามาตรวจพื้นที่ราชมังคลากีฬาสถาน และเริ่มประชุมกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงชุดเดิม เมื่อรอคำยืนยันอีก 2 สัปดาห์แต่ไร้วี่แวว ทีมของเขาจึงตัดสินใจยุติบทบาท เพราะไม่สามารถแบกรับความไม่แน่นอนต่อไปได้

เรืองฤทธิ์ แสดงความผิดหวังที่พลาดโอกาสสร้างสรรค์ผลงานที่มีความหมาย แต่เขายังคงตั้งใจที่จะท้าทายระบบการทำงานที่ปิดกั้นความคิดสร้างสรรค์ โดยหวังว่าบทเรียนครั้งนี้จะนำไปสู่การปรับปรุงในโครงการระดับชาติครั้งต่อไป

เขาทิ้งท้ายอย่างมีสปิริตว่า “แม้ผมจะไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของโปรเจกต์นี้แล้ว แต่ผมขอส่งกำลังใจให้คนที่ยังทำงานอยู่ ขอให้ฝ่าฟันอุปสรรคและจัดงานที่ปลอดภัยและน่าภาคภูมิใจให้กับประเทศของเราให้สำเร็จ”.

อัยรินทร์ ไทยพร้อมจัดซีเกมส์ 100 %
ภาพ @รัฐบาลไทย
ป้ายโปรโมตซีเกมส์ในสนามราชมังคลากีฬาสถาน
ภาพ @สรยุทธ สุทัศนะจินดา กรรมกรข่าว
ป้ายสปอนเซอร์ใกล้ที่จุด คบเพลิงซีเกมส์
ภาพ @สรยุทธ สุทัศนะจินดา กรรมกรข่าว

อ่านข่าวเพิ่มเติม

ติดตาม The Thaiger บน Google News:

Pachara

นักเขียนประจำที่ Thaiger จบการศึกษาด้านศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา เคยผ่านประสบการณ์ผู้สื่อข่าวกีฬา เริ่มเขียนบทความกับ Thaiger ตั้งแต่ปี 2021 วิ่งกับการอ่านหนังสือ คือ กิจกรรมที่สนใจเป็นพิเศษ ช่องทางติดต่อ pachara@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to top button