ข่าว

ประวัติ กิ่งแก้ว ลอสูงเนิน ตัวจริง ตำนานนักโทษประหารหญิง สู่หนังผีสุดสยอง

ประวัติ กิ่งแก้ว ลอสูงเนิน ตัวจริง พี่เลี้ยงเด็ก ตำนานนักโทษประหารหญิง คดีลักพาตัว–ฆ่าเด็ก สู่หนังผีสุดสยอง

วันที่ 13 มกราคม พ.ศ. 2522 ณ เรือนจำกลางบางขวาง จังหวัดนนทบุรี บรรยากาศยามเย็นเต็มไปด้วยความตึงเครียด เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์นำตัวหญิงสาววัย 28 ปีคนหนึ่งเข้าสู่ลานประหาร เธอชื่อ กิ่งแก้ว ลอสูงเนิน นักโทษประหารหญิงคนที่ 2 ในประวัติศาสตร์ไทยต่อจาก นางใย สนบำรุง ที่ถูกตัดสินโทษด้วยการยิงเป้า เสียงร่ำไห้คร่ำครวญของกิ่งแก้วว่า “ฉันไม่ผิด” ดังระงมไปทั่วบริเวณ

แต่สิ่งที่ทำให้การประหารครั้งนี้กลายเป็นตำนานเล่าขานไม่ใช่เพียงเสียงร้องขอชีวิต หากแต่เป็นเหตุการณ์หลังสิ้นเสียงปืนชุดแรก เมื่อเจ้าหน้าที่นำร่างของกิ่งแก้วลงจากหลักประหารเพราะเข้าใจว่าตายแล้ว กลับต้องตกตะลึง เพราะกิ่งแก้วยังคงมีลมหายใจ พยายามส่งเสียงร้อง ขยับตัวคล้ายจะลุกขึ้นมา เพชฌฆาตจำต้องนำตัวเธอกลับขึ้นหลักประหารอีกครั้งเพื่อระดมยิงซ้ำจนแน่ใจว่าสิ้นใจในที่สุด

ก่อนที่เรื่องราวของกิ่งแก้ว จะถูกเล่าขานเป็นตำนานวิญญาณเฮี้ยนหรือ “ผีกิ่งแก้ว” ในปี 2026 นี้ เธอเคยเป็นเพียงผู้หญิงคนหนึ่งที่ดิ้นรนเข้ามาหางานทำในเมืองหลวง ก่อนชะตาชีวิตจะพลิกผันไปสู่จุดจบที่น่าสลดหดหู่ที่สุดครั้งหนึ่งในหน้าประวัติศาสตร์ไทย

ภาพจำลอง วันประหารกิ่งแก้ว

กิ่งแก้วตัวจริงคือใคร ชีวิตผู้หญิงต่างจังหวัดในเมืองใหญ่

กิ่งแก้ว ลอสูงเนิน เกิดเมื่อปี พ.ศ. 2493 เป็นหญิงสาวจากต่างจังหวัด มีรายงานว่าเป็นชาวนครราชสีมา เดินทางเข้ามาแสวงหาโอกาสในกรุงเทพมหานคร เริ่มต้นอาชีพด้วยการรับจ้างทั่วไป เป็นแม่บ้าน พี่เลี้ยงเด็กตามบ้านนายจ้างเพื่อหาเลี้ยงชีพ

มีข้อมูลระบุว่าช่วงหนึ่งของชีวิต กิ่งแก้วเคยเข้ารับการรักษาอาการป่วยทางจิตเวชที่โรงพยาบาลสมเด็จเจ้าพระยา มีความเปราะบางทางอารมณ์ที่แบกรับไว้เงียบ ๆ ก่อนจะเกิดเหตุโศกนาฏกรรม

ในเวลาต่อมา กิ่งแก้วได้งานเป็นพี่เลี้ยงเด็กให้กับครอบครัวเจ้าของร้านอาหารชื่อดัง “สมบูรณ์โภชนา” ในกรุงเทพฯ มีหน้าที่หลักคือดูแลลูกชายวัย 6 ขวบของนายจ้าง

วันที่ถูกเลิกจ้าง กับจุดเริ่มต้นแผนลักพาตัว

ในช่วงแรกของการทำงาน กิ่งแก้วทำหน้าที่ดูแลเด็กชายได้เป็นอย่างดีจนเด็กติดแจ นายจ้างไว้วางใจให้ไปรับส่งที่โรงเรียนเป็นประจำ แต่ปรากฎว่าหญิงสาวรับใช้เริ่มบกพร่องต่อหน้าที่งานบ้านส่วนอื่น เพราะมัวแต่ทุ่มเทเวลาดูแลเด็กชายเพียงอย่างเดียว นายจ้างจึงตัดสินใจให้ออกกะทันหันในวันที่ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2521 หลังจากทำงานได้เพียงประมาณ 2 เดือน

การตกงานกะทันหันสร้างความเคียดแค้นกับความขัดสนเรื่องเงินทองให้แก่กิ่งแก้วอย่างมาก ในช่วงเวลาที่มืดมนนี้ เธอได้ปรึกษากับ “ปิ่น พึ่งญาติ” แฟนหนุ่มวัย 28 ปี ซึ่งมีประวัติอาชญากรรมติดตัว และกลุ่มเพื่อนเพื่อหาทางออก ความโกรธแค้นผสมโรงกับความต้องการเงิน นำไปสู่การวางแผนลักพาตัว ด.ช.วีระชัย ศรีเจริญสุขยิ่ง ลูกชายของอดีตนายจ้าง เพื่อเรียกค่าไถ่จำนวน 200,000 บาท

แผนการเริ่มขึ้นเมื่อวันที่ 17 ตุลาคม พ.ศ. 2521 กิ่งแก้วใช้ต้นทุนความไว้เนื้อเชื่อใจที่เคยสร้างไว้ เดินทางไปที่โรงเรียนคริสต์ธรรมศึกษา ขอรับตัวเด็กชายวีระชัยออกมา โดยอ้างกับครูพี่เลี้ยงว่าจะพาเด็กไปเที่ยวต่างจังหวัด ด้วยความคุ้นเคยที่กิ่งแก้วเคยมารับส่งเด็กเป็นประจำ ทำให้ไม่มีใครเอะใจสงสัย เด็กชายวีระชัยจึงเดินออกจากโรงเรียนไปกับพี่เลี้ยงคนสนิท โดยไม่รู้เลยว่านั่นคือการเดินทางครั้งสุดท้ายของชีวิต

กิ่งแก้วกับพวกพาตัวเด็กเดินทางไปยังตำบลจันทึก อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา เพื่อซ่อนตัว จากนั้นจึงส่งจดหมายเรียกค่าไถ่ถึงครอบครัวของเด็ก ระบุเงื่อนไขให้นำเงินใส่ถุงโยนลงจากรถไฟตรงจุดที่มีธงขาวปักไว้ ระหว่างสถานีรถไฟจันทึกกับสถานีปากช่อง พร้อมคำขู่ว่าหากไม่ทำตามหรือแจ้งตำรวจ เด็กจะถูกฆ่าทันที

คืนสังหารเหยื่อวัย 6 ขวบ ดินอุดปาก ฝังศพกลางดิน สะกดวิญญาณ

ในคืนวันนัดหมายส่งมอบเงิน ความมืดเป็นอุปสรรคสำคัญทำให้พ่อของเด็กมองไม่เห็นจุดปักธงขาวที่คนร้ายกำหนดไว้ จึงไม่สามารถโยนถุงเงินลงไปได้ทันเวลา แม้จะพยายามประสานงานกับตำรวจเพื่อค้นหาจุดนัดพบในภายหลังแต่ก็ไร้ผล เมื่อแผนการรับเงินล้มเหลว กลุ่มคนร้ายจึงตัดสินใจใช้มาตรการขั้นเด็ดขาด สังหารเหยื่อเพื่อปิดปาก

คืนนั้นเต็มไปด้วยความโหดร้าย กลุ่มคนร้ายบังคับให้กิ่งแก้วเป็นผู้ลงมือสังหารเด็ก ขณะที่เด็กชายกำลังนอนหลับอยู่บนตักของเธอ กิ่งแก้วจำต้องจับมีดแทงลงไป แต่เด็กสะดุ้งตื่นขึ้นมาด้วยความเจ็บปวดและร้องเรียกชื่อเธอ เสียงเรียกนั้นทำให้กิ่งแก้วเกิดความลังเล สะเทือนใจจนทำต่อไม่ไหว เพื่อนร่วมแก๊งจึงไล่เธอออกไปให้พ้นทาง ก่อนจะรุมทำร้ายเด็กซ้ำ ทั้งแทงและหักคอจนแน่ใจว่าเสียชีวิต จากนั้นจึงนำศพไปฝังในหลุมที่เตรียมไว้ พร้อมทำพิธีกรรมทางไสยศาสตร์ด้วยการอุดดินใส่ปากศพเพื่อสะกดวิญญาณไม่ให้ตามมาหลอกหลอน

กิ่งแก้ว คืนสังหารเหยื่อวัย 6 ขวบ ดินอุดปาก ฝังศพกลางดิน สะกดวิญญาณ

กิ่งแก้วโดนจับ กับคำพิพากษาโทษประหาร

หลังก่อเหตุสะเทือนขวัญได้เพียง 2 วัน เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถติดตามจับกุมคนร้ายได้ เริ่มจับกุม กิ่งแก้ว, ทองสุข และทองม้วน ได้ก่อนในวันที่ 19 ตุลาคม 2521 ส่วนหัวหน้าแก๊งอย่าง ปิ่น พึ่งญาติ และ เกษม ซึ่งหลบหนีไป ถูกตามจับกุมได้ในเวลาต่อมาที่ จังหวัดชัยภูมิ และพื้นที่ใกล้เคียง

ในชั้นสอบสวน กิ่งแก้วให้การปฏิเสธ อ้างว่าตนเองไม่ได้อยากฆ่าเด็ก แต่ถูกสถานการณ์บีบคั้นและถูกแฟนหนุ่มกดดัน กิ่งแก้วพยายามฆ่าตัวตายหลายครั้งในห้องขังเพราะความเครียดและภาพหลอนของเหยื่อ คดีนี้ได้รับความสนใจจากประชาชนอย่างล้นหลาม สื่อมวลชนทุกสำนักต่างนำเสนอข่าวกันอย่างครึกโครม

บทสรุปของคดีมาถึงเมื่อ พลเอก เกรียงศักดิ์ ชมะนันทน์ นายกรัฐมนตรีในขณะนั้น ใช้อำนาจตามมาตรา 200 แห่งรัฐธรรมนูญ สั่งลงโทษประหารชีวิตกิ่งแก้ว ลอสูงเนิน และปิ่น พึ่งญาติ (แฟนหนุ่ม) รวมถึงผู้ร่วมขบวนการบางส่วน

สำหรับผู้สมรู้ร่วมคิดคนอื่น ๆ ศาลได้มีคำพิพากษาแยกย่อยออกไป โดย ทองม้วน โกบโคกกรวด ต้องโทษจำคุกตลอดชีวิต ส่วน ทองสุข พู่วิเศษ และ สะธิ สีดี ถูกตัดสินจำคุกคนละ 20 ปี

ประวัติ กิ่งแก้ว ลอสูงเนิน ตัวจริง ตำนานนักโทษประหารหญิง สู่หนังผีสุดสยอง

วันยิงเป้ากิ่งแก้ว กระสุน หัวใจ กับร่างที่ยังหายใจ

เย็นวันที่ 13 มกราคม 2522 กิ่งแก้วถูกนำตัวเข้าสู่ลานประหารเป็นคนแรกในเวลา 17.40 น. เพชฌฆาตลั่นไกปืนไรเฟิลใส่ร่างหญิงฆาตกรตามขั้นตอน หลังสิ้นเสียงปืน เจ้าหน้าที่ตรวจสอบเบื้องต้นและเข้าใจว่าเธอเสียชีวิตแล้ว จึงปลดร่างลงจากหลักประหาร

แต่แล้วเหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น เมื่อกิ่งแก้วเริ่มขยับตัวและส่งเสียงร้องขอชีวิต สร้างความตกตะลึงให้กับเจ้าหน้าที่ทุกคน แพทย์สันนิษฐานในภายหลังว่า สาเหตุที่กิ่งแก้วรอดชีวิตจากการยิงชุดแรกเป็นเพราะ หัวใจของเธออยู่ค่อนไปทางด้านขวาของหน้าอกมากกว่าคนปกติ ทำให้กระสุนชุดแรกไม่ถูกอวัยวะสำคัญอย่างจัง

เจ้าหน้าที่ต้องรีบนำตัวกลับขึ้นหลักประหาร เล็งเป้าใหม่ไปทางขวาเล็กน้อย ก่อนจะระดมยิงซ้ำจนกระทั่งกิ่งเสียชีวิตในที่สุด เช่นเดียวกับ ปิ่น พึ่งญาติ แฟนหนุ่มของเธอ ที่ต้องถูกยิงซ้ำ 2 ชุดก่อนจะเสียชีวิตในวันเดียวกัน

ตำนานผีกิ่งแก้วในเรือนจำบางขวาง

เรื่องราวสยดสยองในวันประหาร ได้กลายเป็นเชื้อไฟชั้นดีให้เกิดเรื่องเล่าขานต่อมาอีกหลายทศวรรษ ตำนาน “ผีกิ่งแก้ว” กลายเป็นเรื่องสยองขวัญประจำเรือนจำบางขวาง มีคำร่ำลือจากชาวบ้านและผู้คุมบางส่วนว่าพบเห็นวิญญาณหรือได้ยินเสียงร้องโหยหวนในยามค่ำคืน

เรื่องราวของกิ่งแก้วยังถูกถ่ายทอดผ่านสื่อบันเทิงมาอย่างต่อเนื่อง เช่น ในภาพยนตร์เรื่อง “เพชฌฆาต” (2557) ที่สร้างจากบันทึกของเชาวเรศน์ จารุบุณย์ เพชฌฆาตคนสุดท้าย ก็มีฉากนักโทษหญิงยิงเป้าไม่ตายที่ถอดแบบมาจากกรณีของกิ่งแก้ว หรือในปี 2562 สื่อใหญ่อย่างไทยรัฐก็นำเสนอสกู๊ป “3 นาทีคดีดัง” เจาะลึกเรื่องราวของเธอเพื่อไขข้อข้องใจต่างๆ

ล่าสุด เรื่องราวของกิ่งแก้วถูกนำมาตีความใหม่ในรูปแบบภาพยนตร์สยองขวัญเรื่อง “กิ่งแก้ว” ผู้กำกับ เอกชัย ศรีวิชัย ทรายเจริญปุระ แสดงเป็น กิ่งแก้ว

ภาพยนตร์เรื่องนี้นำเอาประโยคสุดท้ายของเจ้าตัวที่ว่า “ฉันไม่ผิด” มาเป็นแกนหลักในการเล่าเรื่อง สะท้อนให้เห็นว่าแม้เวลาจะผ่านไปกว่า 40 ปี ชื่อของกิ่งแก้วยังคงมีมนต์ขลังในการดึงดูดความสนใจของสังคมไทย

เมื่อคดีจริงกลายเป็นหนังผี เรามองกิ่งแก้วในฐานะอะไร

ทราย เจริญปุระ แสดงเป็นกิ่งแก้ว

จากคดีอาชญากรรมสะเทือนขวัญสู่ตำนานเมืองเรื่องผี ภาพยนตร์เรื่อง “กิ่งแก้ว” ซึ่งมีกำหนดฉายจริงในวันที่ 29 มกราคม 2569 เป็นเครื่องยืนยันว่าเรื่องราวของเธอยังไม่เลือนหายไปไหน ทว่าสิ่งที่ทิ้งไว้ให้คนรุ่นหลังได้ขบคิด บทเรียนจากโศกนาฏกรรมครั้งนี้ไม่ได้มีเพียงเรื่องความโหดร้ายของการกระทำ แต่ยังสะท้อนถึงปัญหาสังคมที่ซับซ้อน ทั้งเรื่องสถานะของแรงงานพลัดถิ่น ความไว้วางใจที่ถูกทำลาย และกระบวนการยุติธรรมในอดีต

วันนี้เมื่อเรามองย้อนกลับไปที่ “กิ่งแก้ว” เราอาจเห็นภาพที่ซ้อนทับกัน ระหว่างหญิงสาวจิตใจโหดเหี้ยมที่ร่วมมือฆ่าเด็กตาดำ ๆ กับผู้หญิงคนหนึ่งที่ชีวิตพังทลายจนเลือกเดินในเส้นทางที่ผิดพลาดที่สุด

ไม่ว่าเราจะเลือกจดจำเธอในแบบใด ความจริงข้อหนึ่งที่ปฏิเสธไม่ได้คือ โศกนาฏกรรมครั้งนั้นได้สร้างบาดแผลที่ไม่มีวันจางหายให้กับครอบครัวผู้สูญเสีย และเป็นเครื่องเตือนใจถึงราคาแสนแพงของความแค้นที่ต้องแลกมาด้วยชีวิตของผู้บริสุทธิ์

ตัวอย่างแรก หนังกิ่งแก้ว ตำนานหลอน เสียงคร่ำครวญแห่งคุกบางขวาง ฉันไม่ผิด

ติดตาม The Thaiger บน Google News:

Aindravudh

นักเขียนประจำ Thaiger มีประสบการณ์เขียนข่าวมากกว่า 5 ปี จบการศึกษาด้านภาษาและประวัติศาสตร์ จากคณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มีความสนใจ ประเด็นความเคลื่อนไหวทางสังคมและการเมือง เจาะประเด็นข่าวทางสังคม ด้วยกลวิธีการเล่าเรื่องแบบย่อยง่าย อย่างงานเขียนสร้างสรรค์ สั้น กระชับ จับทุกประเด็น หัวข้อที่เชียวชาญคือเรื่องไลฟ์สไตล์ เลขเด็ด หวยรัฐบาลไทย หวยลาว ช่องทางติดต่อ vajara@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to top button