ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ราคาสุดคุ้ม
ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ราคาเท่าไหร่ เป็นคำถามที่หลายคนอยากรู้ก่อนตัดสินใจฉีดฟิลเลอร์แก้ปัญหาร่องลึกใต้ตา แต่พอเริ่มหาข้อมูลกลับพบว่าทำไมบางคนจ่ายเพียงหลักพัน ขณะที่บางคนต้องจ่ายถึงหลักหมื่น
บทความนี้จะพาไปอัปเดตข้อมูลกันว่า ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ราคาเท่าไร ? ทำไมแต่ละคลินิกราคาไม่เท่ากัน ? ปริมาณ CC ที่ใช้เท่าไร ? พร้อมเปรียบเทียบยี่ห้อฟิลเลอร์ใต้ตาที่ได้รับความนิยม รวมถึงวิธีเลือกคลินิกอย่างปลอดภัย เพื่อให้ผลลัพธ์คุ้มค่าคุ้มราคาค่ะ
ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ราคาเท่าไหร่ ? ทำไมแต่ละคลินิกไม่เท่ากัน ?
ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ราคาโดยทั่วไปจะอยู่ที่ประมาณ 7,500–18,000.-/1 CC ค่ะ ซึ่งหลายคนอาจสงสัยว่าทำไมราคาถึงแตกต่างกัน คำตอบคือมีหลายปัจจัยที่ส่งผลต่อราคาแม้จะใช้ฟิลเลอร์รุ่น-ยี่ห้อเดียวกันก็ตาม
โดยปัจจัยที่ทำให้การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาราคาแตกต่างกันมีดังนี้
- ยี่ห้อและรุ่นของฟิลเลอร์ : ฟิลเลอร์แต่ละยี่ห้อ-รุ่นใช้เทคโนโลยีการผลิตต่างกัน ส่งผลให้ราคาไม่เท่ากัน หากเป็นฟิลเลอร์เกรดพรีเมียมแบรนด์ยุโรปมักราคาสูงกว่า อยู่ได้นานกว่า ส่วนฟิลเลอร์เกาหลีราคาย่อมเยามากกว่า แต่ระยะเวลาอาจอยู่ได้สั้นกว่า
- ปริมาณฟิลเลอร์ที่ต้องใช้ : การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ราคาจะคิดเป็น CC ด้วยค่ะ ถ้าปัญหาใต้ตามาก ต้องใช้หลาย CC ราคาก็เพิ่มขึ้นตามระดับปัญหาใต้ตาของแต่ละคน
- ค่าประสบการณ์ของแพทย์ : การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาให้ปลอดภัย และได้ผลลัพธ์ที่ดี แพทย์ต้องใช้ใช้เทคนิคในการฉีด ผ่านการเทรนนิ่งต่าง ๆ หากแพทย์มีประสบการณ์มาก ค่ามือจะสูงขึ้น แต่ก็จะสร้างความมั่นใจได้มากขึ้นในด้านผลลัพธ์และความปลอดภัยค่ะ
- โปรโมชันของคลินิก : คลินิกความงามหลายแห่งอาจมีโปรโมชันส่งเสริมการตลาด โปรลดราคา หากซื้อหลาย CC ถูกลง หรือแถมหัตถการอื่น ๆ เสริม ทำให้ราคารวมถูกลงกว่าปกติค่ะ
- ค่าบริการเพิ่มเติมในคลินิก : บางคลินิกรวมค่าใช้จ่ายทุกอย่างแล้ว เช่น ค่าประเมินใบหน้า ค่ายาชา ค่าผู้ช่วย ค่ายาหลังทำ แต่บางคลินิกอาจคิดเพิ่ม ผู้เข้ารับบริการควรถามรายละเอียดก่อนเสมอค่ะ
ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ราคาคุ้มค่าไหม ? ช่วยแก้ปัญหาอะไรบ้าง ?
การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาเป็นหนึ่งในวิธีที่ได้รับความนิยมมาก เพราะช่วยแก้ปัญหาใต้ตาได้อย่างครอบคลุม ด้วยการเติมสารเติมเต็มประเภทไฮยาลูรอนิก แอซิด (Hyaluronic Acid : HA) ที่ถูกสร้างเลียนแบบสารที่มีอยู่ในร่างกายตามธรมชาติ มีความปลอดภัย โดยสามารถช่วยแก้ปัญหาต่าง ๆ ได้ดังนี้
- ริ้วรอยใต้ตาและรอยตีนกา ทำให้ผิวดูเรียบเนียนขึ้น
- ขอบตาดำ ใต้ตาคล้ำ ลดเงาที่เกิดจากร่องลึก ทำให้ดวงตาดูสดใส
- ถุงใต้ตาและใต้ตาหย่อนคล้อย ช่วยปรับให้ผิวใต้ตาดูเรียบเนียนขึ้น ไม่เห็นเป็นร่องลึกชัด
- เบ้าตาลึก ตาโหล เติมเต็มพื้นที่ที่ยุบตัว ทำให้หน้าดูไม่โทรม และช่วยปรับให้หน้าดูสดชื่นขึ้น
การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ราคาจึงคุ้มค่ากับผลลัพธ์ที่ได้มากค่ะ เพราะเห็นผลการเปลี่ยนแปลงได้ทันที ไม่ต้องพักฟื้น ทั้งนี้แนะนำให้ฉีดกับคลินิกที่ได้มาตรฐาน ใช้ฟิลเลอร์แท้ และอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ที่มีประสบการณ์ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีและปลอดภัยที่สุด
ยี่ห้อและรุ่นฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ราคาเท่าไหร่ ? เลือกแบบไหนดี ?
ฟิลเลอร์ใต้ตาแต่ละยี่ห้อ และแต่ละรุ่นมีราคาที่ต่างกัน เนื่องจากเทคโนโลยีการผลิต เนื้อสัมผัส และคุณสมบัติของฟิลเลอร์ไม่เหมือนกันค่ะ ทำให้แต่ละรุ่นมีจุดเด่นที่เหมาะกับปัญหาผิวใต้ตาแตกต่างกันไป
Juvederm (อเมริกา)
Juvederm เป็นฟิลเลอร์จากประเทศอเมริกา เนื้อฟิลเลอร์ให้มีโมเลกุลยึดเกาะกันได้ดี มีความยืดหยุ่นสูง กระจายตัวดี ไม่เป็นก้อน ฟิลเลอร์สลายตัวช้า และอยู่ได้นานกว่ายี่ห้ออื่น
ฟิลเลอร์ Juvederm รุ่นที่เหมาะกับการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ราคา และจุดเด่น มีรายละเอียดดังนี้
- Juvederm Voluma : เนื้อทน ฟูปานกลาง มีความยืดหยุ่นสูง ฉีดใต้ตาชั้นลึกได้ดี อยู่ได้นานประมาณ 18 เดือน (ราคา 12,900.-/1 CC)
- Juvederm Volite : เนื้อฉ่ำ เพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวได้ดี เก็บรายละเอียดบริเวณใต้ตาในผิวชั้นตื้น เหมาะกับคนผิวบาง อยู่ได้ประมาณ 8–12 เดือน (ราคา 12,900.-/1 CC)
- Juvederm Volux : เนื้อทน คงรูปดี ปั้นทรงง่าย เหมาะฉีดเสริมกระดูกใต้ตา อยู่ได้นานที่สุด ประมาณ 18–24 เดือน (ราคา 17,900.-/1 CC)
Restylane (สวีเดน)
ฟิลเลอร์ Restylane ผลิตจากประเทศสวีเดน เป็นยี่ห้อที่อยู่ในวงการความมานาน จุดเด่นคือมีการพัฒนาโมเลกุลหลากหลาย ทำให้เลือกใช้ได้ครอบคลุมปัญหาได้ทั้งใบหน้า
ฟิลเลอร์ Restylane รุ่นที่เหมาะกับการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ราคา และจุดเด่น มีรายละเอียดดังนี้
- Restylane Defyne : เนื้อทน ยืดหยุ่นสูง อุ้มน้ำดี เหมาะกับร่องลึกใต้ตาและริ้วรอย ร่องลึก อยู่ได้นานประมาณ 18 เดือน (ราคา 12,900.-/1 CC)
- Restylane Vital Light : เนื้อฉ่ำ ละเอียดที่สุด เหมาะกับใต้ตาชั้นบน และเก็บริ้วรอยเล็ก ๆ ผลลัพธ์อยู่ได้นาน 6–12 เดือน (ราคา 12,900.-/1 CC)
- Restylane Perlane Lyft : เนื้อแน่น ไม่ฟู มีความคงตัวสูง เหมาะสำหรับเสริมโครงสร้างกระดูก อยู่ได้นานประมาณ 12 เดือน (ราคา 12,900.-/1 CC)
- Restylane Classic : เนื้อแน่น เน้นเติมร่องตื้น ๆ ใต้ตา เหมาะกับริ้วรอยระดับปานกลาง–มาก และคนที่มีผิวบาง อยู่ได้นานประมาณ 12 เดือน (ราคา 11,900.-/1 CC)
- Restylane Vital : เนื้อละเอียด เรียบเนียน เหมาะกับร่องตื้นและใช้เก็บรายละเอียดใต้ตาชั้นตื้น อยู่ได้นานประมาณ 12 เดือน (ราคา 15,900.-/1 CC)
Belotero (สวิตเซอร์แลนด์)
ฟิลเลอร์ยี่ห้อ Belotero มาจากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ฟิลเลอร์เป็นเนื้อเจลที่มีคุณสมบัติหลากหลายยืดหยุ่นได้ดี กระจายตัวสวย ไม่เป็นก้อน สามารถช่วยแก้ปัญหาใบหน้าที่ทรุดตัวจากกระดูก และใช้เพื่อปรับโครงสร้างใบหน้าได้
ฟิลเลอร์ Belotero รุ่นที่เหมาะกับการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ราคา และจุดเด่น มีรายละเอียดดังนี้
- Belotero Volume : เนื้อแน่น ฟูปานกลาง คงตัวสูง เหมาะกับปัญหาใต้ตาจากการทรุดตัวของกระดูก อยู่ได้นานประมาณ 18 เดือน (ราคา 11,900.-/1 CC)
- Belotero Revive : เนื้อฉ่ำ มีส่วนผสมกลีเซอรอล ช่วยเติมความชุ่มชื้นและลดริ้วรอยเล็ก ๆ อยู่ได้นาน 6–9 เดือน (ราคา 12,900.-/1 CC)
- Belotero Soft : เนื้อละเอียด มีโมเลกุลขนาดเล็ก เหมาะกับใต้ตาชั้นตื้น ทำให้ผิวเรียบเนียน อยู่ได้นาน 8–12 เดือน (ราคา 11,900.-/1 CC)
Definisse (อิตาลี)
Definisse เป็นฟิลเลอร์จากประเทศอิตาลี เนื้อคงสภาพดี ปั้นทรงง่าย เหมาะมากสำหรับการฉีดเพื่อยกพยุงผิว และปรับโครงสร้างใบหน้าแบบเป็นธรรมชาติ
ฟิลเลอร์ Definisse รุ่นที่เหมาะกับการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ราคา และจุดเด่น มีรายละเอียดดังนี้
- Definisse Touch : เนื้อนิ่ม มีความละเอียดมาก เหมาะกับการฉีดใต้ตาชั้นตื้น อยู่ได้นาน 8–12 เดือน (ราคา 12,000.-/1 CC)
Teoxane (สวิตเซอร์แลนด์)
ฟิลเลอร์ Teoxane จากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ จุดเด่นอยู่ที่เนื้อฟิลเลอร์มีโมเลกุลใกล้เคียงกับ HA ธรรมชาติ ยืดหยุ่นสูง ปรับเข้ากับการเคลื่อนไหวตามผิวได้ดี ไม่เป็นก้อน
ฟิลเลอร์ Teoxane รุ่นที่เหมาะกับการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ราคา และจุดเด่น มีรายละเอียดดังนี้
- Teoxane RHA 2 : เนื้อเจลละเอียด กลืนกับผิวได้ดี ใช้กับใต้ตาชั้นตื้นและริ้วรอยเล็ก ๆ ได้ดี อยู่ได้นานประมาณ 18 เดือน (ราคา 12,900.-/1 CC)
Flore (เกาหลี)
ฟิลเลอร์ Flore จากประเทศเกาหลี จุดเด่นอยู่ที่ฟิลเลอร์มีลักษณะเป็นเนื้อเจล ที่ผสมระหว่างฟิลเลอร์โมเลกุลเนื้อแน่นและเนื้ออ่อน ทำให้ทั้งฟู และยืดหยุ่นในตัวเดียว ถือเป็นฟิลเลอร์ใต้ตา ราคาย่อมเยาอีกยี่ห้อเลยค่ะ
ฟิลเลอร์ Flore รุ่นที่เหมาะกับการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ราคา และจุดเด่น มีรายละเอียดดังนี้
- Flore AQUA-S : เนื้อเจลละเอียด โมเลกุลเล็ก เหมาะสำหรับริ้วรอยเล็ก ๆ และเพิ่มความชุ่มชื้น ใต้ตาได้เป็นอย่างดี อยู่ได้นานประมาณ 6 เดือน (ราคา 9,900.-/1CC)
ทั้งนี้ข้อมูลข้างต้นเป็นเพียงราคาโดยประมาณของฟิลเลอร์ใต้ตาแต่ละรุ่นที่ได้รับความนิยมเท่านั้น ในปัจจุบันมีฟิลเลอร์หลายยี่ห้อที่ผ่านการรับรองจาก อย. ไทยแล้ว หากไม่แน่ใจว่าจะฉีดยี่ห้อไหนดี ราคาเท่าไหร่ แนะนำให้ปรึกษาแพทย์ในการประเมินรุ่นและยี่ห้อให้เหมาะสมกับเคสแต่ละบุคคล เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีในงบประมาณที่เหมาะสมค่ะ
ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาใช้กี่ CC ถึงเห็นผล ?
ปริมาณฟิลเลอร์ที่ใช้ขึ้นอยู่กับระดับปัญหาใต้ตาของแต่ละคนค่ะ หากร่องใต้ตาตื้น ใต้ตาคล้ำเล็กน้อย หรืออยากลองเริ่มทีละน้อย ใช้ปริมาณ 1 CC แบ่งข้างละ 0.5 CC ก็เพียงพอ
แต่ในเคสที่มีร่องลึกมาก เบ้าตาลึก หรือผิวบางชัดเจน มักต้องใช้ประมาณ 2–4 CC เพื่อเติมเต็มใต้ตาทั้งสองข้างให้เรียบเนียนและสมดุลมากขึ้น โดยแพทย์จะประเมินปริมาณที่เหมาะสมตามโครงสร้างหน้าของแต่ละคนค่ะ
ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ราคาเท่าไร ? ที่ V Square Clinic
ที่ V Square Clinic ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ราคาเริ่มต้นที่ 11,900.-/1 CC ค่ะ ขึ้นอยู่กับรุ่น ยี่ห้อฟิลเลอร์ ปริมาณ CC ที่ใช้ โดยแพทย์จะเป็นผู้ประเมินและแนะนำให้เหมาะสมกับปัญหาใต้ตาของแต่ละคนค่ะ
ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ราคาโปรโมชัน ที่ V Square Clinic
หมายเหตุ : ราคาข้างต้นอาจเปลี่ยนแปลงได้ตามโปรโมชันในแต่ละช่วง แนะนำให้สอบถามกับทางคลินิกอีกครั้งก่อนเข้ารับการบริการ
ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ราคาถูกเกินไป เสี่ยงเจออะไรบ้าง ?
หากเจอการโฆษณาฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ราคาที่ถูกกว่ามาตรฐานมาก ๆ ต้องระวังเป็นพิเศษค่ะ เพราะอาจเสี่ยงต่อการใช้ฟิลเลอร์ปลอม ฟิลเลอร์หิ้วที่ไม่ได้มาตรฐาน หรือทำหัตถการในสถานพยาบาลที่ไม่ได้รับอนุญาต รวมถึงมีโอกาสที่ผู้ฉีดอาจไม่ใช่แพทย์ ซึ่งอาจทำให้เกิดอันตรายหรือภาวะแทรกซ้อนที่แก้ไขได้ยากตามมา
ความเสี่ยงที่อาจพบเมื่อฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาราคาถูกเกินไป
- อักเสบติดเชื้อ : เกิดจากขั้นตอนที่ไม่สะอาด หรือใช้อุปกรณ์ที่ไม่ได้มาตรฐาน หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา อาจทำให้ผิวใต้ตาบวมแดง หรืออักเสบติดเชื้อได้
- ฟิลเลอร์เป็นก้อน ผิวเป็นคลื่น : มักเกิดจากฟิลเลอร์ปลอม หรือการใช้เทคนิคการฉีดที่ไม่ถูกต้อง เช่น ฉีดผิดชั้นผิว เลือกเนื้อฟิลเลอร์ไม่เหมาะสม หรือฉีดในปริมาณมากเกินไป หากเป็นฟิลเลอร์แท้สามารถฉีดสลายได้ แต่หากเป็นฟิลเลอร์ปลอมต้องผ่าหรือขูดออก ซึ่งเอาออกได้เพียงบางส่วนเท่านั้น
- ฟิลเลอร์เสื่อมคุณภาพ : ฟิลเลอร์หิ้วที่ลักลอบเข้ามาอาจถูกเก็บรักษาไม่ถูกต้อง ทำให้เสื่อมสภาพ ฉีดแล้วสลายเร็วเกินไป ไม่เห็นผล หรืออาจเกิดอาการแพ้ตามมา
- ฟิลเลอร์ไหลผิดตำแหน่ง/ฟิลเลอร์เน่า : ฟิลเลอร์ปลอมบางชนิดมีส่วนผสมที่ไม่สามารถย่อยสลายได้ เช่น ซิลิโคนเหลวหรือพาราฟิน ช่วงแรกอาจดูสวย แต่เมื่อเวลาผ่านไปอาจไหลย้อยผิดทิศทาง ทำให้เกิดการอักเสบ เนื้อตาย หรือเกิดปัญหารุนแรงในระยะยาว
- เกิดภาวะแทรกซ้อนทางดวงตา : ใต้ตาเป็นบริเวณที่มีเส้นเลือดสำคัญ หากฉีดโดยผู้ที่ไม่ใช่แพทย์ ฉีดผิดตำแหน่ง อาจเกิดการอุดตันของหลอดเลือดที่ไปเลี้ยงจอประสาทตา ในกรณีที่แก้ไขไม่ทัน อาจทำให้สูญเสียการมองเห็นได้
ดังนั้น หากเจอโปรโมชันฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ราคาที่ถูกจนผิดสังเกต ควรตรวจสอบให้ละเอียดก่อนตัดสินใจเพราะปัญหาที่เกิดขึ้นภายหลังมักมีใช้ค่าใช้จ่ายสูงในการรักษา และอาจส่งผลต่อความปลอดภัยในระยะยาวค่ะ
เลือกคลินิกฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาอย่างไร ให้ได้ราคาคุ้มค่า และปลอดภัย
นอกจากเลือกฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาราคาที่สมเหตุสมผล ไม่ถูกเกินไป ควรพิจารณาจากความปลอดภัยเป็นหลักค่ะ เนื่องจากใต้ตาเป็นบริเวณที่บอบบาง และมีเส้นเลือดสำคัญ การฉีดต้องอาศัยความแม่นยำสูง หากเลือกคลินิกที่ไม่ได้มาตรฐาน อาจเสี่ยงต่อการเกิดปัญหาหลังฉีดได้
เช็กลิสต์สำคัญก่อนเลือกคลินิกฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
- คลินิกได้มาตรฐาน : คลินิกต้องมีใบอนุญาตเลข 11 หลัก สถานพยาบาลที่ถูกกฎหมายจะมีมาตรฐานด้านความสะอาด และมีอุปกรณ์ฉุกเฉินครบถ้วน
- ตรวจสอบใบประกอบวิชาชีพเวชกรรมของแพทย์ : สามารถนำชื่อ–นามสกุลของแพทย์ที่จะทำการฉีด ไปตรวจสอบได้ในเว็บไซต์แพทยสภา เพื่อความมั่นใจว่าดูแลโดยแพทย์จริง
- ประสบการณ์ของแพทย์ : แพทย์มีประสบการณ์การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา สามารถประเมินปัญหา วางแผนการรักษาที่เหมาะสมกับแต่ละคน
- เช็กฟิลเลอร์ของแท้ก่อนฉีด : ดูความถูกต้องของกล่อง สแกน QR Code หรือนำเลข Lot. ไปตรวจสอบกับบริษัทผู้นำเข้าโดยตรง และควรให้แพทย์แกะกล่องใหม่ต่อหน้า เพื่อยืนยันว่าเป็นฟิลเลอร์ของแท้ค่ะ
- รีวิวที่น่าเชื่อถือ : ควรตรวจสอบรีวิวจากช่องทางที่คลินิกไม่สามารถลบความคิดเห็นได้เอง เช่น Google Review หรือ Facebook
สรุป ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ราคาเท่าไหร่ถึงจะคุ้มค่าที่สุด
การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ราคาอาจแตกต่างกันในแต่ละคลินิก หากพบราคาที่ต่ำผิดปกติ แม้จะเป็นโปรโมชัน อาจเสี่ยงต่อการใช้ฟิลเลอร์ไม่ได้มาตรฐาน หรือผู้ที่ฉีดไม่ใช่แพทย์จริง ซึ่งส่งผลให้เกิดปัญหาหรืออันตรายตามมาได้ค่ะ ดังนั้นเพื่อความปลอดภัย ได้ผลลัพธ์ที่คุ้มราคา จึงควรศึกษาข้อมูล เปรียบเทียบราคาฟิลเลอร์แต่ละยี่ห้อ ตรวจสอบความน่าเชื่อถือของคลินิก ฉีดโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์เท่านั้นค่ะ
ติดตาม The Thaiger บน Google News:
ข่าวล่าสุด
