คลินิกความงามสปอนเซอร์สุขภาพและการแพทย์

10 Q&A ปากกาลดน้ำหนัก ถามมา-ตอบไป! ทำความเข้าใจก่อนฉีด

ก่อนฉีดปากกาลดน้ำหนัก ต้องรู้อะไรบ้าง ?

ปากกาลดน้ำหนัก กำลังเป็นตัวช่วยคุมน้ำหนักที่หลายคนพูดถึงค่ะ เพราะช่วยลดความอยากอาหาร ทำให้รู้สึกอิ่มนานขึ้น แต่ก่อนจะตัดสินใจฉีด สิ่งสำคัญคือต้องศึกษาข้อมูลให้ดีก่อนนะคะว่าตัวยานี้คืออะไร ปลอดภัยไหม เหมาะกับใคร และมีข้อควรระวังอะไรบ้าง

ในบทความนี้จะพาไปตอบ 10 คำถามยอดฮิตเกี่ยวกับปากกาลดน้ำหนัก แบบเข้าใจง่าย ตั้งแต่หลักการทำงาน ผลข้างเคียงที่ควรรู้ ไปจนถึงวิธีดูแลตัวเองหลังฉีด ใครที่กำลังสนใจบทความนี้จะช่วยให้ตัดสินใจได้มั่นใจขึ้นแน่นอนค่ะ

Q1. ปากกาลดน้ำหนัก คืออะไร ทำงานอย่างไรในร่างกาย ?

ปากกาลดน้ำหนัก (Weight Loss Pen) คือ อุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ภายในบรรจุตัวยาฉีดควบคุมน้ำหนักในรูปแบบฮอร์โมนเลียนแบบธรรมชาติ ลักษณะคล้ายปากกา ใช้ฉีดเข้าใต้ผิวหนังเพื่อช่วยลดความอยากอาหารและควบคุมน้ำตาลในเลือดค่ะ

ฉีดปากกาลดน้ำหนัก

เมื่อฉีดเข้าสู่ร่างกาย ตัวยาจะออกฤทธิ์เลียนแบบฮอร์โมน GLP-1 (Glucagon-like Peptide-1) และ GIP เกิดกลไกสำคัญที่ช่วยปรับพฤติกรรมการกิน ได้แก่

  • ส่งสัญญาณไปยังสมองควบคุมความอยากอาหาร : สมองจะรับรู้ว่าร่างกายอิ่มแล้วแม้ทานในปริมาณที่น้อยลง ช่วยลดความอยากอาหาร ทำให้รู้สึกอิ่มเร็วขึ้น
  • สั่งให้กระเพาะอาหารชะลอการบีบตัว : ทำให้อาหารอยู่ในกระเพาะได้นานขึ้น ส่งผลให้รู้สึกอิ่มนาน ไม่หิวบ่อย และลดพฤติกรรมการทานจุกจิกระหว่างวัน
  • ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้คงที่ : กระตุ้นการหลั่งอินซูลินเมื่อระดับน้ำตาลในเลือดสูง พร้อมยับยั้งการหลั่ง Glucagon จึงช่วยลดความอยากของหวานและอาหารประเภทแป้งได้ดี
  • กระตุ้นการเผาผลาญไขมัน : บางสูตรมีส่วนผสมของ GIP Agonist (Glucose-dependent Insulinotropic Polypeptide) ช่วยเพิ่มการใช้พลังงานและการเผาผลาญไขมันได้มากยิ่งขึ้น

เมื่อกลไกเหล่านี้ทำงานร่วมกัน ร่างกายจะค่อย ๆ ปรับพฤติกรรมการกิน รับพลังงานน้อยลง เผาผลาญได้ดีขึ้น และส่งผลให้น้ำหนักลดลงอย่างมีประสิทธิภาพ โดยไม่ต้องพึ่งการอดอาหารแบบหักโหมค่ะ

Q2. ปากกาลดน้ำหนัก เหมาะ-ไม่เหมาะกับใครบ้าง ?

ปากกาลดน้ำหนัก เหมาะกับใคร

ปากกาลดน้ำหนัก เหมาะกับคนที่….

  • มี ค่า BMI ตั้งแต่ 30 ขึ้นไป (อยู่ในกลุ่มโรคอ้วน)
  • หรือมี ค่า BMI 27 ขึ้นไป ร่วมกับโรคที่เกี่ยวกับน้ำหนัก เช่น เบาหวานชนิดที่ 2, ความดันโลหิตสูง, ไขมันในเลือดสูง
  • เคยพยายามลดน้ำหนักด้วยการควบคุมอาหารหรือออกกำลังกายแล้วไม่ได้ผล
  • ต้องการคุมน้ำหนักแบบปลอดภัย ภายใต้การดูแลของแพทย์

ปากกาลดน้ำหนัก ไม่เหมาะกับคนที่….

  • กำลังตั้งครรภ์ วางแผนตั้งครรภ์ หรือให้นมบุตร
  • มีประวัติเป็นมะเร็งไทรอยด์ หรือมีคนในครอบครัวเป็นมะเร็งกลุ่ม MEN2
  • แพ้ตัวยา semaglutide หรือส่วนประกอบของยา (Hypersensitivity)
  • เป็นโรคเบาหวานชนิดที่ 1 หรือมีภาวะกรดคีโตในเลือด (DKA)
  • มีประวัติหรือกำลังเป็น ตับอ่อนอักเสบ (Pancreatitis)
  • มีปัญหาโรคไต หรือภาวะไตเสื่อม
  • มีภาวะจอประสาทตาเสื่อมจากเบาหวาน (Diabetic Retinopathy)
  • มีแผนเข้ารับการดมยาสลบหรือผ่าตัดใหญ่ เพราะตัวยาจะชะลอการย่อยอาหาร เพิ่มความเสี่ยงต่อการสำลัก
  • กำลังมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน หรือท้องเสียเรื้อรัง
  • เด็กอายุต่ำกว่า 12 ปี

Q3. ปากกาลดน้ำหนักปลอดภัยไหม มีผลข้างเคียงหรือไม่ ?

ปากกาลดน้ำหนัก มีความปลอดภัย ถ้าใช้ในขนาดยาที่เหมาะสมและอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ค่ะ ซึ่งอาจมีอาการข้างเคียงที่พบได้ในช่วงแรก เช่น

  • คลื่นไส้
  • ท้องอืด
  • เวียนหัว
  • อ่อนเพลียเล็กน้อย

อาการเหล่านี้มักเกิดชั่วคราว ร่างกายจะค่อย ๆ ปรับตัวและดีขึ้นเองในไม่กี่วัน แต่ถ้ามีอาการรุนแรง เช่น ปวดท้องมาก คลื่นไส้ไม่หาย หรือสงสัยว่าแพ้ยา ควรรีบพบแพทย์ทันทีค่ะ

เพื่อป้องกันอาการข้างเคียง แพทย์มักจะเริ่มจากขนาดยาต่ำก่อน แล้วค่อย ๆ เพิ่มตามการตอบสนองของร่างกาย วิธีนี้จะช่วยให้ปรับตัวได้ดี เห็นผล และลดความเสี่ยงการเกิดผลข้างเคียงได้มากค่ะ

Q4. ปากกาลดน้ำหนัก มีตัวยาอะไรบ้าง ?

สารสำคัญที่ใช้ในปากกาลดน้ำหนักมีหลายชนิด ซึ่งตัวยาแต่ละชนิดจะมีกลไกออกฤทธิ์ต่างกันไป โดยตัวยาสำคัญที่นิยมใช้ในปัจจุบัน ได้แก่

ปากกาลดน้ำหนัก Semaglutide

  • Semaglutide : ทำงานเลียนแบบฮอร์โมน GLP-1 ช่วยลดความอยากอาหาร ควบคุมปริมาณการกิน และช่วยให้รู้สึกอิ่มได้นานขึ้น ได้รับการอนุมัติให้ใช้ลดน้ำหนักระยะยาว ยี่ห้อที่ใช้ตัวยานี้ คือ Wegovy และ Ozempic

ปากกาลดน้ำหนัก Tirzepatide

  • Tirzepatide : จัดอยู่ในกลุ่ม Dual-Agonist ออกฤทธิ์ต่อฮอร์โมนทั้ง GIP และ GLP-1 ซึ่งทำให้ควบคุมความหิวได้ดี ช่วยลดน้ำหนักและควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด และช่วยให้เผาผลาญไขมันได้มากขึ้นยี่ห้อที่ใช้ตัวยานี้ คือ Mounjaro

ปากกาลดน้ำหนัก Liraglutide

  • Liraglutide : ทำงานโดยเลียนแบบฮอร์โมน GLP-1 ช่วยควบคุมความหิว ลดความอยากอาหาร และช่วยปรับระดับน้ำตาลในเลือดให้สมดุล ยี่ห้อที่ใช้ตัวยานี้ คือ Saxenda

แล้วเลือกปากกาลดน้ำหนักตัวยาไหน ยี่ห้อไหนดี ? ควรให้แพทย์เป็นผู้ประเมินและแนะนำยี่ห้อที่เหมาะสม เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพที่สุดค่ะ

Q5. ปากกาลดน้ำหนัก ต้องฉีดบ่อยแค่ไหน ?

ปากกาลดน้ำหนัก ส่วนใหญ่จะเป็นยาที่ต้องฉีดเข้าสู่ร่างกายอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ระดับตัวยาคงที่และเห็นผลอย่างปลอดภัย ความถี่ในการฉีดปากกาลดน้ำหนักจึงขึ้นอยู่กับชนิดของตัวยาที่ใช้ค่ะ

  • Liraglutide (Saxenda) : ต้องฉีดทุกวัน
  • Semaglutide (Ozempic/Wegovy) และ Tirzepatide (Mounjaro) : เป็นปากกาลดน้ำหนักที่ฉีดเพียงสัปดาห์ละ 1 ครั้ง ทำให้สะดวกต่อการใช้งานมากขึ้น

Q6. ต้องตรวจอะไรบ้าง ก่อนเริ่มฉีดปากกาลดน้ำหนัก ?

ก่อนเริ่มใช้ปากกาลดน้ำหนัก จำเป็นต้องให้แพทย์ประเมินสุขภาพโดยรวมก่อนทุกครั้ง เพื่อความปลอดภัยและให้ผลการลดน้ำหนักออกมาดีที่สุดค่ะ โดยขั้นตอนหลัก ๆ ที่แพทย์มักตรวจมีดังนี้

แพทย์ประเมินสุขภาพ

  • เช็กส่วนสูง น้ำหนัก และวัดสัดส่วน เช่น รอบเอว รอบอก และสะโพก เพื่อประเมินค่า BMI และความเหมาะสมของตัวยา
  • เช็กระบบย่อยอาหาร ว่ามีปัญหาท้องผูกหรือไม่ เพราะปากกาลดน้ำหนักอาจส่งผลให้ท้องผูกหรือท้องเสียได้ หากมีอาการท้องผูก แนะนำให้ทานอาหารที่มีไฟเบอร์เพิ่มเติม
  • ตรวจวัดความดันและซักประวัติสุขภาพ เช่น โรคประจำตัว (เบาหวาน ความดัน ไขมันในเลือดสูง) การแพ้ยา แพ้อาหาร หรือเคยใช้ยาลดน้ำหนักมาก่อนหรือไม่
  • ยืนยันว่าไม่ได้ตั้งครรภ์หรืออยู่ในช่วงให้นมบุตร เพราะไม่แนะนำให้ใช้ยากลุ่มนี้ในช่วงดังกล่าว

Q7. หลังฉีดปากกาลดน้ำหนัก ดูแลตัวเองอย่างไร ?

หลังฉีดปากกาลดน้ำหนักแล้ว การดูแลตัวเองถือว่าสำคัญมาก เพราะจะช่วยให้ร่างกายปรับตัวกับตัวยาได้ดี ลดอาการไม่พึงประสงค์ และเห็นผลลัพธ์ได้ชัดเจนขึ้นค่ะ

  • ปรับพฤติกรรมการกิน ทานอาหารมื้อเล็กลงแต่บ่อยขึ้น จะช่วยลดอาการคลื่นไส้หรืออาเจียน และควรหยุดทานทันทีเมื่อรู้สึกอิ่ม
  • เลือกอาหารที่ย่อยง่าย หลีกเลี่ยงของทอด อาหารไขมันสูง หรือรสจัด ควรเน้นอาหารที่มีกากใยสูงอย่างผัก ผลไม้ และโปรตีนคุณภาพดีในปริมาณเหมาะสม
  • ดื่มน้ำให้เพียงพอ อย่างน้อยวันละ 1.5-2 ลิตร โดยจิบน้ำระหว่างวัน เพื่อป้องกันภาวะขาดน้ำและช่วยให้ระบบขับถ่ายทำงานดีขึ้น
  • งดดื่มแอลกอฮอล์ โดยเฉพาะในช่วงแรกของการใช้ยา เพราะอาจกระตุ้นให้เกิดอาการคลื่นไส้หรืออาเจียนมากขึ้น
  • ติดตามผลกับแพทย์อย่างต่อเนื่อง เพื่อประเมินผลลัพธ์ ปรับขนาดยา และดูแลให้การลดน้ำหนักเป็นไปอย่างปลอดภัยในทุกระยะ

Q8. ปากกาลดน้ำหนักเห็นผลเมื่อไหร่ ?

ปากกาลดน้ำหนักจะเริ่มเห็นผลภายในช่วงหลังเริ่มยา 1 เดือนแรกค่ะ บางคนจะสังเกตได้ว่าน้ำหนักลดลง เฉลี่ย 2-4 กิโลกรัม ความอยากอาหารน้อยลง กินได้น้อยลง หรือรู้สึกอิ่มเร็วขึ้น

หากใช้ต่อเนื่องร่วมกับการควบคุมอาหาร ดื่มน้ำให้เพียงพอ และออกกำลังกายสม่ำเสมอ ภายใน 1 ปี น้ำหนักอาจลดได้ถึง 15-22% ของน้ำหนักตัวเลยค่ะ ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้อาจแตกต่างกันไปในแต่ละคน

Q9. ถ้าหยุดใช้ปากกาลดน้ำหนัก น้ำหนักจะกลับมาไหม ?

หากหยุดใช้ปากกาลดน้ำหนักแล้วกลับไปกินมากเหมือนเดิม ไม่ออกกำลังกาย หรือใช้ชีวิตแบบเดิม ก็มีโอกาสที่น้ำหนักจะกลับมาได้ค่ะ เพราะตัวยาช่วยควบคุมความอยากอาหารเท่านั้น ไม่ได้เปลี่ยนระบบเผาผลาญโดยถาวร

แต่ถ้าช่วงที่ใช้ปากกาลดน้ำหนักเราปรับพฤติกรรมการกินและการใช้ชีวิตได้ เช่น ควบคุมอาหาร ดื่มน้ำมากขึ้น ออกกำลังกายสม่ำเสมอ น้ำหนักก็สามารถคงที่ได้ยาวนานแม้หยุดยาแล้วค่ะ

ควบคุมอาหาร

Q10. ฉีดปากกาลดน้ำหนัก ที่ไหนดี ? เห็นผล ปลอดภัย

การใช้ปากกาลดน้ำหนัก ควรทำในคลินิกหรือสถานพยาบาลที่มีแพทย์ดูแลเท่านั้น ไม่ควรซื้อปากกาลดน้ำหนักมาฉีดเองหรือสั่งทางออนไลน์ เพราะเสี่ยงได้รับยาปลอม ซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพได้ อักทั้งปากกาลดน้ำหนัก ยังจัดเป็นยาควบคุมพิเศษ ต้องสั่งจ่ายโดยแพทย์เท่านั้น ไม่สามารถวางจำหน่ายทางสื่อออนไลน์หรือตามร้านค้าทั่วไปได้

ก่อนตัดสินใจ แนะนำให้พิจารณาจากสิ่งเหล่านี้

  • เลือกคลินิกหรือโรงพยาบาลที่ได้มาตรฐานและมีใบอนุญาตประกอบกิจการถูกต้อง
  • มีแพทย์ผู้มีประสบการณ์ ให้คำแนะนำ ดูแล และติดตามผลอย่างใกล้ชิด
  • ใช้ผลิตภัณฑ์ที่ผ่านการรับรองจาก อย.ไทย เท่านั้น
  • มีการตรวจสุขภาพก่อนเริ่มใช้ยา เพื่อประเมินความพร้อมของร่างกาย
  • ให้คำแนะนำเรื่องโภชนาการและการออกกำลังกายควบคู่กัน เพื่อให้ผลลัพธ์ยั่งยืนมากขึ้น

เมื่อเลือกสถานพยาบาลที่ได้มาตรฐานและมีแพทย์ดูแลอย่างใกล้ชิด การใช้ปากกาลดน้ำหนักก็จะปลอดภัย เห็นผลจริง และมั่นใจได้ในทุกขั้นตอนค่ะ

สรุป 10 ข้อควรรู้ก่อนฉีดปากกาลดน้ำหนัก

การใช้ปากกาลดน้ำหนัก ต้องอยู่ในการดูแลของแพทย์ แนะนำปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินสุขภาพ เลือกตัวยาและขนาดที่เหมาะสม รวมถึงตรวจร่างกายก่อนเริ่มใช้ มีการติดตามผลอย่างใกล้ชิด เพื่อความปลอดภัยและผลลัพธ์ที่ดีที่สุดค่ะ

ติดตาม The Thaiger บน Google News:

Thosapol

นักเขียนบทความที่ Thaiger จบการศึกษาจากคณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ เชี่ยวชาญเรื่องบทความท่องเที่ยว บันเทิง ไลฟ์สไตล์ ผ่านการค้นหาข้อมูลโดยละเอียดพร้อมด้วยประสบการณ์ตรงของตัวเอง งานอดิเรกมีความสนใจในกระแสข่าวรอบตัวต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นด้านสุขภาพ สังคม การเมือง และที่สำคัญคือเป็นทาสแมวร้อยเปอร์เซ็นต์ครับ ช่องทางติดต่อ thospol@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to top button