ประวัติ พิมพ์วิไล ต้นทาง 34 เส้นเงินส่วย บัญชีม้า โยงพนันออนไลน์ เขย่าวงการสีกากี

เปิดประวัติ “พิมพ์วิไล” อดีตพนักงานบัญชีโรงแรม สู่ บัญชีม้า คดี BNK MASTER ได้ค่าจ้าง 2 หมื่นบาท แต่กลายเป็นพยานสำคัญโยงเส้นเงินส่วย 34 สาย ถึงบิ๊กตำรวจ
ชื่อของ พิมพ์วิไล ได้กลายเป็นศูนย์กลางของมหากาพย์ที่สั่นสะเทือนวงการสีกากี เธอมีสถานะที่ซับซ้อนอย่างยิ่ง ในด้านหนึ่ง เธอคือผู้ต้องหาในคดีเครือข่ายเว็บพนัน BNK MASTER แต่อีกด้านหนึ่ง เธอคือพยานปากเอก ผู้ถือกุญแจสำคัญ ที่ใช้เปิดเส้นทางการเงินที่เชื่อมโยงไปถึงอดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล และนายตำรวจระดับสูงอีกจำนวนมาก
จุดเริ่มต้น พิมพ์วิไล จากพนักงานบัญชีโรงแรม สู่ “บัญชีม้า”
จากคำให้การของเธอต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ เส้นทางนี้เริ่มต้นขึ้นเมื่อเธอลาออกจากงานพนักงานบัญชีโรงแรม เพื่อมารับทำบัญชีให้กับเครือข่ายเว็บพนันตามคำชักชวนของคนรู้จัก ข้อมูลระบุว่า เธอเปิดบัญชีธนาคารในชื่อตนเอง 6–7 บัญชี โดยใช้ 2 บัญชีหลักเป็น “สะพาน” พักและหมุนเงินให้กับเครือข่าย แลกกับค่าจ้างประมาณเดือนละ 20,000 บาท โดยหน้าที่ของเธอมีเพียงการรอรับคำสั่งเพื่อโอนเงินไปยังปลายทางต่าง ๆ
จุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้ชื่อของเธอปรากฏต่อสาธารณะ เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 5 เมษายน 2567 เมื่อทนายตั้ม (ษิทรา เบี้ยบังเกิด) ได้พาเธอเข้าให้ข้อมูลกับตำรวจในฐานะผู้กล่าวหา พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ และภรรยา ในข้อหาร่วมกันฟอกเงินจากเว็บพนัน BNK MASTER

พยานปากสำคัญในคดีใหญ่
สิ่งที่เธอใช้เป็นหลักฐาน คือผังเส้นทางการเงินและสเตทเมนต์การโอนเงิน ที่แสดงให้เห็นว่าเงินจากบัญชีของเธอเชื่อมโยงไปยังปลายทางอย่างน้อย 34 เส้นทาง ซึ่งไหลเข้าสู่หน่วยงานตำรวจและบัญชีส่วนตัวของนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ ข้อมูลชุดนี้กลายเป็นหลักฐานชิ้นสำคัญ จนนำไปสู่มติ “ชี้มูลผิดวินัยร้ายแรง” ต่อ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ และตำรวจอีกกว่า 200 นาย ในประเด็นการรับส่วย
ล่าสุด เมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน 2568 พิมพ์วิไลได้ปรากฏตัวต่อหน้าคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐฯ เพื่อให้ข้อมูลเพิ่มเติม เธอถูกซักถามถึงบทบาทของเธอในฐานะบัญชีม้า และรายชื่อ “บิ๊กตำรวจ” ที่รับเงินจากเธอ เธอยอมรับต่อหน้า กมธ. ว่าเคยโอนเงินให้ “บิ๊กตำรวจ” ตามรายชื่อที่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เคยเปิดไว้ ก่อนจะตั้งคำถามเชิงโต้กลับที่กลายเป็นประเด็นสำคัญว่า “ในเมื่อจ่ายส่วยแล้ว ทำไมยังถูกจับ?” คำถามนี้ได้สะท้อนปัญหาเชิงโครงสร้างและถูกนำไปใช้ในการผลักดันการปฏิรูปตำรวจที่ยังคงลุกลามต่อเนื่อง
ปัจจุบัน สถานะของพิมพ์วิไลจึงซ้อนทับกันอย่างแยกไม่ออก ระหว่างการเป็น “ผู้ต้องหา” ที่เกี่ยวข้องกับเว็บพนัน และการเป็น “พยานปากเอก” ที่ถือกุญแจสำคัญในการตรวจสอบโครงสร้างส่วยของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
(หมายเหตุ: ข้อมูลทั้งหมดอ้างอิงจากคำให้การของพิมพ์วิไลและเอกสารที่ทนายความนำส่งต่อหน่วยงานสอบสวน คดียังอยู่ระหว่างกระบวนการยุติธรรม และยังไม่มีคำพิพากษาถึงที่สุดว่าบุคคลใดมีความผิดทางอาญา)
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- เปิดทรัพย์สิน บิ๊กต่อ หลังพ้นผบ.ตร. สุดอู้ฟู่ 209 ล้าน บ้านที่อังกฤษ 2 หลัง
- บิ๊กโจ๊ก แฉส่วยเว็บพนัน ไล่ชื่อตร.รับโอนเงิน “พิมพ์วิไล” ยาวเป็นหางว่าว!
- เริ่มแล้ว “อัจฉริยะ” ปูเสื่อประท้วงหน้า สตช. จี้ ปิด 10 เว็บพนัน ขีดเส้นตายสัปดาห์นี้
ภาพจาก
ข้อมูลจาก
ติดตาม The Thaiger บน Google News:





