ศาลอุทธรณ์สั่งจำคุก “ณพ-กอแก้ว” 2 ปี ไม่รอลงอาญา
ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลนัดอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ในคดีดำ อ2497/2561 ที่นายเกษม ณรงค์เดช บิดาของนายณพ เป็นโจทก์ฟ้อง คุณหญิงกอแก้ว บุณยะจินดา ภรรยาของพล.ต.อ.พจน์ บุณยะจินดา อดีตอธิบดีกรมตำรวจ, นายณพ ณรงค์เดช และนายสุทัศน์ จิรจรัสพร เป็นจำเลยที่ 1-3 ในความผิดฐานร่วมกันใช้เอกสารปลอม
โดยโจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัทโกลเด้น มิวสิค ลิมิเต็ด จัดตั้งโดยถูกกฎหมายฮ่องกง จบเป็นที่ผู้ถือหุ้นบริษัทดังกล่าวจำนวน 459,103,350 หุ้น คิดเป็นร้อยละ 99.99 ซึ่งบริษัทโกลเด้น มิวสิค ลิมิเต็ด ถือหุ้นอยู่ใน บริษัทวิน เอ็นเนอร์จี โฮลดิ้ง จำกัด ระหว่างวันที่ 25 เมษายน 59-26 มิถุนายน 61 ต่อเนื่องกัน จำเลยทั้ง 3 ได้บังอาจสมคบคิดร่วมกันกระทำความผิดฐานใช้เอกสารปลอมตามประมวลกฎหมายอาญาทำให้โจทก์ได้รับความเสียหายโดยจำเลยทั้ง 3 ทราบดีอยู่แล้วว่าเอกสารดังกล่าวเป็นเอกสารปลอม
เมื่อวันที่ 14 พ.ค. 2561 โจทก์ได้รับหนังสือจากที่ปรึกษากฎหมายว่าศาลฮ่องกงมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวห้ามมิให้บริษัทโกลเด้น มิวสิคโอนหุ้นที่ถืออยู่ในบริษัท วิน เอ็นเนอร์จี จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง หากโจทก์จะทำการฝ่าฝืนจะต้องได้รับโทษและรับผิดในความเสียหายที่เกิดขึ้น โจทก์จึงได้มีหนังสือแจ้งไปยังกรรมการบริษัทโกลเด้น มิวสิค ว่าโจทก์ต้องปฏิบัติตามคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวของศาล ฮ่องกงและขอเรียกประชุมผู้ถือหุ้นเพื่อแจ้งเจตนารมณ์ของโจทก์เพื่อให้ได้รับทราบเพื่อความชัดเจน ต่อมาทราบว่าเมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม 61 ได้มีการแต่งตั้งจำเลยที่ 3 เข้ามาเป็นกรรมการเพียงคนเดียวของบริษัท โกลเด้น มิวสิค โดยไม่มีการแจ้งให้โจทก์รับทราบมาก่อน เห็นว่าการกระทำดังกล่าวและพฤติการณ์ของจำเลยที่ 3 เป็นพฤติการณ์ที่ไม่ปกติ และมีเจตนาขัดขวางไม่ให้เกิดการประชุมผู้ถือหุ้นตามที่โจทก์ร้องขอ
ต่อมาวันที่ 19 มิ.ย.61 บริษัทพรีเมียร์ ฟิดูเซียรี่ ซึ่งทำหน้าที่เป็นเลขานุการของบริษัทโกลเด้น มิวสิค ได้มีหนังสือแจ้งไปยังบริษัทที่ปรึกษากฎหมายของโจทก์ว่า บริษัท พรีเมียร์ ฟิดูเซียรี่ ได้รับแจ้งจากกรรมการของบริษัทโกลเด้น มิวสิค เมื่อวันที่ 14 มิถุนายน 61 ว่า กรรมการของบริษัทได้มีมติโอนหุ้นของโจทก์จำนวน 459,109,350 จากโจทก์ไปยังจำเลยที่ 1 และบริษัทโกลเด้น มิวสิค อนุมัติการโอนหุ้นดังกล่าวแล้ว
เมื่อโจทก์ได้รับแจ้งดังกล่าวจึงได้มอบหมายให้บริษัทที่ปรึกษากฎหมายของโจทก์มีหนังสือไปยังจำเลยที่ 3 เพื่อแจ้งว่าโจทก์ไม่เคยตกลงและดำเนินการให้สัญญาในการโอนหุ้นใดๆ ของโจทก์ให้แก่จำเลยที่ 1 การโอนหุ้นดังกล่าวจึงไม่ชอบด้วยกฎหมายและไม่ได้รับความยินยอมใดๆ จากโจทก์ โดยนายเอกสารสัญญาแต่งตั้งตัวแทนระหว่างจำเลยที่ 1 กับโจทก์ลงวันที่ 25 เมษายน 59 มีข้อความที่ระบุไว้ว่าจำเลยที่ 1 ได้แต่งตั้งให้โจทก์เป็นตัวแทนในการถือหุ้นในบริษัทโกลเด้น มิวสิคและจำเลยที่ 1 และโจทก์ตกลงใช้ตราสารการโอนหุ้นที่เกี่ยวข้องซึ่งโจทก์ได้เคยลงนามไว้ก่อนหน้านี้แล้วโดยมีพยานและเอกสารที่โจทก์ส่งมอบให้กับจำเลยที่ 1
โดยโจทก์อนุญาตยินยอมให้จำเลยที่ 1 เขียนข้อความที่จำเป็นในตราสารการโอนหุ้นและเอกสารที่เกี่ยวข้องเพื่อโอนหุ้นในบริษัทวิน เอ็นเนอร์จี หรือสัดส่วนของหุ้นที่ถืออยู่ หลังจากที่โจทก์ได้รับแล้วก็ตรวจสอบเอกสารที่อ้างว่าเป็นสัญญาแต่งตั้งตัวแทนซึ่งจำเลยที่ 1 แต่งตั้งให้โจทก์เป็นตัวแทนของจำเลยที่ 1 โจทก์พบว่าลายมือชื่อที่อ้างว่าเป็นลายมือชื่อของโจทก์ในสัญญาแต่งตั้งตัวแทนนั้นเป็นลายมือชื่อปลอมไม่ใช่ลายมือชื่อโจทก์ โจทก์ไม่เคยทราบและไม่มีทางที่จะลงนามในสัญญาแต่งตั้งตัวแทนเพื่อรับเป็นตัวแทนของจำเลยที่ 1 แต่อย่างใด จึงไม่มีเหตุผลใดที่โจทก์จะเข้ารับเป็นตัวแทนของจำเลยที่ 1 โจทก์ไม่เคยลงนามในตราสารการโอนหุ้นและสำเนาใบสำคัญการซื้อขายหุ้นระหว่างโจทก์กับจำเลยที่ 1 แต่อย่างใด
ถือเป็นการสมคบคิดกันกับจำเลยที่ 1 ให้มีการนำสัญญาแต่งตั้งตัวแทนซึ่งเป็นเอกสารปลอมไปใช้ในการดำเนินการให้มีการโอนหุ้นในบริษัทโกลเด้น มิวสิค อันเป็นทรัพย์สินของโจทก์ไปให้กับจำเลยที่ 1 ส่วนจำเลยที่ 3 นั้นเป็นเพียงกรรมการเพียงคนเดียวของบริษัทโกลเด้น มิวสิค และมีพฤติกรรมที่พยายามขัดขวางการใช้สิทธิในฐานะผู้ถือหุ้นในบริษัทโกลเด้น มิวสิค ของโจทก์ การกระทำของจำเลยที่ 3 ที่โอนหุ้นของโจทก์ไปยังจำเลยที่ 1 จึงถือว่าจำเลยที่ 3 มีพฤติการณ์อันเป็นการสมรู้กับจำเลยที่ 1 ในการใช้เอกสารปลอมซึ่งรวมถึงตราสารการโอนหุ้นและสำเนาใบสำคัญในการซื้อขายหุ้นระหว่างโจทก์กับจำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นสิทธิปลอม
การกระทำของจำเลยทั้ง 3 เป็นการร่วมกันใช้สัญญาแต่งตั้งตัวแทนระหว่างจำเลยที่ 1 กับโจทก์ซึ่งเป็นเอกสารปลอมและร่วมกันใช้ตราสารการโอนหุ้นและสำเนาใบสำคัญการซื้อขายหุ้นระหว่าโจทก์กับจำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นเอกสารสิทธิที่พร้อมเพื่อดำเนินการให้มีการโอนหุ้นของบริษัทโกลเด้น มิวสิค อันเป็นทรัพย์สินของโจทก์ไปให้กับจำเลยที่ 1 โดยการกระทำของจำเลยทั้ง 3 ก่อให้เกิดความเสียหายแก่โจทก์ โจทก์ได้รับทราบสาเหตุที่จำเลยทั้ง 3 ได้สมคบคิดร่วมกันกระทำความผิดจากหนังสือของบริษัท ดีแอลเอ ไปป์เปอร์ เมื่อวันที่ 26 มิถุนายน 2561
คดีนี้เกิดขึ้นใน “ฮ่องกง” แต่เนื่องจากจำเลยทั้ง 3 เป็นคนไทย และกรณีนี้เป็นการกระทำความผิดเกี่ยวกับเอกสารตามที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายอาญามาตรา 268 กรณีจึงต้องด้วยประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 8 (ก) (2) ศาลไทยจึงมีอำนาจพิจารณาพิพากษาคดีนี้ได้

คดีนี้ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 30 พ.ย. 2561 โดยเห็นว่าพยานหลักฐานโจทก์ที่นำสืบมาไม่อาจรับฟังได้โดยปราศจากข้อสงสัยว่า หนังสือแต่งตั้งตัวแทนตราสารการโอนหุ้นบริษัทโกลเด้น มิวสิค และหนังสือสัญญาซื้อขายหุ้นบริษัทโกลเด้น มิวสิค รวม 3 ฉบับเป็นเอกสารปลอม เมื่อพยานหลักฐานโจทก์ยังมีข้อสงสัยดังกล่าวการใช้เอกสารทั้ง 3 ฉบับย่อมไม่อาจรับฟังได้ว่า เป็นความผิดฐานใช้เอกสารปลอม กรณีต้องยกประโยชน์แห่งความสงสัยให้แก่จำเลยทั้ง 3 ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 227 วรรค 2 พิพากษายกฟ้อง โดยศาลอุทธรณ์ พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยที่ 1 และที่ 2 มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 268 วรรคแรก ประกอบมาตรา 265 (เดิม), 83 จำคุกคนละ 2 ปี นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น.

อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ประวัติ พล.ต.อ.พจน์ บุณยะจินดา สามีคุณหญิงกอแก้ว อดีตอธิบดีกรมตำรวจผู้ล่วงลับ
- คุณหญิงกอแก้ว เปิดใจรอบ 6 ปี คดีหุ้นวินด์ เข้าไปช่วย ณพ ณรงค์เดช ทำเพื่อลูกและหลาน
- ศาลยกฟ้อง คุณหญิงกอแก้ว กรณีปลอมเอกสารปลอมโอนหุ้น 2 หมื่นล้าน
ติดตาม The Thaiger บน Google News:



