ม.ดังเกาหลีใต้ ไม่รับนักศึกษาเรียนดี 45 คน เพราะมีประวัติ “บูลลี่” ในโรงเรียน

มีรายงานว่ามหาวิทยาลัยชั้นนำของเกาหลีใต้ 6 แห่ง ปฏิเสธรับนักศึกษาใหม่ถึง 45 คน แม้จะมีผลการเรียนดี เนื่องจากมีประวัติการบูลลี่คนอื่นในโรงเรียน
แม้จะมีผลการเรียนที่โดดเด่น แต่นักศึกษาถึง 2 คนถูกปฏิเสธการเข้าศึกษาต่อในมหาวิทยาลัยแห่งชาติโซล (SNU) ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงที่สุดของเกาหลีใต้เมื่อปีที่แล้ว โดยไม่ใช่เพราะผลการเรียนตก แต่เป็นเพราะประวัติการกลั่นแกล้ง (Bullying) ในโรงเรียน
นักศึกษาทั้งสองคนนี้เป็นส่วนหนึ่งของผู้สมัครทั้งหมด 45 คน จาก 6 มหาวิทยาลัยของรัฐบาลกลาง ที่ความฝันในการเข้าเรียนมหาวิทยาลัยต้องล้มเหลว เนื่องจากมีประวัติความรุนแรงในโรงเรียน (School Violence) ซึ่งเน้นย้ำถึงการเปลี่ยนแปลงที่เพิ่มขึ้นในการพิจารณาเรื่องความประพฤติในการรับนักศึกษาเข้ามหาวิทยาลัยในเกาหลี

นักศึกษา 2 คนที่ถูกปฏิเสธจาก SNU สมัครเข้าเรียนผ่านช่องทางคะแนนสอบเข้ามหาวิทยาลัย (CSAT) แม้จะมีผลการเรียนที่สูง แต่ประวัติความรุนแรงในโรงเรียนตั้งแต่ชั้นประถม, มัธยมต้น, หรือมัธยมปลาย นำไปสู่การถูกตัดสิทธิ์ ตัวอย่างเช่น เกณฑ์ของ มหาวิทยาลัยแห่งชาติโซลมีการหักคะแนน CSAT สูงสุด 2 คะแนน สำหรับผู้สมัครที่เคยถูกลงโทษทางวินัย เช่น ถูกย้ายโรงเรียน หรือถูกไล่ออก ตั้งแต่ปีการศึกษา 2014
การปฏิเสธนักศึกษาเนื่องจากประวัติความรุนแรงในโรงเรียนเกิดขึ้นในมหาวิทยาลัยหลายแห่ง ได้แก่ มหาวิทยาลัยแห่งชาติคยองพุก (Kyungpook National University) 22 คน, มหาวิทยาลัยแห่งชาติปูซาน (Pusan National University) 8 คน และ มหาวิทยาลัยแห่งชาติคังวอน และชอนบุก แห่งละ 5 คน
มาตรการที่เข้มงวดนี้มีขึ้นหลังจากเกิดกระแสต่อต้านจากสาธารณชน เมื่อมีรายงานว่าลูกชายของอดีตอัยการ ซึ่งได้รับการแต่งตั้งเป็นหัวหน้าสำนักงานสืบสวนแห่งชาติในปี 2023 เคยถูกย้ายโรงเรียนเพราะคดีบูลลี่ แต่ยังคงได้รับเข้าศึกษาใน SNU โดยถูกหักคะแนน CSAT เพียง 2 คะแนนเท่านั้น

ตั้งแต่ปีหน้าเป็นต้นไป มหาวิทยาลัยทุกแห่งในเกาหลีใต้จะต้องบังคับใช้การหักคะแนนสำหรับผู้สมัครที่มีประวัติความรุนแรงในโรงเรียน โดยไม่คำนึงถึงช่องทางการรับเข้าเรียน
อย่างไรก็ตาม ขณะที่นโยบายขยายตัว ก็เกิดความกังวลว่าคดีพิพาทและการร้องเรียนในโรงเรียนจะเพิ่มขึ้นอย่างมาก นักเรียนที่ถูกกล่าวหาว่าบูลลี่เริ่มมีการว่าจ้างทนายความและยื่นฟ้องคดีปกครองเพื่อล้มล้างการตัดสินใจลงโทษ โดยนักวิจารณ์เตือนว่า การต่อสู้ทางกฎหมายเหล่านี้ กำลังเปลี่ยนคดีความรุนแรงในโรงเรียนให้กลายเป็นการฟ้องร้องที่มุ่งเน้นผลกำไร และทำลายสภาพแวดล้อมในชั้นเรียน
อ้างอิง : koreajoongangdaily.joins.com
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- 2 ผู้บริหารสำนักข่าว BBC ลาออก หลังถูกแฉมีส่วนตัดต่อคำพูด “ทรัมป์” ทำคนดูเข้าใจผิด
- คิม ยองนัม อดีตประธานสภาเกาหลีเหนือ ถึงแก่อสัญกรรม หลังป่วยมะเร็ง สิริอายุ 97 ปี
ติดตาม The Thaiger บน Google News:





