หวิดฝนกระหน่ำ! พายุฟงวอง พ้นฟิลิปปินส์ จ่อวกไปไต้หวัน กรมอุตุฯ ยันไม่เข้าไทย
กรมอุตุฯ เผยเส้นทางพายุ “ฟงวอง” ล่าสุด หลังพัดถล่มฟิลิปปินส์ เตรียมวกขึ้นฝั่งไต้หวันช่วง 12-13 พ.ย. นี้ ยืนยันไทยไม่ได้รับผลกระทบโดยตรง แต่ผู้จะเดินทางควรเช็กสภาพอากาศ
จับตาอย่างใกล้ชิดสถานการณ์พายุไต้ฝุ่น ฟงวอง (FUNG-WONG) ล่าสุด ได้เคลื่อนตัวผ่านตอนเหนือของประเทศฟิลิปปินส์ และลงสู่ทะเลจีนใต้ตอนบนแล้ว ด้านกรมอุตุนิยมวิทยาของไทย ยืนยันว่า พายุลูกนี้ ไม่มีแนวโน้มเคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทย และจะไม่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อสภาพอากาศของบ้านเรา
อัปเดตเส้นทาง “พายุฟงวอง” วันที่ 12-13 พ.ย. 68
หลังจากพายุฟงวองขึ้นฝั่งที่เกาะลูซอนของฟิลิปปินส์ ได้เคลื่อนตัวออกสู่ทะเลจีนใต้ตอนบน แบบจำลองสภาพอากาศจากหน่วยงานสากล (เช่น JMA และ JTWC) คาดการณ์ตรงกันว่า พายุจะเปลี่ยนทิศทาง วกกลับขึ้นไปทางทิศเหนือ มุ่งหน้าสู่ช่องแคบไต้หวัน ในช่วงวันที่ 12–13 พฤศจิกายนนี้ และมีแนวโน้มจะอ่อนกำลังลงเนื่องจากปะทะกับมวลอากาศเย็นจากจีน
ผลกระทบต่อประเทศไทย
สำหรับผลกระทบต่อประเทศไทย กรมอุตุนิยมวิทยาได้ออกมายืนยันแล้วว่า ไทยจะไม่ได้รับผลกระทบโดยตรงจากพายุลูกนี้ สภาพอากาศในช่วงนี้ของไทยตอนบนจะมีแนวโน้มฝนลดลง โดยปัจจัยหลักที่จะกำหนดสภาพอากาศคือมวลอากาศเย็นจากประเทศจีนที่กำลังแผ่ลงมาปกคลุมมากกว่า
อย่างไรก็ตาม สำหรับผู้ที่มีกำหนดการเดินทางไปยังไต้หวัน หรือพื้นที่ใกล้เคียงในช่วงวันที่ 12–13 พฤศจิกายน ควรตรวจสอบสภาพอากาศและสถานะของเที่ยวบินก่อนออกเดินทางอย่างใกล้ชิด เนื่องจากอาจได้รับผลกระทบจากพายุได้
ในส่วนของการเดินเรือ แม้พายุจะไม่เข้าสู่ประเทศไทย แต่บริเวณทะเลจีนใต้ตอนบนจะมีคลื่นลมแรง ชาวเรือที่จำเป็นต้องเดินเรือในน่านน้ำดังกล่าว ควรเพิ่มความระมัดระวังและติดตามประกาศเตือนภัยอย่างต่อเนื่อง
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- คลิประทึก! พายุ “คัลแมกี” ซัดเวียดนาม รถจอดนิ่งยังไหล หลังคาปลิวว่อน
- ฟงวอง ถูกยกระดับเป็นซุเปอร์ไต้ฝุ่น ถล่มฟิลิปปินส์ซ้ำ หลังเพิ่งเผชิญพายุคัลแมกี
- หนาวนี้ไม่แห้ง เตรียมรับมือ “พายุคัลแมกี” 7 พ.ย. เสี่ยงน้ำท่วมฉับพลัน
ในขณะที่ฟิลิปปินส์ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่พายุเคลื่อนผ่านไปแล้ว สำนักข่าวต่างประเทศรายงานถึงความเสียหายที่เกิดขึ้นเป็นวงกว้าง มีรายงานผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 2 ราย และมีประชาชนจำนวนมหาศาลกว่า 1.4 ล้านคน ต้องอพยพออกจากพื้นที่หรือกลายเป็นผู้พลัดถิ่น เนื่องจากเหตุน้ำท่วมหนักและลมกระโชกแรงที่พายุได้ทิ้งไว้เป็นร่องรอยความเสียหาย

ข้อมูลจาก
ติดตาม The Thaiger บน Google News:





