ข่าวต่างประเทศ

กัมพูชา โบ้ยไทยถล่มใส่ ปราสาทพระวิหาร เสียหายหนัก กลางที่ประชุมยูเนสโก

รมว.วัฒนธรรม กัมพูชา กล่าวเสียใจต่อมรดกโลก ปราสาทพระวิหาร กลางเวทียูเนสโก อ้างเป็นเพราะไทย เป็นฝ่ายยิงถล่มจนเสียหายหนัก

เมื่อวันที่ 3 พ.ย.2568 ที่ผ่านมา ดร.เฟือง สกุณา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมและวิจิตรศิลป์กัมพูชา ได้กล่าวถ้อยแถลงในที่ประชุมสมัชชาใหญ่ยูเนสโก ครั้งที่ 43 เมืองซามาร์คันด์ ประเทศอุซเบกิสถาน โดยได้กล่าวแสดงความเสียใจต่อความเสียหายที่เกิดขึ้นกับมรดกโลกอย่างปราสาทพระวิหาร

รัฐมนตรีกัมพูชาได้กล่าวในที่ประชุม โดยระบุว่าความเสียหายดังกล่าวเกิดจากการที่ปราสาทถูกฝ่ายไทยยิงถล่ม ระหว่างการปะทะบริเวณชายแดนเมื่อวันที่ 24-28 กรกฎาคม 2568 ที่ผ่านมา

ดร.เฟือง กล่าวว่า ในฐานะประเทศที่เคยผ่านพ้นภัยพิบัติจากการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์และสงครามในอดีต กัมพูชาตระหนักดีถึงผลกระทบอันเลวร้ายของสงครามและคุณค่าอันประเมินค่ามิได้ของสันติภาพ ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญของการพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน

FB/ ក្រសួងវប្បធម៌ និងវិចិត្រសិល្ប

ในด้านการศึกษา กัมพูชามุ่งเน้นไปที่ทักษะพื้นฐาน การดูแลเด็กเล็ก การฝึกอาชีพ การเรียนรู้ตลอดชีวิต และความสามารถด้านดิจิทัล เพื่อเตรียมความพร้อมเยาวชนให้เป็นกำลังหลักในการเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสร้างเศรษฐกิจของชาติต่อไป

กัมพูชาเป็นหนึ่งในประเทศสมาชิกที่ให้สัตยาบันต่ออนุสัญญาด้านวัฒนธรรมทุกฉบับของยูเนสโก ซึ่งสะท้อนถึงความตั้งใจจริงในการปกป้องมรดกทางวัฒนธรรม โดยเฉพาะการป้องกันและปราบปรามการลักลอบค้าโบราณวัตถุอย่างผิดกฎหมาย พร้อมกันนี้ กัมพูชาได้เรียกร้องให้พิพิธภัณฑ์ขนาดใหญ่และนักสะสมเอกชน ร่วมเจรจาเพื่อส่งคืนโบราณวัตถุกลับสู่ประเทศต้นทาง

นอกจากนี้ กัมพูชายังได้แสดงความสำคัญของความร่วมมือกับยูเนสโกในการส่งเสริมการพัฒนาที่ยั่งยืนตามเป้าหมายปี 2030 และเรียกร้องให้มีระบบข้อมูลข่าวสารที่มีความสมดุล มีจรรยาบรรณ และเคารพความหลากหลายทางวัฒนธรรม

ดร.เฟือง สกุณา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมและวิจิตรศิลป์กัมพูชา
FB/ ក្រសួងវប្បធម៌ និងវិចិត្រសិល្ប

ท่านรัฐมนตรียังได้กล่าวถึงเหตุการณ์ปะทะบริเวณชายแดนกัมพูชา-ไทยที่ผ่านมา ซึ่งสร้างความเสียหายอย่างร้ายแรงต่อมรดกโลก เช่น ปราสาทพระวิหาร โดยกัมพูชาขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อความเสียหายที่เกิดขึ้นกับผลงานทางวัฒนธรรมอันล้ำค่าและไม่อาจฟื้นฟูได้นี้

ในขณะเดียวกัน กัมพูชาขอแสดงความยินดีต่อพิธีลงนามในแถลงการณ์ร่วมว่าด้วยข้อตกลงสันติภาพกัวลาลัมเปอร์ระหว่างกัมพูชาและไทย เมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 2568 ที่ผ่านมา ซึ่งมีประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ฯพณฯ โดนัลด์ ทรัมป์ และนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ฯพณฯ อันวาร์ อิบราฮิม ร่วมเป็นสักขีพยาน

กัมพูชาหวังเป็นอย่างยิ่งว่าประเทศสมาชิกยูเนสโกทั้งหมด จะยังคงร่วมมือกันปกป้องและรักษามรดกทางวัฒนธรรมของโลกต่อไป

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

ติดตาม The Thaiger บน Google News:

Suriyen J.

นักเขียนบทความข่าว จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ สาขาปรัชญาและศาสนา มีประสบการณ์กับสำนักข่าวระดับประเทศ ชื่นชอบด้านสังคม การเมือง ต่างประเทศ ทำให้สามารถสร้างคุณค่าผ่านงานเขียน เพื่อให้ผู้อ่านได้ประโยชน์ครบทุกมิติ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to top button