อนุทิน ให้ความเชื่อมั่น “ลงนามสันติภาพ 4 ข้อ” ไม่ทำไทยเสียเปรียบแม้แต่ข้อเดียว
นายกรัฐมนตรี ให้ความเชื่อมั่น การลงนามปฏิญญาสันติภาพทั้ง 4 ข้อไม่ทำให้ไทยเสียเปรียบแม้แต่ข้อเดียว ไม่ทำให้เสียดินแดน ย้ำชัด เป็นแนวทางไปสู่สันติภาพ ยืนยัน จะรักษาอธิปไตย รักษาเกียรติภูมิไว้ได้ ชี้ เราไม่เคยยอมใช้แผนที่ 1:200,000 ใช้แนวทางใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่มาดำเนินการให้มากที่สุด
นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ไลฟ์ในเพจ Anutin Charnvirakul วันนี้ (26 ต.ค.68) เปิดใจก่อนลงนามปฏิญญาสันติภาพระหว่างไทยกับกัมพูชา ณ ประเทศมาเลเซีย โดยนายกฯ ให้ความมั่นใจว่า ในปฏิญญาทั้ง 4 ข้อนั้น จะไม่ทำให้ประเทศไทยเสียเปรียบแม้แต่ข้อเดียว และแม้ไม่ได้รับรองจากรัฐสภาแต่ได้รับรองจากคณะรัฐมนตรีแล้วมี 4 ข้อที่ได้ย้ำไปตลอด ดังนี้
- การถอนอาวุธหนัก
- การกู้ทุ่นระเบิด
- การปราบปรามอาชญากรรมสแกมเมอร์
- การหาแนวทางบริหารพื้นที่ชายแดน
ทั้ง 4 ข้อ นายอนุทินเน้นย้ำชัดเจนจะได้เห็นว่า ต้องเริ่มจากรัฐบาลกัมพูชาก่อน เมื่อประเทศเพื่อนบ้านเริ่มแล้ว ฝั่งไทยจะมาประเมินว่า จะดำเนินการต่อตามความต้องการของประเทศทั้ง 2 ยังไม่มีการเปิดด่านหรือยอมเสียดินแดน หรือจะใช้แผนที่ 1:200,000 จะไม่พูดภายใต้ปฏิญญานี้ ซึ่งจะพูดไปสู่การปฏิบัติทั้งสองประเทศ ทำให้เกิดความสงบชายแดนทั้ง 2 ประเทศ
อีกทั้งยังระบุด้วยว่า ไม่ต้องการเป็นศัตรูกับใครทั้งสิ้น เรารักสงบ-ไทยนี้รักสงบ แต่ถึงรบไม่ขลาด สิ่งที่ประเทศไทยได้ปฏิบัติมาตลอดตั้งแต่มีปัญหากับกัมพูชาเพราะฉะนั้นขอให้พี่น้องประชาชนให้ความมั่นใจว่ารัฐบาลไทย กองทัพ ข้าราชการกระทรวงการต่างประเทศ เราทำงานอย่างหนักกว่าจะมาถึงจุดนี้
“ขอให้มั่นใจว่า ผมอยู่ในประประสบการณ์ในการเจรจาตั้งแต่อยู่ภาคเอกชน มั่นใจว่าเราไม่เสียเปรียบ เพราะมีนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย และประธานาธิบดีสหรัฐฯมาเป็นสักขีพยาน” นายอนุทิน นายกฯ ทิ้งท้ายก่อนเตรียมเข้าร่วมประชุมนัดสำคัญ


อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่าเราจะรักษาอธิปไตย รักษาเกียรติภูมิไว้ได้ เราไม่เคยยอมใช้แผนที่ 1:200,000 เราใช้แนวทางใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่มาดำเนินการให้มากที่สุด ขอให้มั่นใจว่าอีกไม่กี่ชั่วโมง จะได้ลงนามในปฏิญญานี้แล้ว ไม่ใช่สัญญาสงบศึก เป็นข้อตกลงที่จะนำไปสู่สันติภาพของทั้งสองประเทศ
สำหรับภารกิจในวันที่ 26 ตุลาคมนี้ นายกฯ จะเข้าร่วมพิธีเปิดการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 47 และการประชุมสุดยอดที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งพิธีมอบรางวัลอาเซียน (ASEAN Prize) และพิธีลงนามเอกสารรับติมอร์-เลสเต เข้าเป็นสมาชิกอาเซียนอย่างเป็นทางการ โดยจะใช้โอกาสนี้กล่าวแสดงความยินดี พร้อมย้ำบทบาทไทย ร่วมกับประเทศสมาชิกอาเซียน ในการผลักดันอาเซียนให้คงไว้ซึ่งความเป็นเอกภาพ ความมั่นคง และความร่วมมือที่ครอบคลุม เพื่อให้ภูมิภาคก้าวสู่ความสงบสุขและการพัฒนาอย่างยั่งยืน
นอกจากนี้ นายอนุทิน นากยรัฐมนตรีมีกำหนดพบหารือกับประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา นายโดนัลด์ เจ. ทรัมป์ เพื่อกระชับความร่วมมือในประเด็นเศรษฐกิจ ความมั่นคง และการพัฒนาที่ยั่งยืนในภูมิภาค ก่อนเข้าร่วมพิธีลงนาม “Joint Declaration by the Prime Minister of the Kingdom of Cambodia and the Prime Minister of the Kingdom of Thailand” ว่า ด้วยแนวทางการดำเนินการบริหารจัดการชายแดนไทย-กัมพูชา เพื่อนำไปสู่ความสงบเรียบร้อยของสองประเทศ โดยมีนายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีของมาเลเซีย และโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ร่วมเป็นสักขีพยานในการลงนามดังกล่าว ซึ่งจะมีการแถลงข่าวภายหลังพิธีดังกล่าว
ทั้งนี้ หลังเสร็จสิ้นภารกิจ นายกฯ และคณะจะออกเดินทางกลับประเทศไทยในวันเดียวกัน.

อ่านข่าวเพิ่มเติม
- นายกฯ อนุทิน เรียกประชุม ครม. นัดพิเศษ วางกรอบจัดพระราชพิธีพระศพ พระพันปีหลวง
- อนุทิน เตรียมสั่งกรมการปกครอง ลุยสอบ มูลนิธิกันจอมพลัง ลั่น ถ้าทำถูกก็ไม่ต้องกังวล
- ฮุน มาเนต ส่งสารแสดงความอาลัย สมเด็จพระพันปีหลวง เสด็จสวรรคต
ติดตาม The Thaiger บน Google News:





