ข่าว

“บอย ท่าพระจันทร์” จวกคอลเซ็นเตอร์ในคราบคนขายพระปลอม ทำลายความจริงวงการ

ไม่หายเดือด บอย ท่าพระจันทร์ VS โอ๊ต บางแพ เรื่องเหรียญทองคำหลวงปู่ทวดปี 08 ควันหลงวงการพระเครื่อง-เหรียญมงคลสะเทือน ไม่รู้จบยังไง ฝ่ายเซียนพระโพสต์ร่ายยาว เล่าประวัติก่อนเป็นเซียนพระดัง ชักภาพคู่ผู้การอ้อเปรยเอาผิดเกรียนคีย์บอร์ด ก่อนไม่ลืมฟาดคู่กรณีคนล่าสุดที่ไปออกโหนกระแสด้วยกันกว่า 2 ชม.

เรียกว่าเป็นผลสืบเนื่องหลังจากที่ไปออกรายการโหนกระแส ในเทปที่เล่นเอาคนในวงการพระเครื่องต่างแห่กันมาให้ความสนใจ หลังเกิดกรณีที่ บอย ท่าพระจันทร์ เซียนพระชื่อดัง เปิดหน้าชนกับ โอ๊ต บางแพ ประธานชมรมพระเครื่องเพื่อนพ้องน้องพี่ภาคตะวันตก เกี่ยวกับเรื่องเหรียญทองคำหลวงปู่ทวดปี 2508 จนวงการพระเครื่องสั่นสะเทือนโดยถึงตอนนี้ก็ไม่รู้ว่าปลายทางจะจบยังไง

ล่าสุด “บอย ท่าพระจันทร์” หรือ นายอรรถวัติ ศิริสิทธิธงไชย อายุ 45 ปี เคลื่อนไหวผ่านเฟซบุ๊กของตัวเองวันนี้ (11 ต.ค.) โดยระบุว่า ตนเองนั้นอาจไม่ใช่คนที่มี “หลวงปู่ทวด” มากที่สุด แต่ก็เป็นคนที่เคารพและศรัทธาในหลวงปู่ทวดอย่างสุดหัวใจไม่แพ้ใครเช่นกัน เพราะสำหรับตัวเองแล้วนั้น “หลวงปู่ทวด” ไม่ใช่แค่พระเครื่อง แต่คือสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจ ศรัทธาไม่ได้อยู่ที่จำนวนองค์ที่เรามีแต่อยู่ที่ “จิตใจ“

หลุดโฟกัส ชาวเน็ตแห่แซว บอย ท่าพระจันทร์ ใช้ปากกาในตำนานกลางโหนกระแส-3

ก่อนหน้านี้ บอย ท่าพระจันทร์ ได้โอกาสเดินทางไปยังกองบังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 1 (บก.สอท.1) ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ จุดประสงค์เพื่อเข้าพบพล.ต.ต.ศิริวัฒน์ ดีพอ ผบก.สอท.1 เพื่อขอคำแนะนำข้อกฏหมายเกี่ยวกับพรบ.คอมพิวเตอร์ ที่เตรียมเอาผิดเกรียนคีย์บอร์ดและมีโอกาสมาขอดูพระของ พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ หรือ ผู้การอ้อด้วย

“ปรึกษาเรื่อง พรบ.คอม กับผู้การอ้อ ที่ สอท. ใครคอมเมนท์สนุกสนาน ระวังติดคุกนะจ๊ะ ผมฟ้องแน่ๆ ปล.ว่าแต่ พี่อ้อก็มีเหรียญเลื่อนเหมือนกันนะครับ” เนื้อหาบนเฟซบุ๊ก @อรรถวัติ บอย ท่าพระจันทร์ ศิริสิทธิธงไชย เมื่อ 10 ต.ค.ที่ผ่านมา โดยต่อมาเจ้าตัวยังแอบเปรยด้วยว่า ได้โอกาสดู “เหรียญเลื่อนสมณศักดิ์ หลวงปู่ทวด วัดช้างให้” ของผู้การอ้อโดยช่วยตรวจสอบก่อนยืนยันให้ว่าเป็นของแท้ และตัวเองพร้อมรับซื่อสูงถึง 1.5 แสนบาทเลยทีเดียว

พอร์ตความรวย บอย ท่าพระจันทร์
ภาพจาก : FB/อรรถวัติ บอย ท่าพระจันทร์ ศิริสิทธิธงไชย

เท่านั้นไม่พอ บอยยังเผยหลังตนเองไปย้อนดูคลิปนั่งคุยกับโอ๊ต บางแพ คู่กรณีที่ออกตัวว่า เหรียญหลวงปู่ทวดของบอยท่าพระจันทร์นั้นอาจจะไม่ใช่ของแท้ โดยตลอด 2ชั่วโมงกว่า เซียนพระชื่อดังอ้างว่า คู่กรณีนั้นค่อนข้างหาสาระเรื่องพระได้ยาก เพราะเอาแต่มโนเองหมด

“เนื้อทองคำหายากครับ! ผมมีรูปข้าง เอ่อสรุป มรึงไม่เคยได้ ไม่เคยเห็นเหรียญจริงเลยสักเหรียญ มรึงคุยเยอะขนาดนี้ #บอยใจเย็นๆ นะ”

ต่อมาเจ้าตัวยังเขียนข้อความร้อนแรงที่คล้ายจะฝากไปถึงคู่ดรณีเบอร์ล่าสุดด้วยว่า “คนที่ทำพระปลอมขายปลอม ลวงโลก กำลังจะทำลายความจริงที่มีอยู่ในวงการพระแท้ ด้วยการแถไปเรื่อยๆ เหมือนคอลเซนเตอร์”

ภาพ Facebook @อรรถวัติ บอย ท่าพระจันทร์ ศิริสิทธิธงไชย

จากนั้น ถัดมาจู่ๆ มีการโพสต์ร่ายยาวเปิดเผยเส้นทางชีวิตของตัวเอง ก่อนจะมาเป็นบอย ท่าพระจันทร์ เหมือนเช่นทุกวันนี้ด้วยว่า ผมรู้ดีว่า เราไม่สามารถทำให้คนทั้งประเทศรักหรือชอบเราได้ทั้งหมด แต่สิ่งที่ผมทำได้ คือเป็น “ตัวเอง” ในแบบที่ดีที่สุด ตั้งแต่เด็กชีวิตไม่ได้สวยหรู พ่อแม่แยกทางกันตั้งแต่ผมอายุเพียง 4 ขวบ แม่คือคนที่เลี้ยงดูจนเติบโตและแม่สอนเสมอว่า

“อย่าดูถูกใคร และถ้ามีใครดูถูกเรา จงทำให้เขาเห็นว่าเราทำได้ และต้องทำให้ดียิ่งกว่าเดิม”

ตอนเด็ก ๆ ทุกครั้งที่ถึง “วันพ่อ” เพื่อน ๆ จะมีพ่อมาร่วมงานที่โรงเรียน แต่ผม…อาจเป็นคนเดียวที่ไม่มีใครมาด้วย ผมเลือกที่จะอยู่ในห้องน้ำคนเดียว แต่ก็ทำให้ผมรู้จักความอดทนและเข้าใจคุณค่าของ “แม่” มากขึ้น

จุดเริ่มต้นของเส้นทางพระเครื่อง

บอย ท่าพระจันทร์ เล่าว่าตอนอายุ 13 เริ่มสนใจ “พระเครื่อง” และหลงใหลในสิ่งนี้มาก แต่เมื่อไปเดินตลาดพระท่าพระจันทร์ ขอใครดูพระก็ไม่มีใครยอมให้ดูเลย เพราะใครจะไว้ใจเด็กตัวเล็ก ๆ มาดูพระหลักพันหลักหมื่นได้ล่ะ? ตอนนั้นเจ้าตัวยอมรับว่าน้อยใจโชคชะตาอยู่มากแต่ตัวเองก็เรียนรู้ว่า “เราเลือกเกิดไม่ได้ แต่เราเลือกเส้นทางที่จะเดินไปสู่ความสำเร็จได้ หากเราพยายามมากพอ”

จากวันนั้น…ถึงวันนี้

ผ่านมา 32 ปีในวงการพระ บอยบอกว่าตนได้พบผู้คนมากมาย ทั้งรุ่นเก่า รุ่นใหญ่ รุ่นใหม่ วัยรุ่น วัยกลางคน แต่ไม่ว่าจะมีชื่อเสียงแค่ไหน “บอย ท่าพระจันทร์” ก็ยังเป็นคนเดิมเสมอ

“ผมให้เกียรติทุกคน เพราะผมรู้ดีว่าทุกคนต่างก็มีเส้นทางของตัวเอง ในชีวิต 45 ปีของผม ผมไม่เคยเจอใคร “หน้าด้าน หน้าทน ไม่อาย ไม่ยอมรับความจริง และแถไปเรื่อย ได้เท่านี้มาก่อนจนทำให้วงการพระแท้ต้องมาสั่นคลอนเพราะคอลเซนเตอร์ในคราบคนขายพระปลอม

นี่คือ หน้าประวัติศาสตร์ของวงการพระแท้ ที่ทุกคนในวงการควรจดจำไปอีกนานแสนนาน เมื่อวานผมได้มีโอกาสไปดู เฮียโน๊ต เดี่ยวไมโครโฟน มีประโยคหนึ่งที่ทำให้ผมฉุกคิดและจดจำไว้ในใจเสมอ โลกมันก็เป็นในแบบที่มันจะเป็น แต่สำคัญคืออยู่ที่เราจะมอง และนั่นแหละครับ… ผมเลือกที่จะมองโลกในมุมที่สวยงาม – มุมที่ผมได้เติบโต ได้เรียนรู้ และได้เป็น “ผม” ในวันนี้.

บอยท่าพระจันทร์ ถ่ายรูปคู่ โน๊ต อุดม แต้พานิช
ภาพ Facebook @อรรถวัติ บอย ท่าพระจันทร์ ศิริสิทธิธงไชย
ภาพ @xrrth.wati.bxy.thaphra.canthr.siri.sitht
ประวัติ บอย ท่าพระจันทร์-3
ภาพ @xrrth.wati.bxy.thaphra.canthr.siri.sitht
ประวัติ บอย ท่าพระจันทร์-2
ภาพ @xrrth.wati.bxy.thaphra.canthr.siri.sitht

อ่านข่าวเกี่ยวกับบอย ท่าพระจันทร์ วันนี้ 11 ตุลาคม 2568

ติดตาม The Thaiger บน Google News:

Pachara

นักเขียนประจำที่ Thaiger จบการศึกษาด้านศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา เคยผ่านประสบการณ์ผู้สื่อข่าวกีฬา เริ่มเขียนบทความกับ Thaiger ตั้งแต่ปี 2021 วิ่งกับการอ่านหนังสือ คือ กิจกรรมที่สนใจเป็นพิเศษ ช่องทางติดต่อ pachara@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to top button