ทนาย มั่นใจคดี ม.112 ชี้เป็นคลิปตัดต่อ ไม่ได้มาจากคำพูดของ “ทักษิณ”

ทนายความของทักษิณ มั่นใจคดี ม.112 ชี้คลิปต้นเรื่อง เป็นคลิปให้สัมภาษณ์สื่อเกาหลีเป็น คลิปตัดต่อ ไม่ได้มาจากคำพูดของทักษิณเอง
นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี สัมภาษณ์ก่อนเข้ารับฟังคำพิพากษาตัดสินคดี ม.112 และ พ.ร.บ. ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ จากกรณีให้สัมภาษณ์กับ Chosun Media สื่อเกาหลีใต้ เมื่อปี 58
นายวิญญัติ กล่าวว่าวันนี้ นายทักษิณ เดินทางมารับฟังคำตัดสินของศาลด้วยตนเอง เนื่องจากความเป็นจำเลยในคดีอาญา ถือว่าเป็นหน้าที่ จะต้องมาฟังคำพิพากษาด้วยตนเอง เพราะว่ามีสัญญาประกันอยู่ และการปล่อยตัวชั่วคราว ก็เป็นการบังคับให้นายทักษิณมาฟังด้วยตนเองอยู่แล้ว และตัวนายทักษิณเองก็ประสงค์ จะเข้ามาด้วยตัวเองทุกครั้ง จะเห็นได้จากการสืบพยาน อย่างน้อย 5 ครั้ง ท่านก็มาทุกนัด ตรวจสัญญาณ
วามมั่นใจในการต่อสู้คดีตนมีมาตั้งแต่ต้นอยู่แล้ว ส่วนผลจะออกมาดีหรือไม่ดีขอไม่ตอบ อยากให้รอฟังคำตัดสินของศาลก่อน แต่ความมั่นใจในการต่อสู้คดีภายหลังจากที่ตนรับทำคดีนี้ และได้เห็นพยานหลักฐานตั้งแต่เมื่อ 10 กว่าปีก่อน ก่อนที่จะมีการฟ้องด้วยซ้ำ จนกระทั่งมีการฟ้อง เราก็เห็นพยานหลักฐานหลายส่วนที่ชัดเจน แต่จากการสืบพยานโจทก์ ก็ยิ่งชัดเจนว่าเรามาถูกทางแล้ว เนื่องจากการต่อสู้ในคดีอาญา ก็ต้องดูพยานหลักฐานของผู้กล่าวหาเป็นหลัก และก็ต้องดูเจตนาของจำเลยด้วย สิ่งเหล่านี้เราได้นำพิสูจน์ต่อศาล และได้แสดงการปฏิเสธมาตั้งแต่ต้น และนายทักษิณก็เคยบอกว่าไม่ได้มีเจตนาเช่นนั้น
ส่วนรายละเอียดของหลักฐาน ที่เป็นคลิปวีดีโอของฝ่ายโจทก์ นั้นมีการยื่นข้อมูลอย่างไรบ้าง สามารถเปิดเผยได้หรือไม่นายวิญญัติ ระบุว่า เรื่องนี้ตนขอให้สัมภาษณ์ภายหลังมีคำพิพากษา ซึ่งตนจะลงรายละเอียดให้ ถ้ามีเวลาแต่หากไม่มีเวลาตนก็อาจจะไปพูด ในที่ใดที่หนึ่ง ขอให้ติดตาม
นายวิญญัติ กล่าวต่อว่า นายทักษิณ พูดเสมอ ท่านเป็นอดีตนายกรัฐมนตรี มีความสำนึกความเป็นพลเมืองไทย และท่านก็เป็นพสกนิกร ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ความจงรักฯ ของท่านมีอย่างชัดเจนและเป็นที่ประจักษ์ ส่วนเหตุที่นำมานี้ท่านก็บอกแล้ว เป็นการพูดที่ไม่ได้มาจาก การพูดของท่าน อย่างถูกต้อง และท่านเชื่อว่าเป็นการตัดต่อ ซึ่งเราก็พยายามพิสูจน์ว่านั่นคือการตัดต่อ แต่การพิสูจน์ทางคดี เมื่อจำเลยปฏิเสธ โจทก์ก็ต้องพิสูจน์ให้ได้ว่าไม่ใช่การตัดต่ออย่างไร เรื่องนี้เดี๋ยวเราค่อยคุยกัน
เมื่อถามว่า หลักฐานอะไรที่ทำให้มีความมั่นใจมากที่สุด นายวิญญัติกล่าวว่า ฝ่ายโจทก์ได้สืบพยานไป 10 ปาก ฝ่ายจำเลยสืบพยานไป 3 ปาก หลักฐานที่เรานำขึ้นพิสูจน์ เพื่อแก้ข้อกล่าวหา ก็จะมีเรื่องของตัวบุคคลเป็นหลัก รวมถึงข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นในอดีต ซึ่งที่ผ่านมาเป็นความจริงทั้งหมด ไม่ใช่ข้อเท็จจริงที่สร้างขึ้น ตนเชื่อว่าเมื่อศาลเห็น ก็จะสามารถนำมาวินิจฉัยได้
ส่วนนายทักษิณได้มีความกังวลหรือได้แจ้ง เรื่องอะไรต่อทนายความหรือไม่ นายวิญญัติกล่าวว่าเมื่อวานตอนเย็นก็ยังได้คุยกับนายทักษิณ ก็ยังปกติ
นายวิญญัติ ยังกล่าวอีกว่า การนำเสนอข้อมูลข่าวสาร ในปัจจุบันเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อน ไม่ว่าใครก็ตาม ถ้าเทียบกับกรณีของ นายทักษิณ ที่ถูกนำคลิปขึ้นมา การนำเสนอข่าวสารเมื่อเสนอแล้ว ก็ยังไม่มีใครพิสูจน์ความจริง ดังนั้นการขยายความที่อาจก่อให้เกิดความเข้าใจผิด ก่อให้เกิดการบิดเบือน ตนว่าสังคมควรจะระมัดระวัง ตนไม่ได้พูดแค่กรณีของสื่อมวลชน แต่พูดถึงทุกคนที่ถือสมาร์ทโฟนหรืออื่นๆ นี่คือเรื่องที่อันตรายมาก ที่อาจทำให้ถูกดำเนินคดีด้วย
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- “ทักษิณ” เดินทางถึงศาลแล้ว เตรียมฟังคำพิพากษา ชี้ชะตาคดี ม.112
- รอดไม่รอด! ศาลนัดพิพากษาคดี ม.112 “ทักษิณ” ให้สัมภาษณ์สื่อเกาหลี
- เอม พินทองทา โพสต์ภาพ “อิ๊งค์-ทักษิณ” เข้าเฝ้าสมเด็จพระสังฆราช
ติดตาม The Thaiger บน Google News: