การเงินเศรษฐกิจ

ธ.ก.ส. เผยวันโอนเงินช่วยชาวนา 1000 บาท เดือนกันยายน 2568

ธ.ก.ส. เคาะวันโอนเงินช่วยชาวนา ไร่ละ 1,000 บาท คาดล็อตแรก 1 ก.ย.นี้ พิเศษปีนี้เพิ่มข้าวนาปรัง อัดฉีดรวมกว่า 46,000 ล้านบาท

ข่าวดี นายฉัตรชัย ศิริไล ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เผยความคืบหน้าโครงการสนับสนุนเงินช่วยเหลือชาวนา ไร่ละ 1,000 บาท หรือ เงินช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าว โดย ธ.ก.ส. เตรียมเสนอเรื่องเข้าที่ประชุมคณะกรรมการธนาคารในวันที่ 28 สิงหาคมนี้ คาดว่าจะสามารถเริ่มโอนเงินรอบแรกให้แก่เกษตรกรได้ในวันที่ 1 กันยายน 2568

มาตรการดังกล่าวจะช่วยอัดฉีดเม็ดเงินกว่า 46,000 ล้านบาทเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจฐานราก เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าวทั่วประเทศประมาณ 4 ล้านครัวเรือน

ความพิเศษของโครงการในปีนี้ คือ การขยายขอบเขตการช่วยเหลือให้ครอบคลุมเกษตรกรผู้ปลูกข้าวนาปรังเป็นครั้งแรก นอกเหนือจากข้าวนาปีที่ช่วยเหลือเป็นประจำทุกปี มีรายละเอียดวงเงินรวมทั้งสิ้น ประมาณ 46,000 ล้านบาท แบ่งออกเป็น

  • ข้าวนาปี (ปีการผลิต 2568/69) : วงเงินประมาณ 38,000 ล้านบาท
  • ข้าวนาปรัง (ปี 2568) : วงเงินประมาณ 8,000 ล้านบาท

ความคืบหน้าล่าสุด วันที่ 28 ส.ค. ที่จะถึงนี้ ธ.ก.ส. จะนำเรื่องเสนอเข้าที่ประชุมคณะกรรมการธนาคาร (บอร์ด ธ.ก.ส.) เพื่อขออนุมัติ จากนั้นคาดการณ์ว่าเริ่มโอนเงินรอบแรกให้แก่เกษตรกรในวันจันทร์ที่ 1 ก.ย. 68 ทางธนาคารพร้อมโอนเงินภายใน 3 วันทำการ หลังจากได้รับข้อมูลรายชื่อเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนจากกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยจะแบ่งการโอนเงินทั้งหมด 5 รอบ เพื่อให้ครอบคลุมเกษตรกรทั้งหมด

ขณะนี้ ธ.ก.ส. กำลังหารือถึงช่องทางการโอนเงินเพิ่มเติม อาจมีการใช้แอปพลิเคชันทางรัฐควบคู่ไปกับการโอนเข้าบัญชี ธ.ก.ส. ตามรูปแบบเดิม เพื่อเพิ่มความสะดวกให้แก่เกษตรกร

เงินช่วยชาวนาไร่ละ 1000 บาท คาดเริ่มโอน 1 ก.ย. 68

ผู้จัดการธนาคารให้ข้อมูลว่า โครงการเงินช่วยเหลือชาวนานี้ไม่ส่งผลกระทบต่อสถานะของธนาคารและยังคงอยู่ภายใต้กรอบการบริหารความเสี่ยง นอกจากนี้ ธ.ก.ส. ยังคงเดินหน้าภารกิจในการพัฒนาคุณภาพชีวิตคนในชนบทอย่างต่อเนื่องผ่านโครงการสินเชื่อต่าง ๆ เช่น

  • สินเชื่อสำหรับ อสม. ทั่วประเทศ ปล่อยสินเชื่อไปแล้วกว่า 40,000 ล้านบาท
  • สินเชื่อสำหรับกำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน เตรียมวงเงินเพิ่มเติมอีก 5,000 ล้านบาท
  • สินเชื่อสำหรับครูและบุคลากรสาธารณสุข จัดสรรเพิ่มอีก 10,000 ล้านบาท

นอกจากนี้ยังปล่อยสินเชื่อเพื่อพัฒนาชนบทอีก 20% ประมาณ 200,000 บาท

ทั้งนี้ ภาพรวมสถานะทางการเงินของธนาคาร หนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ระดับประมาณ 5% ถือว่าสามารถควบคุมได้ดี อีกทั้งธนาคารยังได้เตรียมพร้อมรับมือผลกระทบจากมาตรการภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ โดยส่งเสริมให้เกษตรกรปรับเปลี่ยนรูปแบบการผลิตและใช้เทคโนโลยีเพื่อลดต้นทุน พร้อมเตรียมวิธีรองรับผลที่จะเกิดขึ้นในกลุ่มเปราะบางต่อไป

วิธีตรวจสอบสถานะเกษตรกรผ่านเว็บไซต์

หากท่านใดต้องการตรวจสอบสถานะการเป็นเกษตรกรและการรับเงินต่าง ๆ ผ่านช่องทางออนไลน์สามารถเช็กได้ตามนี้

1. เข้าสู่เว็บไซต์ www.efarmer.doae.go.th

2. กรอกเลขบัตรประชาชน

3. กรอกรหัสหลังบัตรประชาชน โดยหมายเลขหลังบัตรประจำตัวประชาชน 12 หลัก ต้องพิมพ์ติดกันไม่ต้องใส่ “-” เช่น JT1234567890 หลักที่ 1-2 เป็นตัวอักษรภาษาอังกฤษตัวพิมพ์ใหญ่ และหลักที่ 3-12 เป็นตัวเลข

4. หลังกรอกข้อมูลและตรวจสอบความถูกต้องเรียบร้อยแล้ว กด ‘ตรวจสอบ’

5. จากนั้นระบบจะปรากฏสถานะการลงทะเบียนเกษตรกร

วิธีตรวจสถานะเกษตรกรผ่านเว็บไซต์
ภาพจาก : efarmer

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

ติดตาม The Thaiger บน Google News:

0 0 โหวต
Article Rating
สมัครรับข้อมูล
แจ้งเตือนเกี่ยวกับ
0 Comments
เก่าแก่ที่สุด
ใหม่ล่าสุด ถูกโหวตมากที่สุด
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

sukanlaya s.

นักเขียนบทความ SEO ประจำเว็บไซต์ The Thaiger จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เชี่ยวชาญงานเขียนประเภท ข่าวกระแสสังคม และบทความไลฟ์สไตล์ ไม่ว่าจะเป็น รีวิวที่เที่ยว เทรนด์แฟชั่นและความงาม พร้อมแนะนำกระแสมาแรง ทันเหตุการณ์ ช่องทางติดต่อ ying@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to top button
0
เราอยากทราบความคิดเห็นของคุณ โปรดแสดงความคิดเห็นx