ข่าวการเมือง

หมอมิ้ง ยัน แพทองธาร ไม่คิดลาออก หลังส่งคำชี้แจงศาล รธน.แล้ว

นพ.พรหมินทร์ เผย แพทองธาร ส่งคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาต่อศาลรัฐธรรมนูญแล้ว ยืนยันไม่มีแผนลาออก และมั่นใจในความบริสุทธิ์ใจ

4 สิงหาคม 2568 – นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ทีมกฎหมายได้นำส่งเอกสารคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ต่อศาลรัฐธรรมนูญเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ภายหลังจากที่ครบกำหนดการขอขยายเวลายื่นคำชี้แจงเป็นครั้งที่ 2 ในวันนี้ กรณีคลิปเสียงสนทนากับสมเด็จอัครมหาเสนาบดีเดโช ฮุน เซน อดีตนายกรัฐมนตรีกัมพูชา ซึ่งนำไปสู่ข้อกล่าวหาด้านจริยธรรม

นพ.พรหมินทร์ กล่าวยืนยันว่า นายกรัฐมนตรีไม่มีแผนที่จะลาออกจากตำแหน่งก่อนมีคำวินิจฉัยของศาลฯ และแสดงความเชื่อมั่นอย่างเต็มเปี่ยมในความบริสุทธิ์ใจของนายกรัฐมนตรีที่มีเจตนาสำคัญในการนำพาประเทศให้ก้าวพ้นจากวิกฤตความรุนแรง

“เอกสารต่าง ๆ พร้อมแล้ว และตัวแทนของนายกฯ กำลังเดินทางไปส่งที่ศาลรัฐธรรมนูญ ผมมีความมั่นใจในความบริสุทธิ์ใจของนายกฯ ที่จะทำให้ประเทศพ้นวิกฤติความรุนแรง ถือเป็นเจตนาสำคัญ” นพ.พรหมินทร์ กล่าว

นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี
ภาพจาก: รัฐบาลไทย

นพ.พรหมินทร์ ได้ให้รายละเอียดเกี่ยวกับเนื้อหาในคำชี้แจง โดยระบุว่าการสนทนากับ สมเด็จฯ ฮุน เซน ไม่ใช่การเจรจาในฐานะผู้แทนทางการของรัฐบาลกัมพูชา แต่เป็นการหารือส่วนตัวเพื่อแสวงหาแนวทางในการลดความรุนแรงและการสูญเสียจากเหตุปะทะตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งความพยายามดังกล่าวสามารถช่วยยืดระยะเวลาของสถานการณ์ตึงเครียดออกไปได้ช่วงหนึ่ง

อย่างไรก็ตาม นพ.พรหมินทร์ ยอมรับว่า เมื่ออธิปไตยของไทยถูกละเมิด กองทัพก็มีความจำเป็นต้องเข้าดำเนินการปกป้องผืนแผ่นดินไทยอย่างเต็มที่และสมเกียรติ ซึ่งการตัดสินใจทั้งหมดมีการประสานงานอย่างใกล้ชิดระหว่างนายกรัฐมนตรี กระทรวงการต่างประเทศ และกองทัพมาโดยตลอด

นพ.พรหมินทร์ กล่าวเสริมว่า ขณะนี้นายกรัฐมนตรีเคารพคำสั่งของศาลรัฐธรรมนูญที่ให้หยุดปฏิบัติหน้าที่เป็นการชั่วคราว และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าศาลฯ จะพิจารณาถึงความมุ่งมั่นตั้งใจในการนำพาสันติภาพกลับคืนมาอย่างเป็นธรรม ส่วนกรณีคดีอาญาที่อัยการสูงสุดอาจเรียกนายกรัฐมนตรีไปชี้แจง รัฐบาลก็พร้อมเข้าสู่กระบวนการตามกฎหมายโดยยืนยันว่าไม่มีเจตนากระทำผิด

อกจากประเด็นคำชี้แจงต่อศาลฯ นพ.พรหมินทร์ยังได้กล่าวถึงความสำเร็จของรัฐบาลในการบริหารจัดการ 2 วิกฤตการณ์สำคัญของประเทศ ได้แก่ สถานการณ์การสู้รบชายแดนไทย-กัมพูชา และการเจรจาปัญหาภาษีกับสหรัฐอเมริกา

ในประเด็นชายแดน การบรรลุข้อตกลงหยุดยิงและการกลับมาเปิดประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไปไทย-กัมพูชา (GBC) ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญของการเจรจาเพื่อสันติภาพ แม้จะยังคงมีความท้าทายในเรื่องการเก็บกู้ทุ่นระเบิดและความหวาดระแวงระหว่างกันอยู่ก็ตาม

ภาพจาก Facebook : Ing Shinawatra

ขณะที่การเจรจาเรื่องภาษีนำเข้ากับสหรัฐฯ ในอัตราร้อยละ 19 นพ.พรหมินทร์ยืนยันว่าประเทศไทยได้ข้อยุติที่เป็นประโยชน์ ไม่เสียเปรียบประเทศคู่แข่งในภูมิภาค และอาจได้เปรียบกว่าบางประเทศเล็กน้อยด้วยซ้ำ โดยเรื่องนี้ นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง จะได้นำกรอบการเจรจาดังกล่าวเข้าสู่การพิจารณาของรัฐสภาตามขั้นตอนต่อไป

สำหรับข้อวิจารณ์เรื่องการสื่อสารที่ทับซ้อนกันของหน่วยงานภาครัฐในช่วงวิกฤตชายแดน นพ.พรหมินทร์ ชี้แจงว่า สถานการณ์การสู้รบทำให้การรายงานข้อมูลจากพื้นที่เป็นไปด้วยความยากลำบาก ส่งผลให้ข่าวสารเกิดความล่าช้า เพื่อแก้ปัญหานี้ รัฐบาลจึงได้จัดตั้ง ศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทก.) โดยมี พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะรักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นผู้อำนวยการ เพื่อทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางรวบรวมข้อมูลและประสานงานกับกองทัพและกระทรวงการต่างประเทศให้เป็นเอกภาพ

นอกจากนี้ การสื่อสารที่ดูเหมือนซ้ำซ้อนในบางครั้ง เกิดจากความจำเป็นในการตอบโต้ข่าวปลอมและข้อมูลบิดเบือนจากฝั่งกัมพูชา เพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลที่ถูกต้องและทันท่วงที

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

ติดตาม The Thaiger บน Google News:

0 0 โหวต
Article Rating
สมัครรับข้อมูล
แจ้งเตือนเกี่ยวกับ
0 Comments
เก่าแก่ที่สุด
ใหม่ล่าสุด ถูกโหวตมากที่สุด
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

Suriyen J.

นักเขียนบทความข่าว จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ สาขาปรัชญาและศาสนา มีประสบการณ์กับสำนักข่าวระดับประเทศ ชื่นชอบด้านสังคม การเมือง ต่างประเทศ ทำให้สามารถสร้างคุณค่าผ่านงานเขียน เพื่อให้ผู้อ่านได้ประโยชน์ครบทุกมิติ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to top button
0
เราอยากทราบความคิดเห็นของคุณ โปรดแสดงความคิดเห็นx