สลด ลอร่า ดาห์ลไมเออร์ เหรียญทองทวิกีฬาโอลิมปิก ถูกหินตกใส่ขณะปีนเขาเสียชีวิต

ข่าวเศร้าวงการกีฬา เมื่อ ลอร่า ดาห์ลไมเออร์ เจ้าของเหรียญทองทวิกีฬาโอลิมปิก เสียชีวิต หลังเกิดอุบัติเหตุขณะปีนเขาที่ประเทศปากีสถาน
ลอร่า ดาห์ลไมเออร์ (Laura Dahlmeier) วัย 31 ปี อดีตแชมป์โลกไบแอธลอนโอลิมปิก 2 สมัยชาวเยอรมนี เสียชีวิต จากอุบัติเหตุขณะปีนเขาในประเทศปากีสถาน เรื่องนี้ได้รับการยืนยันจากทีมงานของเธอเมื่อวันพุธที่ผ่านมา
อุบัติเหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันจันทร์ที่ 28 กรกฎาคมที่ผ่านมา บริเวณยอดเขาไลลา พีค ที่ระดับความสูงประมาณ 5,700 เมตร ลอร่ากำลังปีนเขากับเพื่อนร่วมทีม จู่ๆ ก็ถูก หินถล่มใส่โดยไม่คาดคิด ในหุบเขาฮูเช่ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเทือกเขาคาราโครัม
ทีมงานของลอร่า ดาห์ลไมเออร์ เผยว่า เธอน่าจะเสียชีวิตในทันที และแม้จะมีการเริ่มปฏิบัติการกู้ภัยแล้ว แต่ก็ต้องยกเลิกไป เนื่องจากสภาพอากาศที่เลวร้ายทำให้เฮลิคอปเตอร์กู้ภัยไม่สามารถเข้าถึงพื้นที่ได้
สิ่งที่น่าเศร้าและกินใจคือ ตัวแทนของเธอยังเปิดเผยว่า เป็นความประสงค์ที่ชัดเจนและเป็นลายลักษณ์อักษรของลอร่า ดาห์ลไมเออร์ ว่าหากเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ จะไม่มีใครต้องเสี่ยงชีวิตเพื่อกู้ร่างของเธอ และเธอปรารถนาที่จะทิ้งร่างไว้บนภูเขา ซึ่งเป็นไปตามความประสงค์ของญาติเธอด้วย
ลอร่า ดาห์ลไมเออร์ เป็นนักปีนเขาที่มีประสบการณ์สูง เธออยู่ในภูมิภาคกิลกิต-บัลติสถานตั้งแต่ปลายเดือนมิถุนายน และเพิ่งปีนเขา Great Trango Tower สำเร็จไปแล้ว
ก่อนหน้านี้ ลอร่า ดาห์ลไมเออร์ สร้างประวัติศาสตร์ในโอลิมปิกฤดูหนาวพย็องชัง 2018 โดยเป็นนักไบแอธลอนหญิงคนแรกที่คว้า 2 เหรียญทอง ทั้งประเภทสปรินต์และเพอร์ซูตในการแข่งขันโอลิมปิกเดียวกัน เธออำลาวงการไบแอธลอนในปี 2019 ด้วยวัยเพียง 25 ปี
ประธานคณะกรรมการโอลิมปิกสากล (IOC) คริสตี้ โคเวนทรี กล่าวว่า “ลอร่าสร้างประวัติศาสตร์ในโอลิมปิกฤดูหนาวพย็องชัง 2018… เธอจะถูกจดจำตลอดไป” ขณะที่สมาพันธ์กีฬาโอลิมปิกเยอรมนีก็กล่าวเชิดชูว่า “เธอเป็นมากกว่าแชมป์โอลิมปิก เธอเป็นคนที่มีหัวใจ มีทัศนคติ และมีวิสัยทัศน์”
อ้างอิง : www.theguardian.com
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- เสียวแทน คาร์เลส เปเรซ อดีตแข้งบาร์เซโลนา ถูกหามส่งรพ. หลังโดนหมากัดจู๋
- แอนดี้ ไบรอน อดีต CEO คนดัง จ่อฟ้อง Coldplay ฐานทำลายชีวิตและชื่อเสียง
- ญี่ปุ่น เตือน ปชช.เฝ้าระวังสึนามิ อย่างต่อเนื่อง หลังแผ่นดินไหวขนาด 8.7 ในรัสเซีย
ติดตาม The Thaiger บน Google News: