“หมอเกศ” โดนอีก! ศาลรับฟ้องคดีคุณสมบัติ สั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ สว.

พญ.เกศกมล เปลี่ยนสมัย หรือ หมอเกศ โดนอีกหลังศาลฎีกามีคำสั่งรับคำฟ้อง คดีคุณสมบัติ พร้อมสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ โทษจำคุกสูงสุด 10 ปี
จากกรณีที่ทาง กกต. มีมติให้ดำเนินคดีกับ พญ.เกศกมล เปลี่ยนสมัย หรือ หมอเกศ สว.คนดัง ในความผิดตามกฎหมายเลือกตั้งและคดีอาญา กรณีใช้คำว่า “ศาสตราจารย์” ซึ่งจะมีอัตราโทษจำคุกเป็นเวลา 10 ปี และตัดสิทธิเลือกตั้งเป็นเวลา 20 ปี ยื่นคำฟ้องต่อศาลฎีกาเมื่อวันที่ 24 ก.ค. โดยขอให้สั่งให้เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งหรือเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งตามที่มีรายงานไปก่อนหน้านี้นั้น
ศาลฎีกามีคำสั่งรับคำฟ้องไว้พิจารณาวินิจฉัย และมีคำสั่งให้น.ส.เกศกมล ผู้ถูกกล่าวหาหยุดปฏิบัติหน้าที่จนกว่าศาลฎีกาจะมีคำพิพากษา พร้อมได้แจ้งคำสั่งดังกล่าวไปยังประธานวุฒิสภาแล้ว รวมทั้งศาลยังมีคำสั่งให้นัดตรวจพยานหลักฐานในวันที่ 10 ก.ย 68 เวลา 14.00 น. ณ ห้องพิจารณาคดีที่ 5 ศาลฎีกา
ทั้งนี้ การฟ้องคดีดังกล่าวสืบเนื่องจาก กกต.เห็นว่าการที่น.ส.เกศกมล ระบุข้อมูลแนะนำตัวของผู้สมัครสมาชิกวุฒิสภา (สว.3) ในส่วนของประวัติการศึกษาว่า “2.1 ศาสตราจารย์การพัฒนาทรัพยากร มนุษย์ (Professor in Human Resource Development) California University และระบุประวัติการทำงาน หรือประสบการณ์ในการทำงานในกลุ่มที่สมัครว่า “ศาสตราจารย์ ดร.แพทย์หญิง เกศกมล เปลี่ยนสมัย” นั้น
ข้อเท็จจริงเป็นที่ยุติว่า น.ส.เกศกมล มิได้มีตำแหน่งทางวิชาการศาสตราจารย์ตามหลักการและขั้นตอนที่กำหนดไว้ในกฎหมายดังกล่าวข้างต้นของประเทศไทย อีกทั้ง พยานที่ไต่สวนประกอบคนที่3-11 ซึ่งเป็นผู้สมัครรับเลือกเป็นสมาชิกวุฒิสภาและเป็นผู้มีสิทธิเลือก ระดับประเทศ ให้ถ้อยคำสอดคล้องกันว่า ข้อมูลแนะนำตัวของผู้สมัคร ซึ่งระบุว่า “ศาสตราจารย์ ดร.แพทย์หญิง เกศกมล เปลี่ยนสมัย “มีผลจูงใจให้ลงคะแนนให้แก่น.ส.เกศกมล
ดังนั้น การที่น.ส.เกศกมล แนะนำตัวในการเลือกสมาชิกวุฒิสภาว่าเป็น “ศาสตราจารย์ ดร.แพทย์หญิง เกศกมล เปลี่ยนสมัย” โดยที่มิได้ ดำรงตำแหน่งเป็นศาสตรา จารย์ตามกฎหมายของประเทศไทย จึงเป็นการหลอกลวง หรือจูงใจให้บุคคลอื่นเข้าใจผิด ในคุณสมบัติ ความรู้ความสามารถ หรือชื่อเสียงหรือเกียรติคุณของผู้ถูกร้อง เพื่อจูงใจให้ผู้สมัครหรือผู้มีสิทธิเลือก ลงคะแนนให้แก่ผู้ถูกร้อง ซึ่งเป็นการทุจริตในการเลือก และทำให้การเลือกมิได้เป็นไปโดยสุจริตหรือเที่ยงธรรม อันเป็นการฝ่าฝืนพ.ร.ป.ว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ.2561 มาตรา 62 และมาตรา 77 (4)
ซึ่งหากศาลฎีกามีคำพิพากษายืนตามที่กกต.มีมติเสนอก็จะมีโทษตาม มาตรา 77 ที่บัญญัติว่า ผู้ใดกระทำการ (4)หลอกลวง บังคับ ขู่เข็ญ ใช้อิทธิพลคุกคาม ใส่ร้ายด้วยความเท็จ หรือจูงใจให้บุคคลอื่น เข้าใจผิดในคุณสมบัติ ความรู้ความสามารถ หรือชื่อเสียงเกียรติคุณของผู้สมัครใด
เพื่อจูงใจให้ผู้อื่นสมัครเข้ารับเลือก เป็นสมาชิกวุฒิสภา หรือถอนการสมัคร หรือกระทำการใด ๆ อันไม่ชอบด้วยกฎหมาย ให้ผู้นั้นหมดสิทธิ ที่จะเลือกหรือได้รับเลือก หรือเพื่อจูงใจให้ผู้สมัครหรือผู้มีสิทธิเลือกลงคะแนนหรือไม่ลงคะแนนให้แก่ผู้ใด ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 1-10 ปีหรือปรับตั้งแต่ 20,000 -200,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของผู้นั้นมีกำหนด 20 ปี
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ด่วน! “หมอเกศ” ไม่รอด กกต. ฟันอาญา โทษอ่วมคุก 10 ปี ตัดสิทธิ์ 20 ปี
- รายชื่อ 16 สว. ล็อต 4 กกต.เรียกรับทราบข้อกล่าวหา ‘หมอเกศ’ ไม่รอด
- เปิดประวัติ “หมอเกศ” สว.หญิง คะแนนสูงสุด โปรไฟล์สะพรั่ง กลุ่มอาชีพอิสระ
ติดตาม The Thaiger บน Google News: