ย้อนโศกนาฏกรรม เจมส์ เรืองศักดิ์ รอดชีวิต เครื่องบินตก การบินไทย TG 261 เลขที่นั่ง 11A เมื่อ 27 ปีก่อน เกิดอะไรขึ้น
จากเหตุการณ์เครื่องบิน แอร์อินเดียตก คร่าชีวิตผู้โดยสาร ลูกเรือ และคนในอาคาร 241 ชีวิต มี 1 คนรอดตายปาฏิหาริย์ เรื่องเหลือเชื่อคือ เขานั่งที่นั่ง 11A ที่เดียวกับ เจมส์ เรืองศักดิ์ เคยนั่งบนเที่ยวบิน TG 261 ตกที่สุราษฏร์ธานี รอดชีวิตมาได้เช่นกัน
ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยเกอร์ ขอพาย้อนกลับไปคืนสุดพรั่งพรึงวันนั้น เกิดอะไรขึ้น
เมื่อวันที่ 11 ธันวาคม 2541 เวลา 18:45 น. เครื่องบินแอร์บัส A310 สายการบินไทย เที่ยวบิน TG261 เส้นทาง ดอนเมือง–สุราษฎร์ธานี ลงจอดผิดพลาด เนื่องด้วยสภาพอากาศเลวร้าย กัปตันบังคับเครื่องบินกลับจังหวะลงถึง 3 ครั้ง แต่ความพยายามครั้งสุดท้ายเกิดการตีลำตัวสูงขึ้นจนทำให้บินชะลอความเร็วจนสตอร์ ตกลงในพื้นที่ชุ่มน้ำใกล้สนามบินสุราษฎร์ธานี ระยะ 700 เมตรจากรันเวย์ 22
เที่ยวบินนี้มีผู้โดยสาร 132 คน ลูกเรือ 14 คน รวม 146 คน ในจำนวนนั้น “เจมส์ เรืองศักดิ์ ลอยชูศักดิ์” ศิลปินและนักแสดงชื่อดัง เป็นหนึ่งในผู้โดยสาร เจมส์เป็นหนึ่งใน 45 ผู้รอดชีวิต ขณะที่มีผู้เสียชีวิต 101 ราย
ส่วนสาเหตุเครื่องบินตก รายงานจากคณะ AAIC ฉบับสมบูรณ์ชี้ชัดว่า นักบินลงจอดในสภาพอากาศที่มีทัศนวิสัยต่ำกว่ามาตรฐาน ใช้แนวทางบิน VOR ที่ไม่ตรงกับตำแหน่งสนามบิน ไฟ LED และเครื่องช่วยแนวทางลงไม่ได้ทำงานครบถ้วน ประกอบกับความตึงเครียดจากการบินกลับหลายรอบ จนเครื่องบินสูญเสียแรงยก นักบินไม่สามารถกู้สถานการณ์ได้ทัน
ภาพแห่งความสูญเสียปรากฎทั่วทุกหน้าหนังสือพิมพ์ ซากเครื่องบินลุกเป็นไฟทันทีหลังตก หลายศพจมน้ำเพราะเครื่องตกลงบนพื้นที่ชุ่มน้ำ เจ้าหน้าที่กู้ภัยกว่า 400 นายเข้าช่วยเหลือ แต่ภาระหนักเพราะจุดเกิดเหตุอยู่ในสภาพน้ำสูง พบบรรยากาศศพถูกนำมาตั้งในโรงฉุกเฉินที่สนามบิน เนื่องจากหน่วยงานจำกัดพื้นที่จัดเก็บศพ
เมื่อปี 2565 รายการแฉ จากช่อง GMM25Thailand เจมส์ เรืองศักดิ์ ได้มาสัมภาษณ์เปิดใจ ว่าตอนนั้นแม้จะได้รับบาดเจ็บสาหัส แต่ตนกลับเป็นผู้ที่สมบูรณ์ที่สุดในกลุ่มผู้รอดชีวิต แถมมีเรื่องเหลือเชื่อ คำทำนายจากคุณตาที่เป็นพระและหมอดู ที่ทำนายชีวิตของตนกับครอบครัวได้อย่างแม่นยำ รวมถึงเเครื่องบินตกด้วย
เจมส์เล่าสภาพตอนนั้นว่า กระดูกหลังหัก เลือดคั่งในสมอง ปอดทะลุ และกระดูกซี่โครงหักทิ่มปอด ในช่วงเวลาที่เครื่องบินตก ตนนั่งอยู่บริเวณปีกด้านซ้าย ติดหน้าต่าง ซึ่งเป็นจุดที่ทราบว่าเป็นตำแหน่งของถังน้ำมันเครื่อง เมื่อรู้สึกตัว สิ่งแรกที่ได้กลิ่นคือน้ำมันเครื่อง รู้สึกคันไปทั่วร่างกาย เนื่องจากตัวเปื้อนน้ำมัน จุดที่เครื่องบินตกเป็นน้ำสูงประมาณหน้าอก เจมส์ระบุว่าน้ำมันเครื่องบินมีความไวไฟสูงมาก หากโดนไฟจะไหม้จะลามเร็วมากโดยไม่มีเสียง
เจมส์ เล่าถึงวินาทีที่พยายามช่วยพี่ชายที่เป็น Sound engineer ที่มาด้วยกัน ซึ่งถูกเบาะทับจนร่างกายบิด เจมส์พยายามบอกให้พี่คนนั้นออกมา แต่พี่เขากลับบอกว่าไม่ไหวแล้ว และบอกให้เจมส์ออกไปก่อน เพื่อไปตามคนมาช่วย หลังจากที่เจมส์ออกมาได้ไม่นาน ก็ได้ยินเสียงเครื่องบินระเบิดตามมา
จากเหตุการณ์นี้ ทำให้เจมส์ได้เรียนรู้สัจธรรมของชีวิตที่ว่า “พรุ่งนี้กับชาติหน้า ไม่มีทางรู้ว่าอะไรจะถึงก่อนกัน” และ “ความไม่แน่นอนคือสิ่งที่แน่นอนที่สุด” เจมส์ตระหนักว่าต่อให้ร่างกายแข็งแรง มีชื่อเสียง มีเงินทองมากมาย ก็อาจมีอันตรายที่คาดไม่ถึงเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา ซึ่งเป็นสิ่งเกิดขึ้นได้กับทุกคน ทำให้เขาเปลี่ยนมุมมองชีวิต หันมาทำความดีกับครอบครัวมากขึ้น เพราะไม่รู้ว่าวันไหนจะเป็นวันสุดท้าย
สิ่งที่น่าอัศจรรย์ยิ่งกว่าการรอดชีวิตคือ เรื่องราวคำทำนายจากคุณตาที่เป็นพระ มีความสามารถด้านโหราศาสตร์ คุณตาได้ทำนายชีวิตของหลานๆ ในตระกูล รวมถึงเจมส์ ตั้งแต่เขายังอายุประมาณ 8 ขวบ คุณตาเขียนทำนายไว้ในกระดาษว่า เมื่อเจมส์อายุ 18 จะมีคนรู้จักทั้งประเทศ, อายุ 20 จะได้เดินทางไปต่างประเทศ, ที่สำคัญที่สุดคือ อายุ 21 จะประสบอุบัติเหตุหนักที่สุดในชีวิต แต่ไม่ตาย ซึ่งเป็นจริงทุกประการ รวมถึงคำทำนายเรื่องความสำเร็จทางการเงินเมื่ออายุ 40 ขึ้นไปที่เงินจะเข้ามามากมาย
เจมส์เล่าว่า ก่อนเครื่องบินตกประมาณ 2 เดือน เจอเรื่องเหนือธรรมชาติ ขณะนอนหลับอยู่ จู่ๆ ก็ลืมตาขึ้นมาและเห็นองค์พระพิฆเนศที่บูชาไว้ในห้องนอนกำลังร่ายรำและเคลื่อนไหว แม้จะพยายามห้ามตัวเองแต่แขนกลับยกขึ้นรำตามไปเอง หลังจากเหตุการณ์นี้ไม่นาน เครื่องบินก็ตก
ในวินาทีที่กำลังถูกกู้ภัยช่วยเหลือหลังเครื่องบินตก เจมส์รู้สึกตัวว่าอยากหลับมาก เพราะไม่เจ็บปวดทรมานใดๆ เห็นแต่ภาพสีขาว อยากจะหลับไปเลย แต่เขากลับได้ยินเสียงผู้ชายสูงอายุทุ้มๆ ดังที่ข้างหูย้ำ 4 ครั้งว่า “ตื่น! ตื่น! ตื่น! ตื่น!” เมื่อเขาถามกู้ภัย กู้ภัยกลับบอกว่าดูแลผู้หญิงอีกคนอยู่ ไม่ได้คุยกับเขา
หลังจากการรักษาตัวในโรงพยาบาลจนหายดี เจมส์ได้มีโอกาสกลับไปพบรุ่นพี่ที่เคยให้รูปพระพิฆเนศมา รุ่นพี่พาเขาไปพบร่างทรงพระพิฆเนศ ทันทีที่เจอกัน ร่างทรงทักเจมส์เป็นคำแรกว่า “เราเป็นคนปลุกเธอเองนะ เราพูดคำว่าตื่นๆ คือเสียงของเรา” ซึ่งเจมส์ยืนยันว่าเขาไม่เคยรู้จักหรือเล่าเรื่องนี้ให้ร่างทรงฟังมาก่อน เหตุการณ์ทั้งหมดนี้ทำให้เจมส์เชื่อมั่นว่าพระพิฆเนศอยู่ดูแลเขา และจะดูแลเขาไปอีก 20 ปี
ภาพเครื่องบินจาก โดย AirSafetyGuy/Aviation Safety Network
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- เจมส์ เรืองศักดิ์ ขนลุก คนรอดตาย เครื่องบินแอร์อินเดียตก เลขที่นั่งเดียวกัน
- นายกอิ๊งค์ โพสต์แสดงความเสียใจ เครื่องบินแอร์อินเดียตก คร่า 241 ชีวิต
- เซลฟี่สุดท้าย พ่ออินเดียเตรียมพาครอบครัวไปอยู่ด้วยที่อังกฤษ ก่อนเครื่องตก
ติดตาม The Thaiger บน Google News:
ข่าวล่าสุด
