แพทยสภา ลงมติคะแนนเสียงท่วมท้น ลงโทษ 3 แพทย์ ปม “ทักษิณ” ชั้น 14

แพทยสภา ลงมติคะแนนเสียงท่วมท้น ตัดสินลงโทษ 3 แพทย์ กรณี ทักษิณ นอนชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ เตรียมดำเนินการต่อพรุ่งนี้
ดร.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา อุปนายกคนที่หนึ่ง แถลงผลการประชุมคณะกรรมการแพทยสภา ซึ่งพิจารณาคดีลงโทษ 3 หมอที่ดูแล นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่นอนรักษาตัวชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ
ซึ่งนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สาธารณสุข ในฐานะสภานายกพิเศษ ในฐานะสภานายกพิเศษ แพทยสภา ได้เข้าร่วมการประชุมระหว่างเวลา 12.00 – 12.15 น. รวมเวลา 15 นาที เพื่อชี้แจงกรณีใช้อำนาจสภานายกพิเศษฯ ยับยั้ง หรือ วีโต้มติแพทยสภาเมื่อวันที่ 8 พฤษภาคมที่ผ่านมา
ในกรณีที่กล่าวโทษแพทย์ 3 คน จากโรงพยาบาล (รพ.) ราชทัณฑ์ และ รพ.ตำรวจ ที่ให้การดูแลและส่งตัว นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ไปรักษาที่ชั้น 14 รพ.ตำรวจ ซึ่งที่ประชุมคณะกรรมการแพทยสภา ใช้เวลาประชุมในวาระดังกล่าวเป็นเวลา 3 ชั่วโมง
การประชุมวันนี้ กรรมการแพทยสภาเข้าร่วมประชุม 69 จาก 70 คน โดยมีกรรมการ 1 คน ที่ไม่ได้เข้าร่วมและไม่ส่งผู้แทนเข้าประชุม ส่วนการลงคะแนนเสียงโหวตในที่ประชุมเป็น 68 เสียง เนื่องจากมีกรรมการ 1 คน ที่ถูกตัดสิทธิเข้าประชุมคือ พล.ต.ท.ทวีศิลป์ เวชวิทารณ์ นายแพทย์ใหญ่ รพ.ตำรวจ ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ที่ถูกกล่าวโทษ
โดย ศ.ดร.นพ.ประสิทธิ์ กล่าวว่า ที่ประชุมแพทยสภาในวันนี้ มีการลงเสียงมากกว่า 2 ใน 3 ของที่ประชุม ด้วยเสียงของคณะกรรมการ 68 เสียง มีมติเห็นชอบให้ยืนยันตามมติเดิมเมื่อวันที่ 8 พ.ค. ซึ่งกระบวนการต่อไปจะออกคำสั่งและบังคับใช้ต่อไป ทั้งนี้ เมื่อแพทยสภารับรองมติแล้ว แสดงว่าสามารถดำเนินการได้เลยในวันพรุ่งนี้
กระบวนการในวันนี้เรารับฟังข้อคิดเห็นอย่างชัดเจน นายสมศักดิ์ มาให้ความเห็นของท่านในการวีโต้ ซึ่ววันนี้กรรมการได้รับเอกสารที่นายสมศักดิ์ ส่งถึงแพทยสภาเมื่อ 2 สัปดาห์ที่ผ่่านมาถึงเหตุผลการวีโต้ และนำข้อมูลมาเปรียบเทียบให้ห็นเหตุผล มีบทวิเคราะห์ ทั้งหมดนี้ กรรมการแพทยสภาใช้ดุลยพินิจด้วยตัวเอง วันนี้เป็นกระบวนการโปร่งใส ชัดเจน ทุกคนใช้ดุลยพินิภายใต้หลักวิชาการ และเหตุผล
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ม็อบไล่ “สมศักดิ์” เดือด จะขว้างรองเท้าใส่ ด่าแรง ลั่นไม่กลัวติดคุก
- เปิดคำชี้แจง “สมศักดิ์” ปมวีโต้มติแพทยสภา มองไม่ผิดจริยธรรม
- สส.เพื่อไทย ถาม แพทยสภา ก่อนรักษาคนไข้ ควรรักษาอคติในใจดีกว่าไหม?
ติดตาม The Thaiger บน Google News: