
บ่ายโมงรู้กัน เลขาฯ กกพ. แถลงค่าไฟงวด พ.ค.-ส.ค. 68 ลดเหลือ 3.99 บ./หน่วย กฟผ. ยืดเวลาคืนหนี้ AF คาดสิ้น ส.ค. ยังแบกอีก 6 หมื่นล้าน
สำนักข่าว กรุงเทพธุรกิจ รายงานว่า แนวโน้มอัตราค่าไฟฟ้าสำหรับงวดเดือนพฤษภาคม – สิงหาคม 2568 กำลังจะมีความชัดเจนในบ่ายวันนี้ 30 เม.ย. 68 เมื่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน หรือ สำนักงาน กกพ. เตรียมแถลงผลการพิจารณาอัตราค่าไฟฟ้าตามสูตรการปรับอัตราค่าไฟฟ้าโดยอัตโนมัติ (Ft) งวดใหม่ คาดว่าจะมีการปรับลดลงตามกรอบนโยบายของรัฐบาลที่มุ่งลดภาระค่าครองชีพประชาชน
รายงานข่าวจากสำนักงาน กกพ. แจ้งว่า นายพูลพัฒน์ ลีสมบัติไพบูลย์ เลขาธิการสำนักงาน กกพ. ในฐานะโฆษก กกพ. จะเป็นผู้แถลงผลการพิจารณาอย่างเป็นทางการ เวลา 13.00 น. ณ สำนักงาน กกพ. อาคารจัตุรัสจามจุรี หลังจากที่ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ได้ยื่นข้อเสนอปรับปรุงสูตรค่า Ft เข้ามาให้คณะกรรมการ กกพ. พิจารณาใหม่
สาระสำคัญของข้อเสนอจาก กฟผ. คือ การปรับสูตรคำนวณที่จะส่งผลให้อัตราค่าไฟฟ้าสำหรับงวดเดือนพฤษภาคม – สิงหาคม 2568 ปรับลดลงมาอยู่ที่ 3.99 บาทต่อหน่วย จากเดิมที่ กกพ. เคยประกาศแนวโน้มไว้ก่อนหน้านี้ที่ 4.15 บาทต่อหน่วย (เท่ากับงวดปัจจุบัน ม.ค. – เม.ย. 68)
กลไกสำคัญที่ทำให้การปรับลดค่าไฟครั้งนี้เป็นไปได้ คือ การที่ กฟผ. ยินยอมที่จะ ยืดระยะเวลาการแบกรับภาระต้นทุนค่าเชื้อเพลิงและค่าซื้อไฟฟ้า แทนประชาชนออกไปอีก จากเดิมที่อัตรา 4.15 บาทต่อหน่วยนั้น คาดว่า กฟผ. จะสามารถทยอยรับคืนภาระต้นทุนคงค้างสะสม (Accumulated Factor: AF) ที่เคยจ่ายล่วงหน้าไปก่อน ได้จำนวน 14,590 ล้านบาท (คิดเป็น 20.33 สตางค์ต่อหน่วย) ในงวด พ.ค.-ส.ค. นี้
ตัวอย่าง “สูตรคำนวณใหม่” ที่เสนอโดย กฟผ.
สมมุติว่าเราใช้ไฟ 100 หน่วย/เดือน กรณีเดิม (สูตรเก่า: 4.15 บาท/หน่วย) ค่าไฟ = 100 × 4.15 = 415 บาท (ยังไม่รวม VAT) กรณีใหม่ (สูตร กฟผ. เสนอ: 3.99 บาท/หน่วย) ค่าไฟ = 100 × 3.99 = 399 บาท (ยังไม่รวม VAT) ผลต่างที่ลดลง = 16 บาท/เดือน หรือถ้าใช้ไฟเยอะ เช่น 500 หน่วย/เดือน → ประหยัดได้ถึง 80 บาท/เดือน
เมื่อมีการปรับลดค่าไฟลงเหลือ 3.99 บาทต่อหน่วย การรับคืนภาระ AF ของ กฟผ. จะล่าช้าออกไป ทำให้ภาระต้นทุนคงค้างที่ กฟผ. ยังคงแบกรับแทนประชาชนอยู่ ซึ่งปัจจุบันมีมูลค่ารวมประมาณ 7 หมื่นล้านบาท จะลดลงช้ากว่าเดิม โดยคาดการณ์ว่า ณ สิ้นเดือนสิงหาคม 2568 กฟผ. จะยังคงมีภาระต้นทุนคงค้างเหลืออยู่ที่ประมาณ 60,474 ล้านบาท
ตัวเลขภาระคงค้างดังกล่าวยังไม่นับรวม มูลค่าส่วนต่างของราคาก๊าซธรรมชาติที่เกิดขึ้นจริงกับค่าก๊าซฯ ที่เรียกเก็บในช่วงเดือนกันยายน – ธันวาคม 2566 ของรัฐวิสาหกิจผู้จัดหาและค้าส่งก๊าซฯ อีกจำนวน 15,084 ล้านบาท ที่ กฟผ. อาจจะต้องรับภาระในอนาคต
การตัดสินใจปรับลดอัตราค่าไฟฟ้าครั้งนี้ จึงเป็นไปตามทิศทางนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการบรรเทาผลกระทบด้านค่าครองชีพ โดยมี กฟผ. เป็นหน่วยงานหลักที่เข้ามาช่วยแบกรับภาระต้นทุนด้านพลังงานไว้ชั่วคราว ซึ่งรายละเอียดและโครงสร้างตัวเลขที่ชัดเจน จะมีการแถลงอย่างเป็นทางการโดย โฆษก กกพ. ในช่วงบ่ายวันนี้
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- คนไทยเฮ กกพ.เคาะ ’ค่าไฟฟ้า‘ งวด ก.ย.-ธ.ค. 67 เหลือ 4.18 บาทเท่าเดิม
- เคาะแล้ว ลดค่าไฟกลุ่มเปราะบางถึง เม.ษ. 68 เช็กเงื่อนไข-คุณสมบัติ ใครได้บ้าง
- ทักษิณ เร่งบี้ค่าไฟเหลือ 3.70 บาท เล็งเห็นช่องทาง และอาจลดได้ต่อเนื่อง
ติดตาม The Thaiger บน Google News: