สายเลือดชั่ว! พี่ข่มขืนฆ่าน้องสาว 16 ศาลโกรธจัด สั่งคุกตลอดชีวิต

สั่งจำคุกตลอดชีวิต หนุ่มสกอตแลนด์วัย 19 ฆ่าข่มน้องสาววัย 16 โทษต่ำสุด 22 ปี ชายอีกคนเจอคุก 9 ปี ฐานลบหลู่ศพ อึ้ง พ่อแท้ๆ เพิ่งเข้าคุกคดีข่มขืน
กลาสโกว์, สกอตแลนด์ – ศาลสูงสกอตแลนด์มีคำพิพากษาสั่งจำคุกตลอดชีวิต นายคอนเนอร์ กิบสัน วัย 21 ปี และกำหนดโทษขั้นต่ำ 22 ปี ก่อนมีสิทธิ์ยื่นขอรับการพิจารณาทัณฑ์บน ในคดีก่อเหตุฆาตกรรมและล่วงละเมิดทางเพศ แอมเบอร์ กิบสันน้องสาวแท้ๆ วัย 16 ปี อย่างเหี้ยมโหด ในพื้นที่ป่าแคดโซว์ เกลน (Cadzow Glen) เมืองแฮมิลตัน แคว้นเซาท์แลนาร์กเชียร์ ประเทศสกอตแลนด์ เมื่อเดือนพฤศจิกายน ปี 2021
คอนเนอร์ ซึ่งขณะก่อเหตุมีอายุเพียง 19 ปี ถูกคณะลูกขุนตัดสินว่ามีความผิดจริงเมื่อเดือนกรกฎาคมปีที่แล้ว [พ.ศ. 2567] จากการทำร้ายร่างกายน้องสาวอย่างรุนแรง ถอดเสื้อผ้า ล่วงละเมิดทางเพศ ใช้ของแข็งทุบตีบริเวณศีรษะและลำตัว ก่อนลงมือรัดคอจนเธอเสียชีวิต
ในการอ่านคำพิพากษา ณ ศาลสูงเมืองลิฟวิงสตัน ผู้พิพากษา ลอร์ด มัลฮอลแลนด์ ได้กล่าวประณามการกระทำของคอนเนอร์อย่างรุนแรงว่าเป็น “ความชั่วร้ายอย่างแท้จริง” (truly evil) โดยชี้ว่า ในคืนเกิดเหตุ แอมเบอร์ตั้งตารอคอยที่จะได้พบกับพี่ชายของเธอ ถึงขั้นโพสต์ภาพเซลฟี่คู่กันลงในแอปพลิเคชันสแนปแชต
“คุณเดินไปกับเธอที่แคดโซว์ เกลน ที่นั่นคุณทุบตีเธอที่ศีรษะจนจมูกหัก ถอดเสื้อผ้าเธอ ล่วงละเมิดทางเพศโดยเจตนาข่มขืน แล้วลงมือรัดคอเธอจนตาย… คนสุดท้ายที่เธอเห็นตอนมีชีวิตคือคุณ พี่ชายของเธอ กำลังบีบคอคร่าชีวิตเธอ หลังจากทุบตีและพยายามข่มขืนเธอ” ผู้พิพากษากล่าว และเสริมว่าแม้คอนเนอร์จะพยายามทำลายหลักฐาน แต่ “คำโกหกทั้งหมดของคุณถูกเปิดโปงด้วยกล้องวงจรปิดและหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ ซึ่งเป็นพยานให้กับน้องสาวของคุณ วิทยาศาสตร์ได้บอกให้โลกรู้ถึงสิ่งที่คุณได้ทำลงไป”
หลักฐานสำคัญที่มัดตัวคอนเนอร์คือ ภาพจากกล้องวงจรปิดที่บันทึกภาพเขาอยู่กับน้องสาวในคืนเกิดเหตุ ก่อนจะเดินกลับที่พักคนเดียว และพยายามนำสิ่งของบางอย่างไปทิ้ง รวมถึงคราบเลือดบนเสื้อแจ็คเก็ตของเขาซึ่งตรงกับ DNA ของแอมเบอร์ และ DNA ของเขาบนกางเกงขาสั้น (ที่สวมเป็นชุดชั้นใน) ของแอมเบอร์ซึ่งมีร่องรอยถูกฉีกขาดอย่างรุนแรง
หนึ่งวันก่อนที่เขาจะถูกจับกุม (1 ธันวาคม 2021) คอนเนอร์ยังตีเนียนได้โพสต์ข้อความไว้อาลัยน้องสาวบนเฟซบุ๊กด้วยว่า “แอมเบอร์ ต่อจากนี้ไปน้องจะโบยบินอย่างสวยงาม พวกเราจะคิดถึงเธอ โดยเฉพาะฉัน ฉันรักเธอนะ ลาก่อนนะ”
เรื่องราวของแอมเบอร์ยิ่งน่าสลดใจมากขึ้น เมื่อมีการเปิดเผยว่า เพียง 5 เดือนก่อนที่เธอจะถูกพี่ชายฆาตกรรม เธอเคยตกเป็นเหยื่อถูกข่มขืนโดย นายเจมี สตารส์ วัย 20 ปี ขณะที่เธอกำลังหลับหรือไม่รู้สึกตัว ซึ่งนายสตารส์เพิ่งถูกศาลตัดสินจำคุก 10 ปี 6 เดือนไปเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา จากความผิดในคดีข่มขืนแอมเบอร์และวัยรุ่นอีกคน
และที่ช็อกยิ่งขึ้นไปอีก พบว่า พ่อแท้ๆ ของคอนเนอร์ “ปีเตอร์” เพิ่งถูกตัดสินจำคุก จากข้อหาข่มขืนและทำร้ายร่างกายหญิงสาวเช่นเดียวกัน
ชายอีกคนเจอคุก 9 ปี ฐานลบหลู่-ปกปิดศพ
ที่่น่าเศร้ากว่านั้น นอกจากคดีของคอนเนอร์ กิบสัน แล้ว ศาลยังมีคำพิพากษาในคดีที่เกี่ยวข้องกับ นายสตีเฟน คอร์ริแกน วัย 45 ปี ซึ่งเป็นผู้พบศพของแอมเบอร์ในสภาพเปลือยเปล่า ในช่วงระหว่างวันที่ 26-28 พฤศจิกายน 2021 แต่แทนที่เขาจะแจ้งเหตุฉุกเฉิน คอร์ริแกนกลับแตะต้องสัมผัสร่างกายของเธอในลักษณะที่ไม่เหมาะสม ล่วงละเมิดทางเพศหลายแห่ง (รวมถึงบริเวณหน้าอก บั้นท้าย และต้นขา) แล้วยังพยายามปกปิดศพด้วยการลากร่างเธอไปซ่อนในพุ่มไม้
คอร์ริแกน ซึ่งไม่เคยรู้จักกับคอนเนอร์ กิบสัน มาก่อน ถูกตัดสินว่ามีความผิดฐานพยายามขัดขวางกระบวนการยุติธรรม (attempting to defeat the ends of justice) และละเมิดความสงบสุข (breach of the peace) หลังจากที่เขาไม่สามารถอธิบายได้ว่าเหตุใดดีเอ็นเอของเขาจึงถูกพบบนร่างกายของแอมเบอร์ถึง 39 จุด
ศาลได้ตัดสินจำคุกคอร์ริแกนเป็นเวลา 9 ปี โดยผู้พิพากษามัลฮอลแลนด์ ประณามพฤติกรรมของเขาว่า “น่ารังเกียจอย่างยิ่ง” และกล่าวว่า “คนดีๆ ทั่วไป หากไปพบร่างเปลือยของเด็กสาวที่หมดสติหรืออาจเสียชีวิตแล้ว สิ่งแรกที่ต้องทำคือโทรแจ้งเหตุฉุกเฉิน แต่คุณกลับไม่ได้ทำเช่นนั้น”
ทั้งนี้ แอมเบอร์ กิบสัน ถูกแจ้งความหายตัวไปเมื่อช่วงเย็นของวันศุกร์ที่ 26 พฤศจิกายน 2021 ก่อนที่ร่างของเธอจะถูกพบในช่วงเช้าของวันอาทิตย์ที่ 28 พฤศจิกายน ในขณะนั้น คอนเนอร์อาศัยอยู่ที่ศูนย์พักพิงคนไร้บ้านในเมืองแฮมิลตัน ส่วนแอมเบอร์อาศัยอยู่ที่บ้านพักสำหรับเด็กในเมืองเดียวกัน
ทั้งคู่เคยอยู่ในความดูแลของครอบครัวอุปถัมภ์ คือ นายเครก และนางแครอล นิเวน ตั้งแต่แอมเบอร์อายุ 3 ขวบ และคอนเนอร์อายุ 5 ขวบ โดยนายเครกเคยให้การในศาลว่า พี่น้องคู่นี้ไม่ควรถูกปล่อยให้อยู่ด้วยกันตามลำพัง เพราะ “เข้ากันไม่ได้”
พ่อและแม่บุญธรรมของแอมเบอร์และคอนเนอร์ กล่าวด้วยความเสียใจหลังศาลตัดสินว่า พวกเขารู้สึกว่าโศกนาฏกรรมนี้ “น่าจะป้องกันได้” และรู้สึกว่าเด็กทั้งสองถูกทำให้ผิดหวัง จากระบบการดูแลเด็กมาโดยตลอด ขณะนี้ ได้มีการตั้งคณะกรรมการอิสระขึ้นมาเพื่อตรวจสอบและทบทวนการดูแลที่แอมเบอร์ กิบสัน ได้รับจากหน่วยงานต่างๆ ก่อนที่เธอจะเสียชีวิต เพื่อถอดบทเรียนและป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์น่าสลดใจเช่นนี้ขึ้นอีกในอนาคต โดยผลการตรวจสอบดังกล่าวจะถูกเปิดเผยต่อสาธารณะต่อไป
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง