ข่าวต่างประเทศ

รมว.มั่นคงมะกัน เยือน “คุกยักษ์เอลซัลวาดอร์” หลังคำสั่งเนรเทศอาชญากรตัวพ่อ

คริสตี โนเอม รมว. ความมั่นคงฯ สหรัฐฯ เยือนคุกลับขนาดยักษ์ในเอลซัลวาดอร์ แหล่งคุมขังอาชญากรตัวพ่อ รองรับผู้ต้องขังมากกถึง 40,000 คน ผู้ก่อการร้ายโหด ดิบ-เถื่อน ชาวเวเนซูเอลาที่ถูกส่งตัวกลับ ท่ามกลางความพยายามรัฐบาลทรัมป์ เข้มงวดเนรเทศบุคคลที่พวกเขาเรียกว่า “ตัวร้ายที่สุด” ภารกิจ 3 วัน เตรียมลุยต่อ

เมื่อวันพุธที่ผ่านมา ตามเวลาท้องถิ่น นางคริสตี โนเอม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงความมั่นคงของสหรัฐ ได้ไปเยี่ยมชมเรือนจำความมั่นคงสูงในเอลซัลวาดอร์ ซึ่งเป็นสถานที่คุมขังชาวเวเนซุเอลา ที่รัฐบาลทรัมป์กล่าวหาว่าเป็นสมาชิกแก๊งค์ หลังจากถูกส่งตัวกลับจากเมืองลุงแซม

การตรวจเยี่ยมครั้งนี้รวมถึงการเข้าไปดูแดนขังนักโทษที่แออัด 2 แห่ง คลังอาวุธ และแดนขังเดี่ยว สำหรับเรือนจำเซคอต (Cecot) ศูนย์กักขังผู้ก่อการร้ายแห่งนี้ ขึ้นชื่อเรื่องการขังนักโทษอย่างแออัด-ยัดเยียด และไม่อนุญาตให้ออกมาเห็นเดือนเห็นตะวัน เกิดขึ้นท่ามกลางความพยายามของรัฐบาลทรัมป์ที่จะแสดงให้เห็นถึงความเข้มงวดในการเนรเทศบุคคลที่พวกเขา เรียกว่าเป็น “ตัวร้ายที่สุด”

ปัจจุบัน รัฐบาลทรัมป์กำลังต่อสู้คดีในศาลรัฐบาลกลางสหรัฐฯ เพื่อยืนยันว่า การส่งตัวชาวเวเนซุเอลาเหล่านี้ไปยังเอลซัลวาดอร์เป็นสิ่งที่สมเหตุสมผลแล้ว

ขณะที่นักเคลื่อนไหวด้านสิทธิมนุษยชนโต้แย้งว่า ทางการสหรัฐฯ ส่งคนเหล่านี้ไปยังเรือนจำที่ขึ้นชื่อเรื่องการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรง

อย่างไรก็ดีในเรือนจำ “โนเอม” ได้ตรวจดูบริเวณที่คุมขังชาวเวเนซุเอลาบางส่วนที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นสมาชิกแก๊งค์ ท่ามกลางบรรยากาศร้อนอบอ้าว ชายในชุดเสื้อยืดและกางเกงขาสั้นสีขาวหลายคนจ้องมองออกมาจากห้องขังอย่างเงียบงัน เมื่อโนเอมเดินออกมาจากอาคารก็ได้ยินเสียงตะโกนโห่ร้องบางอย่างจากนักโทษ แต่ฟังไม่รู้เรื่อง

นักโทษนั่งอยู่ในห้องขัง ขณะที่รมต.มั่นคงสหรัฐ เยี่ยมชมศูนย์กักขังผู้ก่อการร้ายในเมืองเทโคลูคา เอลซัลวาดอร์ 26 มีนาคม 2025 (AP Photo/Alex Brandon)
แฟ้มภาพ @AP Photo/Alex Brandon
แฟ้มภาพ @AP Photo/Alex Brandon
แฟ้มภาพ @AP Photo/Alex Brandon

ในแดนขังนักโทษชาวเอลซัลวาดอร์ ผู้คุมได้สั่งให้นักโทษราวสิบกว่าคนมายืนเข้าแถวหน้าห้องขัง พร้อมสั่งให้ถอดเสื้อยืดและหน้ากากอนามัยออก เผยให้เห็นรอยสักเต็มตัว ซึ่งบางคนมีตัวอักษร “MS” อันเป็นสัญลักษณ์ของแก๊งค์ “มารา ซัลวาทรูชา” (Mara Salvatrucha) ปรากฏอยู่บนหน้าอก

หลังจากรับฟังการบรรยายสรุปจากเจ้าหน้าที่เอลซัลวาดอร์ โนเอมได้หันหลังให้กับห้องขังและบันทึกข้อความวิดีโอ โดยกล่าวว่า “หากผู้อพยพก่ออาชญากรรม นี่คือหนึ่งในผลลัพธ์ที่คุณอาจต้องเผชิญ” เธอกล่าวเสริม “อย่างแรกเลย อย่าเข้ามาในประเทศของเราอย่างผิดกฎหมาย คุณจะถูกส่งตัวกลับและถูกดำเนินคดี แต่จงรู้ไว้ว่าสถานที่แห่งนี้คือหนึ่งในเครื่องมือที่เรามี และเราจะใช้มันหากคุณก่ออาชญากรรมต่อชาวอเมริกัน”

แฟ้มภาพ @AP

กระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิสหรัฐฯ โพสต์ข้อความบนแพลตฟอร์มเอ็กซ์ (X) เมื่อวันพุธ ยืนยันว่าจะทำงานร่วมกับเอลซัลวาดอร์ต่อไป และระบุว่า โนเอมมีกำหนดเข้าพบประธานาธิบดีนาญิบ บูเกเล เพื่อหารือแนวทางที่สหรัฐฯ จะสามารถ “เพิ่มจำนวนเที่ยวบินเนรเทศและการส่งตัวอาชญากรที่ใช้ความรุนแรงออกจากสหรัฐฯ”

ตั้งแต่เข้ารับตำแหน่ง โนเอมมักมีบทบาทโดดเด่นในการผลักดันนโยบายปราบปรามการเข้าเมืองอย่างเข้มงวด เธอเคยเข้าร่วมปฏิบัติการบังคับใช้กฎหมายคนเข้าเมือง ขี่ม้าร่วมกับเจ้าหน้าที่ตระเวนชายแดน และเป็นพรีเซ็นเตอร์ในแคมเปญทางโทรทัศน์เพื่อเตือนให้ผู้ที่อยู่ในสหรัฐฯ อย่างผิดกฎหมายเนรเทศตนเองออกไป

การเยือนเอลซัลวาดอร์ครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของกำหนดการเดินทาง 3 วัน ซึ่งเธอจะเดินทางต่อไปยังโคลอมเบียและเม็กซิโกด้วย

ปมปัญหาการเนรเทศและการใช้กฎหมายเก่าแก่

ชาวเวเนซุเอลาเหล่านี้ถูกส่งตัวออกจากสหรัฐฯ ในเดือนมีนาคม หลังจากอดีตประธานาธิบดีทรัมป์ประกาศใช้ “กฎหมายว่าด้วยศัตรูต่างชาติ ปี 1798” (Alien Enemies Act of 1798) โดยอ้างว่าสหรัฐฯ กำลังถูก “รุกราน” โดยแก๊งค์ “เตรน เด อารากัว” (Tren de Aragua) กฎหมายฉบับนี้ให้อำนาจประธานาธิบดีในยามสงคราม สามารถเนรเทศผู้ที่ไม่ใช่พลเมืองได้โดยไม่ต้องผ่านกระบวนการพิจารณาของศาลตรวจคนเข้าเมืองหรือศาลรัฐบาลกลาง

แฟ้มภาพ @AP

อย่างไรก็ตาม เมื่อวันพุธที่ผ่านมา ศาลอุทธรณ์สหรัฐฯ ได้มีคำสั่งยืนตามคำสั่งศาลชั้นต้นที่ห้ามไม่ให้รัฐบาลเนรเทศผู้อพยพชาวเวเนซุเอลาไปยังเอลซัลวาดอร์เพิ่มเติมภายใต้กฎหมายฉบับนี้ ถือเป็นอุปสรรคสำคัญของฝ่ายบริหาร

คำถามสำคัญที่ยังไม่มีคำตอบคือ ผู้ถูกเนรเทศเหล่านี้จะได้รับการปล่อยตัวจากเรือนจำ “ศูนย์กักกันการก่อการร้าย” (Terrorism Confinement Center – CECOT) แห่งนี้เมื่อใดและอย่างไร เนื่องจากพวกเขาไม่ได้ถูกตัดสินจำคุกในเอลซัลวาดอร์ ปัจจุบัน ชื่อของพวกเขาไม่ปรากฏในระบบค้นหาผู้ถูกคุมขังออนไลน์ของสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากรสหรัฐฯ (ICE) และยังไม่ได้ขึ้นศาลในเอลซัลวาดอร์แต่อย่างใด

แม้รัฐบาลทรัมป์จะเรียกพวกเขาว่าเป็น “พวกเลวร้ายที่สุด” แต่ก็ยังไม่มีการเปิดเผยรายชื่อผู้ถูกเนรเทศ หรือแสดงหลักฐานยืนยันการเป็นสมาชิกแก๊งค์

A prisoner with tattoos stands as Homeland Security Secretary Kristi Noem tours the Terrorist Confinement Center in Tecoluca, El Salvador, Wednesday, March 26, 2025. (AP Photo/Alex Brandon)

ญาติของผู้ถูกเนรเทศบางรายปฏิเสธอย่างแข็งขันว่าพวกเขาไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับแก๊งค์ใดๆ ทั้งสิ้น ขณะที่รัฐบาลเวเนซุเอลาและกลุ่ม “คณะกรรมการครอบครัวผู้อพยพในเวเนซุเอลา” ได้ว่าจ้างทนายความเพื่อดำเนินการช่วยเหลือผู้ที่ถูกคุมขังในเอลซัลวาดอร์ โดยทนายความซึ่งเป็นตัวแทนชาวเวเนซุเอลาประมาณ 30 คน ยืนยันว่าลูกความของพวกเขาไม่ใช่สมาชิกแก๊งค์และไม่มีประวัติอาชญากรรม ซึ่งรัฐบาลสหรัฐฯ เองก็ยอมรับว่าผู้ถูกเนรเทศจำนวนมากไม่มีประวัติอาชญากรรมจริง

ประเด็นเรื่องคำสั่งศาลยังเป็นที่ถกเถียง โดยเมื่อวันที่ 15 มีนาคม ขณะที่เครื่องบินเนรเทศกำลังอยู่กลางอากาศ ผู้พิพากษาศาลรัฐบาลกลางได้มีคำสั่งด้วยวาจาให้ระงับการเนรเทศชั่วคราวและสั่งให้เครื่องบินกลับสหรัฐฯ แต่รัฐบาลทรัมป์โต้แย้งว่าคำสั่งด้วยวาจาไม่มีผล ต้องยึดถือคำสั่งที่เป็นลายลักษณ์อักษรเท่านั้น และคำสั่งดังกล่าวไม่สามารถใช้กับเที่ยวบินที่ออกเดินทางไปแล้วได้ นางคาโรไลน์ เลวิตต์ โฆษกทำเนียบขาวเปิดเผยว่า มีผู้ถูกเนรเทศไปกับเที่ยวบินเหล่านั้นราว 261 คน โดย 137 คนถูกส่งตัวภายใต้กฎหมายว่าด้วยศัตรูต่างชาติ

The exterior of the Terrorist Confinement Center as Homeland Security Secretary Kristi Noem arrives, in Tecoluca, El Salvador, Wednesday, March 26, 2025. (AP Photo/Alex Brandon)

เรือนจำ “CECOT” สัญลักษณ์การปราบปรามอาชญากรรมของเอลซัลวาดอร์

ประธานาธิบดี บูเกเล เปิดเรือนจำ “CECOT” ในปี 2023 เพื่อเป็นสัญลักษณ์ของการทำสงครามกับอาชญากรรมในประเทศ เรือนจำแห่งนี้มีอาคารขนาดใหญ่ 8 หลัง รองรับนักโทษได้ถึง 40,000 คน โดยแต่ละห้องขังสามารถจุคนได้ 65-70 คน นักโทษที่นี่ไม่ได้รับอนุญาตให้มีผู้เข้าเยี่ยม และไม่มีกิจกรรมฝึกอาชีพหรือการศึกษาใดๆ ทั้งสิ้น

สถานการณ์ยิ่งซับซ้อนขึ้นเมื่อเอลซัลวาดอร์ตัดความสัมพันธ์ทางการทูตกับเวเนซุเอลาไปตั้งแต่ปี 2019 ทำให้ชาวเวเนซุเอลาที่ถูกคุมขังที่นี่ไม่ได้รับความช่วยเหลือด้านกงสุลจากรัฐบาลของตนเอง

วิดีโอที่รัฐบาลเอลซัลวาดอร์เผยแพร่หลังการเนรเทศ แสดงภาพชายที่ถูกพันธนาการทั้งข้อมือและข้อเท้า เดินลงจากเครื่องบินอย่างยากลำบากท่ามกลางเจ้าหน้าที่ชุดปราบจลาจล ก่อนจะถูกนำตัวไปโกนศีรษะ เปลี่ยนเป็นชุดนักโทษสีขาวล้วน และส่งเข้าห้องขัง

เป็นเวลากว่า 3 ปีแล้วที่เอลซัลวาดอร์อยู่ภายใต้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน ซึ่งระงับสิทธิขั้นพื้นฐานหลายประการ เพื่อเปิดทางให้รัฐบาลบูเกเลกวาดล้างแก๊งค์ข้างถนนอย่างเต็มที่ ส่งผลให้มีผู้ถูกจับกุมในข้อหาเกี่ยวข้องกับแก๊งค์แล้วกว่า 84,000 คน ซึ่งส่วนใหญ่มักไม่ได้รับกระบวนการทางกฎหมายที่เหมาะสม

มีรายงานว่า ประธานาธิบดีบูเกเลเคยเสนอที่จะรับผู้ถูกเนรเทศจากสหรัฐฯ มาคุมขังในเรือนจำแห่งนี้ เมื่อครั้งที่นายมาร์โก รูบิโอ ซึ่งในข่าวต้นฉบับระบุว่าเป็นรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ (แต่ปัจจุบันดำรงตำแหน่งวุฒิสมาชิก) เดินทางเยือนเอลซัลวาดอร์เมื่อเดือนกุมภาพันธ์

ในระหว่างการเยี่ยมชมเรือนจำเมื่อวันพุธ นายกุสตาโว บียาโตโร รัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรมของเอลซัลวาดอร์ ได้พาโนเอมชมห้องขังนักโทษชาวเอลซัลวาดอร์กลุ่มหนึ่งที่ถูกขังมาตั้งแต่เรือนจำเปิดทำการ พร้อมกล่าวว่า “ไม่มีใครคาดหวังว่าคนเหล่านี้จะกลับคืนสู่สังคมและประพฤติตัวดีได้”

แฟ้มภาพ @AP
แฟ้มภาพ @AP
แฟ้มภาพ @AP

Pachara

นักเขียนประจำที่ Thaiger จบการศึกษาด้านศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา เคยผ่านประสบการณ์ผู้สื่อข่าวกีฬา เริ่มเขียนบทความกับ Thaiger ตั้งแต่ปี 2021 วิ่งกับการอ่านหนังสือ คือ กิจกรรมที่สนใจเป็นพิเศษ ช่องทางติดต่อ pachara@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to top button