ข่าวอาชญากรรม

คดีโหด 2 ผัวเมียหั่นศพเผาเจ้าหนี้ หาย 18 วันเข้าฝันพ่อ ช็อกปมคนตายลึกซึ้งฆาตกร

คดีคนหาย 18 วันที่ ดอนตูม จ.นครปฐม วิญญาณสุดเฮี้ยน เข้าฝันคุณพ่อร่างถูกฟังไว้ที่บ้านฆาตกร สุดท้ายเจอศพจริงๆ ส่วนบนฝังดินแล้วเผาอำพราง อีกส่วนใส่กระเป๋าโยนทิ้งคลองชลประทาน

จากกรณีบ่ายวานนี้ (22 มี.ค.) ตำรวจสภ.ดอนตูม นครปฐม ได้รับการประสานจากชุดสืบสวนของสภ.นครชัยศรีซึ่งได้พบชิ้นส่วนศพผู้หญิงที่ก่อนหน้านี้ญาติแจ้งคนหายถูกฆาตกรรมอยู่ที่ ม.5 ต.ดอนรวก อ.ดอนตูม จึงรีบประสานกองพิสูจน์หลักฐานไปที่บ้านหลังที่เกิดเหตุ ไปถึงพบร่องรอยเพลิงบริเวณกองดินที่ไฟมอดลงแล้ว ส่วนในบ้านเจอกล่องกระสุนปืนและมอเตอร์ไซค์สีเทายี่ห้อฮอนด้าเวฟของ น.ส.ปิยะวรรณ พงษ์เภา หรือแอน ผู้ตายอายุ 22 ปี ชาวต.บางระกำ อ.นครชัยศรี ส่วนบ้านเป็นของ 2 ผัวเมีย คือ นายเลย์ หรือ ณรงค์ชัย สุวรรณแก้ว อายุ 26 ปี และ “มิ้ลค์” ภัทราภรณ์ ลำจวน อายุ 21 ปี

ขณะที่หลังบ้านเจอหลุมฝังกลบใหม่ๆ เจ้าหน้าที่ช่วยกันขุดดินเจอชิ้นส่วนมุษย์ อาทิ

  • กระดูกเชิงกราน
  • กระดูกคล้ายกระดูกหน้าผาก
  • เส้นผมและหนังศีรษะเป็นกระจุก
  • กระโปรง-กระเป๋า ถูกเผาอำพรางฝังดิน

ต่อมามีการประสานชุดปฏิบัติการใต้น้ำ (ส่วนกลาง) มูลนิธิสุขศาลานุเคราะห์ จ.นครปฐม จัดกำลังสนับสนุนเจ้าที่ตำรวจ (คดีอำพราง) บริเวณคลองชลหลังวัดพะเนียงแตก ปูพรมค้นหาชิ้นส่วนอวัยวะส่วนล่างของผู้ตายแต่ยังไม่พบ เจอเพียงของกลางอีก 1 ชิ้น เป็น “จอบขุดดิน”

โดยคดีนี้สืบเนื่องจากก่อนหน้านี้ 16 มี.ค.ที่ผ่านมา ญาติคนตายไปแจ้งความทที่สภ.นครชัยศรี โดยนายวีระ สามีผู้ตายไปแจ้งบนโรงพักว่าภรรยาหายตัวออกจากบ้านไปประมาณ 4 โมงเย็นของวันดังกล่าว ได้คุยกับเมียบอกจะไปทวงเงินจากมิ้ลค์ ภัทราภรณ์จากนั้นติดต่อไม่ได้ “หายตัวไป”

มูลนิธิสุขศาลานุเคราะห์นครปฐมจัดกำลังสนับสนุนเจ้าที่ตำรวจ (คดีอำพราง) บริเวณคลองชลหลังวัดพะเนียงแตก
แฟ้มภาพ @มูลนิธิสุขศาลานุเคราะห์นครปฐม สำนักงานใหญ่

ด้านพ่อผู้ตายที่อยู่ในอาการเครียด-เศร้า หดหู่จับจิตจับใจแจ้งกับนักข่าวด้วยอารมณ์จุกอกว่า ลูกสาวมาเข้าฝันตอนรุ่งสางวันที่ 22 มี.ค.68 ช่วงเช้ามืด บอกหนูตายแล้ว เจ้าณงรค์ชัย หรือ “เลย์” ฆ่าแล้วฝังไว้หลังบ้าน

หัวอกคนเป็นพ่อเล่าทั้งสะเทือนใจต่อว่าพ่อสะดุ้งตื่นจากฝัน รู้สึกตกใจ-ใจหายมาก มาคิดทบทวนเรื่องในอดีตอาจจะเป็นดวงวิญญาณลูกอยากมาบอกอะไรบางอย่างจริงๆ กระทั่งบ่ายๆ ตำรวจแจ้งมาว่า พบศพลูกสาวซึ่งอยู่หลังบ้านนายเลย์ 1 ใน 2 ผู้ก่อเหตุที่ตอนนี้ถูกติดตามจับกุมตัวได้แล้ว

ทั้งนี้หลักฐานของเจ้าหน้าที่ชุดสืบฯ เปิดเผยภาพกล้องวงจรปิดของวันที่ 4 มี.ค.ซึ่งเป็นวันที่ผู้ตายหายออกจากบ้านบอกว่าจะไปหา น.ส.ภัทราภรณ์ โดยตอนเวลา 21.58 น. บริเวณชุมชนหน้าโรงพยาบาลสนามจันทน์ จะเห็นตัวของภัทราพรขับรถจักรยานยนต์โดยมี ผู้ตายซ้อนท้ายไปกับคนร้ายเพื่อเบิกเงินเป็นค่าดำเนินการฝากเข้างานเป็นผู้ช่วยพยาบาล ก่อนที่ครอบครัวจะไม่ได้เห็นหน้า

ชุดประดาน้ำจัดกำลังสนับสนุนเจ้าที่ตำรวจ (คดีอำพราง) บริเวณคลองชลหลังวัดพะเนียงแตก
แฟ้มภาพ @มูลนิธิสุขศาลานุเคราะห์นครปฐม สำนักงานใหญ่

ก่อนเกิดเหตุ น.ส.ปิยะวรรณได้มาทวงหนี้ที่บ้านของน.ส.ภัทราภรณ์ หลังจากพบว่าถูกอีกฝ่ายหลอกให้โอนเงินเป็นค่าฝากเข้าทำงานที่โรงพยาบาลนครปฐมหลายครั้ง แต่สุดท้ายไม่สามารถฝากเข้างานได้ตามที่รับปากกัน กระทั่งมีข่าวปิยะวรรณได้หายตัวไปก่อนจะมาพบเป็นศพ

ในส่วนของกรณี 2 ผัวเมียผู้ต้องหาลวงฆ่าเหยื่อสาวอ้างพาฝากงานแล้วหลอกครอบครัวโอนเงินหลายหมื่นฯ ก่อนอุ้มไปฆ่าหั่นศพเผาอำพรางนั้น ถือเป็นคดีฆาตกรรมสุดโหดที่ประชาชนให้ความสนใจและพูดถึงโดยเฉพาะผู้ต้องหาฝ่ายหญิงซึ่งมีพฤติกรรมเกี่ยวกับความไม่โปร่งใสในเรื่องการใช้เงิน และลักทรัพย์ รวมถึงการหลอกลวงเงินจากชาวบ้านและญาติของตัวเอง

ด้านเพจ “เจ๊ม้อย v+” มีการเปิดเผยถึงพฤติกรรมของเลย์กับมิ้ล 2 สามีภรรยาได้นำมือถือของเจ้าหนี้ไปขายที่ร้านโทรศัพท์แห่งหนึ่ง โดย “มิ้ล” แต่งตัวคล้ายกับพยาบาล ยังมีการแชทหลอกแฟนคนที่ดับให้โอนเงินให้ด้วย #หั่นเผาฝัง #นครปฐม (ดูรูปคลิก)

หลักฐาน 2 ผัวเมีย เลย์ มิ้ลค์
แฟ้มภาพ

อัปเดตหลัง 2 ผัวเมียโหดได้ “ปล่อยตัวชั่วคราว” ล่าสุดจับแล้ว! สารภาพปมหดหู่ ที่แท้ผู้ตายเคยมีปมสัมพันธ์ชายฆาตกร

ต่อมาทราบจากรายงานของช่อง 7 ระบุว่า คดีนี้ได้มีการเรียกชายที่ปรากฏในภาพพร้อมภรรยาเข้าให้ปากคำ หลังจากที่สามีและญาติได้เข้าแจ้งความไว้ที่ สภ.นครชัยศรี เพื่อให้ตามหาตัว แต่เนื่องจากตอนนั้นยังไม่มีหลักฐานในการจับกุมจึงจำเป็นต้องปล่อยตัวชั่วคราว

ถัดมาไม่กี่วันทั้งคู่ไปโผล่ปรากฏตัวที่ จ.เชียงใหม่ เจ้าหน้าที่สืบทราบคาดว่ากำลังเตรียมจะหลบหนีจึงประสาน “ตำรวจภูธรภาค 5” เข้าควบคุมตัวและเค้นสอบจนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า “ได้ร่วมกันฆ่านางสาวแอน (ปิยะวรรณ) ตั้งแต่วันที่ 5 มีนาคม” หลังจากที่หลอกเงินมาได้จำนวนหลายหมื่นบาท โดยศพถูกไปหั่นและเผาก่อนฝังอำพรางคดีบริเวณหลังบ้านพื้นที่ สภ.นครชัยศรี ตอนนี้อยู่ระหว่างคุมตัวกลับมาท้องที่เกิดเหตุเพื่อสอบปากคำหาสาเหตุ

เบื้องต้นทราบว่าฝ่ายชายเคยคบหาอยู่กับผู้เสียชีวิตก่อนที่จะเลิกรากันไปด้วย.

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Pachara

นักเขียนประจำที่ Thaiger จบการศึกษาด้านศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา เคยผ่านประสบการณ์ผู้สื่อข่าวกีฬา เริ่มเขียนบทความกับ Thaiger ตั้งแต่ปี 2021 วิ่งกับการอ่านหนังสือ คือ กิจกรรมที่สนใจเป็นพิเศษ ช่องทางติดต่อ pachara@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to top button