หลุดคลิปใหม่ คิมซูฮยอน ในบ้านคิมแซรน ลูบหลัง ผู้ชายถ่ายเองกับมือ

หลุดคลิปใหม่ คิมซูฮยอน ในบ้าน คิมแซรน ลูบหลัง ถ่ายเองกับมือ ครอบครัวงัดหลักฐานโต้ค่าย Gold Medalist อ้างพระเอกดัง ไม่เคยไปบ้าน
ดราม่าพระเอกเบอร์ 1 เกาหลีต้องตามอีกยาว ครอบครัวของนักแสดงสาว “คิมแซรน” ประกาศชัดเมื่อ 18 มีนาคม ว่าจะเอารูปถ่ายที่เคยถ่ายคู่กับ “คิมซูฮยอน” ไปตรวจพิสูจน์ทางนิติวิทยาศาสตร์ เพราะไม่พอใจที่ต้นสังกัดของ “คิมซูฮยอน” อย่าง Gold Medalist ออกมาตอบโต้ ไม่ยอมรับความจริง
ตัวแทนครอบครัว “คิมแซรน” ให้สัมภาษณ์กับ Hankyung.com ว่า “เราตัดสินใจแล้วว่าจะเอารูปที่น่าจะยืนยันได้ว่า ‘คิมแซรน’ กับ ‘คิมซูฮยอน’ คบกันตั้งแต่เธอยังไม่บรรลุนิติภาวะไปตรวจพิสูจน์”
เท่านั้นยังไม่พอ ช่อง YouTube ชื่อ Garosero Research Institute (HoverLab) ได้ปล่อยคลิปลับล่าสุด เป็นดีโอของทั้งคู่สมัยยังรักกัน โดยคนถ่ายคือคิมซูฮยอน ถ่ายคลิปเองกำลังลูบหลัง คิมแซรน เพื่อเป็นหลักฐานว่าฝ่ายชายมาบ้านผู้หญิงจริง ไม่เป็นตามที่ค่ายปฏิเสธ
ครอบครัวของ #คิมแซรน อนุญาตให้ปล่อยคลิปที่ #คิมซูฮยอน อยู่บ้านแซรนได้ เพราะซูฮยอนบอกว่าไม่เคยไปบ้านแซรน pic.twitter.com/dalS4vuX30
— ไดโนเสาร์เกาหลี (@stitch_pololo) March 18, 2025
ควอนยองชาน หัวหน้าสมาคมป้องกันการฆ่าตัวตายของคนดังเกาหลี บอกว่า “คิมแซรนพยายามปกป้อง ‘คิมซูฮยอน’ จนวินาทีสุดท้าย เธอยังกังวลเรื่องตรวจภาพเลย ถามว่า ‘ถ้าเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นมาทีหลัง ฉันควรทำไงดี?'”
ครอบครัวยังแฉอีกว่า “คิมซูฮยอน” เคยชวนฝ่ายหญิงเปลี่ยนจากคุยกันใน KakaoTalk ไปใช้ Telegram แทน ซึ่งตรวจจับได้ยากกว่า
ยิ่งไปกว่านั้น ครอบครัวยังวิพากษ์วิจารณ์การตอบสนองของ Gold Medalist หลังจากที่ต้นสังกัดได้แชร์ภาพพวงหรีดที่ส่งไปยังพิธีรำลึกถึง “คิมแซรน” “ต้นสังกัดอ้างว่า ‘คิมซูฮยอน’ เป็นคนส่งพวงหรีด แต่จริงๆ แล้วเป็นเจ้าหน้าที่ที่ไปร่วมงาน เนื่องจากพวกเขาคบกันมานาน ‘คิมซูฮยอน’ ควรจะมาด้วยตัวเอง”
ส่วนใครตามข่าวไม่ทัน สรุปให้อีกครั้งว่า เมื่อวันที่ 10 มีนาคม เมื่อ Garosero Research Institute เปิดเผยการสนทนาทางโทรศัพท์กับครอบครัวของ “คิมแซรน” โดยอ้างว่า “คิมซูฮยอน” มีความสัมพันธ์กับ “คิมแซรน” มาหกปีตั้งแต่ปี 2015 ซึ่งในขณะนั้นเธออายุเพียง 15 ปี ช่องดังกล่าวยังได้ปล่อยภาพถ่ายและข้อความที่ถูกกล่าวหาว่าแลกเปลี่ยนกันระหว่างทั้งสองคน
Gold Medalist ต้นสังกัดของ “คิมซูฮยอน” ถึงตอนนี้ก็ยังปฏิเสธข้อกล่าวหา โดยระบุว่า “ไม่เป็นความจริงที่ ‘คิมซูฮยอน’ มีความสัมพันธ์กับ ‘คิมแซรน’ ในขณะที่เธอยังเป็นผู้เยาว์ พวกเขาคบกันตั้งแต่ช่วงฤดูร้อนปี 2019 ถึงฤดูใบไม้ร่วงปี 2020 หลังจากที่เธอเป็นผู้ใหญ่แล้วเท่านั้น”
ข้อพิพาทระหว่างทั้งสองฝ่ายยังคงดำเนินต่อไป ครอบครัวของ “คิมแซรน” อ้างว่า “คิมซูฮยอน” ได้ส่งหนังสือแจ้งเตือนสองฉบับเพื่อทวงหนี้ ซึ่งเป็นลักษณะการข่มขู่
Gold Medalist ก็ได้ออกมาตอบโต้ ระบุว่า “‘คิมซูฮยอน’ ไม่เคยยื่นฟ้องเรียกค่าเสียหายต่อ ‘คิมแซรน’ หนังสือแจ้งเตือนฉบับที่สองเป็นเพียงขั้นตอนทางกฎหมายเพื่อให้คำแนะนำเกี่ยวกับเงื่อนไขและกำหนดการชำระหนี้ ไม่ได้ตั้งใจจะฟ้องจริง
แถลงการณ์ฉบับที่ 2 แบบเต็มๆ Gold Medalist เขียนไว้ดังนี้
“สวัสดี นี่คือโกลด์เมดัลลิสต์ เราต้องการชี้แจงจุดยืนของเราเกี่ยวกับคำกล่าวอ้างของครอบครัวผู้ล่วงลับของคิมแซรน ในงานแถลงข่าวที่จัดขึ้นร่วมกับ Garosero Research Institute เมื่อวันที่ 17 มีนาคม
นี่คือจุดยืนของเราเกี่ยวกับจดหมายรับรองฉบับที่สองที่ส่งไป
ครอบครัวผู้ล่วงลับอ้างว่าจดหมายรับรองฉบับที่ 2 ที่ส่งไปเมื่อวันที่ 25 มีนาคม พ.ศ. 2567 ระบุว่า ‘หากเธอโพสต์ภาพถ่ายที่คล้ายกับภาพที่โพสต์เมื่อวันที่ 24 มีนาคม หรือติดต่อกับนักแสดงคนใดคนหนึ่งของสังกัด เธอจะต้องชดใช้ค่าเสียหายที่เกิดขึ้นกับละครเรื่อง ‘Queen of Tears’ ‘ จดหมายรับรองต้นฉบับแนบมากับแถลงการณ์นี้
ดังที่เห็นจากจดหมายรับรอง เราไม่เคยเรียกร้องค่าชดเชยจากคิมแซรน สำหรับความเสียหายใดๆ ที่เกิดขึ้นกับละคร นอกจากนี้ ยังไม่สามารถเรียกร้องค่าชดเชยสำหรับการโพสต์ภาพถ่ายออนไลน์หรือติดต่อกับนักแสดงคนอื่นๆ ในสังกัดได้
เราส่งจดหมายรับรองฉบับที่ 2 เพื่อแจ้งข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับจดหมายรับรองฉบับแรก ดังที่กล่าวไว้ก่อนหน้านี้ เราส่งจดหมายเพื่อแจ้งให้เธอทราบว่าหนี้ที่เธอเป็นหนี้ยังไม่ได้รับการชำระ และเพื่อขจัดความเป็นไปได้ที่ผู้บริหารของเราจะละเลยหน้าที่ นี่คือเนื้อหาจากจดหมายรับรองฉบับแรกที่ส่งไปเมื่อวันที่ 15 มีนาคม พ.ศ. 2567″
พวกเขายังระบุด้วยว่าไม่มีเจตนาที่จะกดดันให้คิมแซรนชำระหนี้
“อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 24 มีนาคม คิมแซรนส่งข้อความถึงคิมซูฮยอนเกี่ยวกับเรื่องนี้ และโพสต์ภาพถ่ายของพวกเขาบนบัญชีโซเชียลมีเดียของเธอ จดหมายรับรองฉบับที่สองมีวัตถุประสงค์เพื่ออธิบายว่าทำไมเราจึงเร่งเร้าให้เธอชำระหนี้ และเปิดเผยเจตนาของเราที่จะเจรจากับเธอเกี่ยวกับการชำระหนี้ของเธอ ดังที่เห็นในจดหมายรับรองฉบับที่สอง เราได้ระบุว่า ‘หากบริษัทไม่ขอให้ชำระหนี้เงินกู้ของเรา บริษัทลูกค้าของเราอาจถูกตั้งข้อหาละเมิดความไว้วางใจ’ และเจตนาของเราคือ ‘หารือเกี่ยวกับวิธีการชำระหนี้อย่างกระตือรือร้น’
ครอบครัวผู้ล่วงลับอ้างว่าจดหมายฉบับที่สองเป็นเพียงวิธีซื้อเวลาเพิ่มเติมเพื่อให้เธอสามารถชำระหนี้ได้ อย่างไรก็ตาม ดังที่กล่าวไว้ข้างต้น จดหมายฉบับที่สองมีวัตถุประสงค์เพื่อหารือกับเธอเกี่ยวกับกำหนดเวลาการชำระหนี้เท่านั้น ไม่มีข้อเรียกร้องใดๆ ที่จะเร่งเร้าให้เธอชำระหนี้ เหตุผลที่ระบุว่า ‘แจ้งตัวแทนทางกฎหมายของคุณเกี่ยวกับกำหนดการชำระหนี้ที่เป็นไปได้’ เพื่อพิสูจน์ว่ามีการร้องขอการชำระหนี้แต่ไม่ได้รับการชำระ เนื่องจากไม่สามารถระบุได้ว่าไม่ต้องชำระหนี้ หากเราระบุว่าเธอไม่ต้องชำระหนี้ เราจะยกเว้นเธอจากหนี้ ซึ่งอาจก่อให้เกิดปัญหาด้านภาษี
เมื่อวันที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2567 ตัวแทนทางกฎหมายของเราได้ติดต่อกับต้นสังกัดของคิมแซรน และอธิบายวัตถุประสงค์ของจดหมาย จากนั้นคิมแซรนได้แสดงจุดยืนของเธอเกี่ยวกับจดหมายฉบับที่สอง
‘ฉันขอแสดงความขอบคุณสำหรับความจริงใจที่คุณแสดงให้ฉันเห็น แน่นอนว่าฉันจะรับผิดชอบต่อความเสียหายที่เกิดขึ้น และต้องการหารือเกี่ยวกับแผนการชำระเงินในอนาคต เพื่อแสดงความมุ่งมั่นของฉันที่จะรับผิดชอบต่อความเสียหายที่ฉันต้องแบกรับ’
ดังที่กล่าวไว้ก่อนหน้านี้ ความสัมพันธ์ระหว่างเจ้าหนี้และลูกหนี้กับสังกัดและคิมแซรนได้รับการสะสางแล้ว เราขอแจ้งอีกครั้งว่าเราได้บันทึกยอดหนี้ทั้งหมดที่ค้างชำระเป็นหนี้สูญ (หลังจากได้รับรายงานการตรวจสอบบัญชีเมื่อวันที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2567) โดยไม่มีการเร่งเร้าหรือเจรจาเกี่ยวกับการชำระเงิน
ด้วยเหตุนี้ คุณจะเห็นได้ว่าเราไม่มีเจตนาที่จะกดดันให้เธอชำระหนี้ตั้งแต่แรก และผู้เสียชีวิตและครอบครัวผู้ล่วงลับไม่เคยพยายามชำระหนี้ตั้งแต่นั้นมา
สุดท้าย พวกเขาเน้นย้ำว่าพวกเขาไม่เคยเรียกร้องให้เธอชดใช้ค่าเสียหายสำหรับการติดต่อกับบุคคลใดๆ ในสังกัด
“นอกจากนี้ ความสัมพันธ์ระหว่างเจ้าหนี้และลูกหนี้ของสังกัดกับคิมแซรนอยู่ภายใต้อำนาจศาลของเรา คิมซูฮยอนไม่มีอำนาจที่จะแจ้งจุดยืนของเขาในเรื่องนี้ ด้วยเหตุนี้ เราจึงต้องห้ามไม่ให้เธอติดต่อกับคิมซูฮยอนเกี่ยวกับหนี้ในจดหมายรับรอง”
เราได้อธิบายให้คิมแซรนทราบว่าการชำระหนี้ไม่ใช่ความรับผิดชอบของพนักงานหรือนักแสดงของสังกัด แต่เป็นของบริษัทลูกค้า ดังนั้นจึงขอให้เธออย่าติดต่อกับนักแสดงคนใดๆ ในสังกัดเกี่ยวกับเรื่องนี้
ไม่มีเนื้อหาใดที่ระบุว่าเธอต้องชดใช้ค่าเสียหายหากเธอติดต่อกับนักแสดงจากสังกัด อย่างไรก็ตาม Garosero บิดเบือนความหมายในรายงาน โดยระบุว่าเราขู่เธอหากเธอติดต่อไม่เพียงแต่คิมซูฮยอน แต่ยังรวมถึงใครก็ตามจากสังกัด อย่างไรก็ตาม เราไม่ได้เรียกร้องเช่นนั้น และเธอก็ติดต่อกับนักแสดงได้อย่างอิสระในภายหลัง
เมื่อคิมแซรนโพสต์ภาพถ่ายบนโซเชียลมีเดียเมื่อวันที่ 24 มีนาคม เป็นช่วงที่ ‘Queen of Tears’ กำลังออกอากาศ บทความอย่างน้อย 50 บทความหลั่งไหลออกมาตั้งแต่เวลา 2:14 น. ถึง 11:00 น. เมื่อบริษัทของเราเปิดเผยจุดยืนอย่างเป็นทางการ เราได้แจ้งให้คิมแซรนทราบว่าการกระทำที่หุนหันพลันแล่นอาจส่งผลกระทบต่อทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง รวมถึงบริษัทผู้ผลิตละคร นักแสดง สถานีโทรทัศน์ และอื่นๆ เราไม่เคยกดดันให้เธอชดใช้ค่าเสียหาย”
ในขณะเดียวกัน แถลงการณ์ยังโต้แย้งคำกล่าวอ้างที่ว่าผู้ชายในภาพถ่ายปี 2017 ไม่ใช่คิมซูฮยอนด้วย
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- โซเชียลเดือด คิมกับซู ปกป้อง คิมซูฮยอน ล่าสุดซวยเอง โดนถอดจากรายการดัง
- ค่าย แถลงรอบสอง ยันภาพปี 2017 ไม่ใช่ คิมซูฮยอน ไม่เคยใช้ ซอเยจี เป็นเครื่องมือ
- แชทลับ ต้นสังกัด คิมซูฮยอน โทรหา พ่อคิมแซรน ทั้งวันทั้งคืน หลังถูกเปิดภาพแฉ