นักโภชนาการญี่ปุ่น เตือนมื้อเย็น กิน 2 อย่างนี้มากไป เสี่ยงไขมันพอกตับ

เคียวสุ คาโอรุ เผย บริโภคไขมัน-คาร์โบไฮเดรต ช่วงมือเย็นมากเกินไป อาจทำให้ตับทำงานหนักเกินไปจนเป็นไขมันพอกตับได้ เตือนควรกินแต่พอดี
เป็นที่รู้กันอยู่แล้วว่าอาหารนั้นถือเป็นหนึ่งในปัจจัย 4 ที่สำคัญมาก เพระานอกจากจะทำให้อิ่มท้อง ยังส่งผลโดยตรงต่อระบบภายในร่างกายอีกด้วย โดยเฉพาะ “ตับ” อวัยวะสำคัญที่มีบทบาทสร้างความสมดุล ขจัดสารพิษออกจากเลือด และสร้างภูมิคุ้มกันเพื่อขจัดเชื้อโรคออกจาเลือด
ทีมงานไทยเกอร์จึงขอยกสิ่งที่เคียวสุ คาโอรุ (Kyosu Kaoru) นักโภชนาการญี่ปุ่น ที่เคยระบุถึงการดูแลรักษา “ตับ” จากสื่อต่างประเทศ ว่า การกินอาหารแบบใดทำให้ตับทำงานหนักเกินไป ควรกินอะไรเมื่อไหร่ยังไงบ้าง และวิธีดูแลตับแบบครบจบในที่เดียว
คาโอรุ กล่าวว่า อาหารมีบทบาทสำคัญในการรักษาสุขภาพตับ เนื่องจากกระบวนการทำงานของตับเกี่ยวข้องกับการล้างสารพิษและดูดซึมสารอาหารบางประเภท เช่น ไขมันและคาร์โบไฮเดรต ซึ่งมีส่วนทำให้ตับทำงานหนักเกินไป โดยเฉพาะมื้ออาหารเย็นยิ่งสำคัญ หากบริโภคอาหารที่มีสองสิ่งนี้มากเกินไปจะยิ่งทำให้ตับทำงานตลอดคืน ดังนั้นจึงควรเปลี่ยนมาบริโภค เนื้อไม่ติดมัน ปลา ผักใบเขียว และผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลืองแทน เนื่องจากมีประโยชน์ต่อตับมากกว่า
ถึงกระนั้น ก็ไม่ได้หมายความว่าเราห้ามกินไขมันหรือคาร์โบไฮเดรตตลอดเย็นเลย “คาโอรุ” ระบุว่า ขอแค่จำกัดการบริโภคก็พอ หากเลี่ยงได้ก็ถือว่าดีต่อสุขภาพ ขณะเดียวกัน การงดหรือกินอาหารกลางวันน้อยเกินไปก็ถือว่าเป็นพฤติกรรมไม่โอเคเท่าไรนัก เพราะจะเกิดอาการหิวช่วงเย็นหนักมากจนเผลอบริโภคเกินความต้องการของร่างกายได้

อาหาร-เครื่องดื่มที่เป็นอันตรายต่อตับ
เครื่องดื่มที่มีน้ำตาล-แอลกอฮอล์ : น้ำหวานส่วนมากมักมี “ฟรุกโตส” ที่เป็นน้ำตาลกลั่นสูงผสมอยู่ ซึ่งเจ้าน้ำตาลตัวนี้หากตับได้รับมากเกินไปจะถูกเปลี่ยนเป็นไขมันที่ตับแทน จึงอาจเกิดภาวะไขมันพอกตับได้ ส่วนแอลกอฮอล์อาจทำให้เกิดการสะสมของผังผืดและทำให้ตับแข็งได้
ซอสมะเขือเทศหรือมัสตาร์ด : ซอสสองประเภทนี้จะมีน้ำตาลผสมอยู่สูง เพราะจำเป็นต้องทำให้มีรสชาติสำหรับการจิ้มหรือประกอบอาหาร หากตับรับน้ำตาลมากเกินไปก็อาจเกิดเป็นภาวะไขมันพอกตับเหมือนเคสข้างต้นได้
เฟรนช์ฟรายส์ : นับเป็นเมนูอาหารที่มีไขมันสูงมาก ยิ่งกรอบนัวแค่ไหนยิ่งหมายความว่าเรายิ่งบริโภคไขมันมากเท่านั้น หากเรากินเข้าไปบ่อย ๆ อาจทำให้ไขมันในตับสูงขึ้น แถมยังสส่งผลต่อความต้านทานต่ออินซูลินอีกด้วย
เนื้อแปรรูป : ในผลิตภัณฑ์อาหารประเภทนี้จะมีการใส่โซเดียมอยู่มาก ทำให้ตับทำงานหนักโดยใช่เหตุ เนื่องจากต้องพยายามกรองออกจากร่างกาย สิ่งนี้ก็จะย้อนกลับเข้าประเด็นช่วงแรกว่าเราไม่ควรทำให้ตับทำงานมากเกินไปตามที่ “คาโอรุ” กล่าวไว้เมื่อต้นบทความ

ขอบคุณข้อมูลจาก soha
อ่านข่าวที่เกิดขึ้น
- หมอแนะ อาหารแปรรูป 5 ประเภท ดีต่อสุขภาพ ประโยชน์เยอะ ช่วยเพิ่มสารอาหาร
- เลี่ยงด่วน 5 อาหารเช้าจานโปรด ทำลายสุขภาพ น้ำตาลในเลือดพุ่งไม่รู้ตัว
- ล้วงลึก 5 ข้อเสีย การกิน คีโต วิธีลดน้ำหนักสุดฮิต เสี่ยงคอลเลสเตอรอล-ขาดสารอาหาร