‘หมอเจด’ แนะนำ อาหารแปรรูปเพื่อสุขภาพ 5 ชนิด กินแล้วดีต่อร่างกาย สารอาหารเต็มเปี่ยมไม่แพ้อาหารสด ช่วยดูดซึม เพิ่มโปรตีน บำรุงสมอง ลดการเกิดลิ่มเลือด
นายแพทย์ เจษฎ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา หรือที่รู้จักกันในนาม “หมอเจด” ออกมาให้ความรู้ด้านสุขภาพและการแพทย์ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว กล่าวถึง “อาหารแปรรูป” ที่มีคุณประโยชน์มากมาย สามารถกินได้โดยไม่ต้องรู้สึกผิดและกังวลว่าจะส่งผลเสียต่อร่างกายหรือไม่ โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์แปรรูป 5 ชนิดต่อไปนี้ ที่จะช่วยให้ระบบต่าง ๆ ในร่างกายดีขึ้นจนคาดไม่ถึง
อาหารแปรรูป 5 ชนิด เพื่อสุขภาพ ไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย
สำหรับคนรักสุขภาพบางคน พอเห็นคำว่า “อาหารแปรรูป” อาจทำให้รู้สึกไม่ดี และกังวลว่าหากรับประทานเข้าไปจะส่งผลเสียกับร่างกายหรือไม่? แต่รู้ไหมว่าอาหารบางอย่างที่ผ่านกระบวนการแปรรูป มีประโยชน์และคุณค่าทางโภชนาการมากกว่าอาหารสดเสียอีก วันนี้ The Thaiger รวบรวม 5 ลิสต์อาหารแปรรูปเพื่อสุขภาพที่ยิ่งกินยิ่งดีมาไว้ให้ในบทความนี้แล้ว
1. มะเขือเทศกระป๋อง
มะเขือเทศเป็นพืชที่เต็มไปด้วย ‘ไลโคปีน’ (Lycopene) ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่สำคัญ ช่วยลดความเสี่ยงของโรคหัวใจและมะเร็ง โดยเฉพาะมะเร็งต่อมลูกหมาก จริงอยู่ที่มะเขือเทศสดมีไลโคปีนเช่นเดียวกับรูปแบบกระป๋อง แต่สารอาหารในผลสดนั้นร่างกายสามารถดูดซึมมาใช้งานได้น้อยมาก เมื่อเทียบกับมะเขือเทศที่ผ่านความร้อน เช่น ต้ม บด หรือทำเป็นซอส พบว่ามีปริมาณไลโคปีนที่ร่างกายดูดซึมมากกว่า
ทั้งนี้ แพทย์แนะนำว่าการเลือกซื้อมะเขือเทศกระป๋อง ควรอ่านฉลากให้ดี และเลือกแบบไม่มีเกลือรวมถึงน้ำตาล เพื่อให้ร่างกายได้รับคุณประโยชน์อย่างเต็มที่ โดยไม่มีสิ่งปรุงแต่งอื่น ๆ มาปะปน
2. เต้าหู้
“เต้าหู้” เป็นแหล่งโปรตีนชั้นดี ทั้งกับคนทั่วไปและสำหรับคนที่กินมังสวิรัติ หรือต้องการลดการบริโภคเนื้อสัตว์ การกินเต้าหู้ถือเป็นทางเลือกที่ดี ซึ่งประโยชน์ของเต้าหู้ไม่ใช่แค่ให้ “โปรตีน” ที่สูง แต่ในเต้าหู้ยังมี ‘ไอโซฟลาโวน’ (Isoflavones) ที่ช่วยปรับสมดุลฮอร์โมนในร่างกายให้สมดุลขึ้นด้วย ใครที่อยากหันมาเพิ่มโปรตีนเข้าสู่ร่างกายด้วยการกินเต้าหู้ แทน หมู เนื้อ หรือไก่ หมอแนะนำว่าควรเลือกกินเต้าหู้แบบแข็ง เพราะจะให้โปรตีนสุงกว่าเต้าหู้อ่อนหลายเท่า
3. กรีกโยเกิร์ต
เหล่าคนรักสุขภาพต่างรู้ดีว่า “โยเกิร์ต” เป็นของว่างที่ดีต่อสุขภาพ เนื่องจากอุดมไปด้วยแบคทีเรียที่ดี แต่หลายคนอาจชอบกินชนิดที่มีรสชาติหวานซึ่งมีน้ำตาลผสมอยู่ หากอยากดูแลรูปร่างอย่างเต็มที่ จึงควรเลือกกินโยเกิร์ตธรรมชาติที่ไม่ปรุงแต่ง และถ้าอยากได้โปรตีนเพิ่มขึ้น ต้องเลือกกิน ‘กรีกโยเกิร์ต’ ที่มีเนื้อสัมผัสข้นกว่าโยเกิร์ตปกติทั่วไป
นอกจากนี้กรีกโยเกิร์ตยังมีข้อดีอีกอย่าง คือ มี ‘โพรไบโอติกส์’ (Probiotics) ซึ่งเป็นแบคทีเรียดี ช่วยส่งเสริมให้ลำไส้แข็งแรง ช่วยย่อยอาหาร และลดการอักเสบในร่างกายได้อีกด้วย ซึ่งหมอแนะนำว่าอยากกินโยเกิร์ตไม่ใส่น้ำตาลแล้วรู้สึกเอียนรสชาติเกินไป สามารถกินคู่กับถั่วหรือผลไม้สด เพื่อเพิ่มความสดชื่นก็ได้ แต่ทางเลือกที่ดีที่สุดคือการกินเปล่า ๆ โดยไม่แต่งเติมอะไรเพิ่มเลย
4. นัตโตะ
“นัตโตะ” คือถั่วเหลืองหมัก หรือที่บางคนเรียกว่า ‘ถั่วเน่า’ เป็นอาหารขึ้นชื่อของญี่ปุ่น แน่นอนว่าสิ่งที่เป็นอุปสรรคสำหรับการกินนัตโตะคือ ‘กลิ่น’ ที่ฉุนเป็นเอกลักษณ์ และเนื้อสัมผัสที่เหนียวและมียางยืด ทำให้ดูไม่ค่อยน่ารับประทาน แต่ประโยชน์ของนัตโตะมีมากกว่าที่คิด ทั้งวิตามินเค2 (MK-7) ที่ช่วยให้ร่างกายสามารถใช้แคลเซียมได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลดความเสี่ยงของกระดูกพรุน และยังช่วยให้หลอดเลือดไม่แข็งตัวจากการสะสมของแคลเซียมอีกด้วย
ไม่เพียงเท่านั้น แต่ในนัตโตะยังมีเอนไซม์ที่ชื่อว่า ‘นัตโตะไคเนส’ (Nattokinase) ช่วยลดการเกิดลิ่มเลือดในหลอดเลือด ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญของโรคหัวใจและหลอดเลือดด้วย
สำหรับใครที่เป็นมือใหม่หัดลอง อยากหันมากินนัตโตะเพื่อสุขภาพ แต่ทำใจกับรสชาติและกลิ่นไม่ไหว แนะนำให้เติมเครื่องปรุงรส เช่น โชยุ หรือ มัสตาร์ด ลงไปผสม และกินคู่กับข้าวญี่ปุ่น จะช่วยให้อร่อยและกินง่ายขึ้น
5. ทูน่ากระป๋อง
ปลาทูน่าเป็นแหล่งของกรดไขมัน โอเมก้า-3 (Omega-3) ช่วยลดการอักเสบ บำรุงสมอง และลดความเสี่ยงของโรคหัวใจ หลายคนอาจคิดว่าการกินปลาสดย่อมดีกว่าปลาที่อยู่ในกระป๋อง แต่รู้ไหมว่าทูน่ากระป๋องไม่ได้มีดีแค่ความสะดวกในการรับประทาน แต่ยังมีประโยชน์ทางโภชนาไม่แพ้ปลาสดเลยสักนิด
นอกจากโอเมก้าแล้ว ในทูน่ากระป๋องยังมี ‘ซีลีเนียม’ (Selenium) ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่จะช่วยเสริมภูมิคุ้มกันอีกด้วย โดยหมอเจดได้แนะนำวิธีเลือกทูน่ากระป๋องว่าควรกินแบบไม่มีน้ำมัน ส่วนใครที่กังวลว่าหากบริโภคทูน่ามากเกินไป อาจได้รับสารปรอทที่ปนเปื้อนมา สามารถเลือกกินแบบ ‘Light Tuna’ เป็นอีกทางเลือกหนึ่งได้ เพราะมีปริมาณปรอทต่ำกว่าทูน่าครีบน้ำเงิน
จากที่กล่าวมาจะเห็นว่า “อาหารแปรรูป” ทั้ง 5 ชนิดนี้ มีประโยชน์ต่อร่างกายมากมาย บางอย่างแม้จะผ่านการปรุงสุก และกระบวนการถนอมอาหาร แต่ก็ยังมีคุณค่าทางโภชนาการไม่แพ้ของสดด้วย หวังว่าบทความนี้จะช่วยให้หลายคนที่หวาดกลัวการกินอาหารกระป๋อง หันมาลองเปิดใจและเลือกกินอาหารแปรรูปเพื่อสุขภาพกันมากขึ้น.
อ้างอิง : Facebook หมอเจด
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ไขมันพอกตับ อันตรายกว่าที่คิด เสี่ยงโรคร้ายเรื้อรัง รู้วิธีป้องกัน ก่อนสายไป
- หมอแนะนำ 5 วิธีลดความดันโลหิต แบบไม่พึ่งยา ทำตามนี้ 3 เดือนเห็นผล
- เช็กด่วน! “อาหารแช่เย็น” เสี่ยงสุขภาพพัง เลี่ยงกินบ่อย ตัวการป่วยหนัก
ข่าวล่าสุด
