สุขภาพและการแพทย์

หมอเจด เตือน 5 อาหาร รสชาติไม่เค็ม ทำไตเสื่อมไม่รู้ตัว

‘หมอเจด’ เผยรายชื่อ 5 อาหารกลุ่มเสี่ยง รสชาติไม่เค็ม แต่ทำร้ายไตมากกว่าที่คิด แนะควบคุมปริมาณ ไม่ควรกินมากเกินไป เร่งทำงานหนัก เสื่อมไว หวิดฟอกไตตลอดชีวิต

“หมอเจด” หรือ นายแพทย์ เจษฎ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา ออกโรงเตือนประชาชน ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว พูดถึงประเด็นอาหาร 5 ประเภทที่รสชาติไม่เค็ม แต่เป็นตัวการร้ายส่งผลให้ไตทำงานหนัก เสี่ยงไตเสื่อม ต้องฟอกไตระยะยาว! จะมีของกินหมวดหมู่ไหนที่เข้าข่ายบ้างไปดูกันเลย

Advertisements
หมอเจดเตือน 5 อาหารทำร้ายไต ไม่มีรสชาติเค็ม แต่ทำให้ไตทำงานหนัก เสื่อมไว
ภาพจาก : Facebook หมอเจด

5 อาหารรสชาติไม่เค็ม ซ่อนภัยร้ายทำลายไต

1. ขนมปัง : ขนมในกลุ่มเบเกอรี่ ไม่ว่าจะเป็นโดนัท ครัวซองต์ รวมถึงขนมปังชนิดต่าง ๆ ใครชอบกินต้องระวังเอาไว้ เพราะ “ผงฟู” ซึ่งเป็นวัตถุดิบสำคัญในการใช้ทำขนมปัง เปรียบเสมือนเกลือชนิดหนึ่งที่มีโซเดียมแฝง ทำให้ไตต้องขับเกลือออกไปมากขึ้น รวมถึงเบเกอรี่บางชนิดมีฟอสฟอรัสสูง ทำให้เกิดหินปูนสะสมในไตและหลอดเลือดด้วย

ดังนั้น หากใครที่มีภาวะไตเสื่อม แล้วร่างกายขับฟอสฟอรัสออกได้ไม่ดี ก็อาจทำให้เกิดความเสี่ยงไตวายมากยิ่งขึ้น ๆ สำหรับใครที่เสพติดการกินขนมปังในกลุ่มนี้ แต่อยากลดความเสี่ยงทำร้ายไต ควรกินขนมปังโฮลวีต หรือ ขนมปังยีสต์ธรรมชาติ (Sourdough) ถือเป็นทางเลือกที่ดีกว่า

ขนมปัง 1 ใน 5 อาหารรสชาติไม่เค็มแต่ทำร้ายไต

2. ชานมไข่มุก หรือ เครื่องดื่มรสชาติหวานจัด : ชาไข่มุก กาแฟเย็น หรือชาเขียวปั่น ที่เป็นเมนูโปรดของใครหลายคน มีอันตรายมากกว่าที่คิด เนื่องจากเครื่องดื่มบางแก้ว มีน้ำตาลสูงถึง 10-15 ช้อนชา เมื่อบริโภคน้ำหวานมาก ๆ จึงทำให้น้ำตาลในเลือดพุ่งสูงขึ้น ทำให้เส้นเลือดที่ไปเลี้ยงไตเสื่อมลง และหากสะสมไปเรื่อย ๆ จะเพิ่มความเสี่ยงเป็นโรคเบาหวานด้วย ซึ่งโรคนี้ถือเป็นสาเหตุสำคัญของอาการ ‘ไตเสื่อม’ สำหรับใครที่คิดว่าตัดใจจากเมนูเหล่านี้ไม่ได้ แนะนำให้สั่งแบบหวานน้อย หรือไม่ใส่น้ำตาลเลยจะดีที่สุด

ชานมไข่มุกแค่เครื่องดื่มที่มีน้ำตาลสูง เพิ่มความเสี่ยงไตเสื่อม

Advertisements

3. ข้าวขาว ก๋วยเตี๋ยว และอาหารแป้งสูง : อาหารในกลุ่มนี้เป็นสิ่งที่หลายคนกินเป็นมื้อหลักในชีวิตประจำวัน แต่รู้ไหมว่า “แป้งขัดสี” ที่ซ่อนตัวอยู่ในข้าวและเส้น ส่งผลให้ไตต้องทำงานหนักมากขึ้น เนื่องจากหลังบริโภคแป้งจำนวนมาก จะทำให้ปริมาณน้ำตาลในเลือดพุ่งสูง หากมีภาวะแบบนี้เรื้อรัง ก็จะกระตุ้นให้เกิดโรคเบาหวาน ไตจึงต้องกรองน้ำตาลและของเสียในเลือดมากขึ้น เสี่ยงเกิดภาวะไตเสื่อมไว

ดังนั้น หากใครที่อยากลดอันตรายจากอาหารเมนูแป้ง ควรเปลี่ยนไปกินข้าวกล้อง หรือข้าวไรซ์เบอร์รี่ และลดแป้งในอาหารมื้อเย็นเป็นประจำ เพราะเป็นช่วงเวลาที่ร่างกายไม่ค่อยได้ใช้พลังงาน

ข้าวขาวและเส้นก๋วยเตี๋ยว ส่งผลให้ไตทำงานหนัก

4. น้ำจิ้มและซอส : หลายคนมักมองข้ามเครื่องปรุงในกลุ่มนี้ เพราะบริโภคปริมาณไม่มากต่อมื้อ แต่ซอสปรุงรสต่าง ๆ อาทิ ซีอิ๊ว น้ำปลา ซอสพริก ซอสมะเขือเทศ หรือ น้ำจิ้มหมูกระทะ รวมถึงน้ำราดข้าวมันไก่ ต่างเป็นภัยร้ายใกล้ตัว ที่ทำลายสุขภาพไตให้พังแบบไม่รู้ตัวเลยทีเดียว

สาเหตุหลักมาจากปริมาณโซเดียมที่ค่อนข้างสูง ส่งผลให้ไตทำงานหนักกว่าปกติ เพื่อขับเกลือออกจากร่างกาย อีกทั้งน้ำจิ้มหรือซอสบางชนิด เช่น ซอสบาร์บีคิว น้ำจิ้มสุกี้ ซอสเทอริยากิ มีน้ำตาลแฝงเยอะมาก ทำให้เสี่ยงเบาหวาน ทั้งยังมีสารกันเสีย ผงชูรส และฟอสฟอรัสเป็นส่วนผสม ทำให้ไตต้องช่วยกรองออก หากต้องการใช้เครื่องปรุงทำอาหาร ควรเลือกสูตรโซเดียมต่ำ หรือทำน้ำจิ้มเอง เพื่อควบคุมปริมาณวัตถุดิบ และลดความเสี่ยงไตเสื่อมไปในตัวด้วย

น้ำจิ้มและซอสปรุงรส มีโซเดียมสูง เสี่ยงไตเสื่อมระยะยาว

5. ผลไม้และน้ำผลไม้ : แม้ว่าผลไม้จะมีประโยชน์ต่อร่างกาย แต่ผลไม้บางชนิดก็น้ำตาลที่สูงมาก เช่น ทุเรียน ขนุน ลำไย และมะม่วงสุก หากกินในปริมาณมากเกินไป เสี่ยงทำให้ระดับน้ำตาลพุ่งสูง โดยเฉพาะ ‘น้ำตาลฟรุกโตส’ ในผลไม้ที่ร่างกายสามารถดูดซึมได้ง่าย

สำหรับใครที่ชอบกินน้ำผลไม้ ก็ใช่ว่าจะเป็นทางเลือกที่ดีเสมอไป เพราะน้ำผลไม้ไม่มีไฟเบอร์ ทำให้น้ำตาลเข้าสู่กระแสเลือดได้อย่างรวดเร็ว คนที่มีภาวะไตเสื่อมยิ่งต้องระวังเป็นพิเศษ เนื่องจากโพแทสเซียมในผลไม้ หากร่างกายขับออกไม่หมด อาจเสี่ยงทำให้เกิดอาการหัวใจเต้นผิดจังหวะได้

หากใครที่ชื่นชอบการกินผลไม้เป็นชีวิตจิตใจและเลิกไม่ได้ หมอได้ให้คำแนะนำว่าควรบริโภคในปริมาณที่เหมาะสม และเลือกกินผลไม้ชนิดที่มีน้ำตาลไม่มาก เช่น ฝรั่ง แอปเปิลเขียว เบอร์รี่ ส้มโอ และที่สำคัญควรกินผลไม้สดดีกว่าการรับประทานในรูปแบบของน้ำผลไม้

น้ำผลไม้มีน้ำตาลสูง ไม่มีไฟเบอร์ เสี่ยงทำให้ไตเสื่อม

จากที่กล่าวมาทั้งหมดจะเห็นได้ว่า อาหาร 5 ประเภทข้างต้น แม้ว่าจะไม่ได้มีรสชาติเค็ม แต่ก็ส่งผลต่อไตอย่างร้ายแรงไม่แพ้อาหารที่มีรสเค็มจัดเลย หากต้องการรักษาสุขภาพไตให้อยู่กับเราไปนาน ๆ และไม่อยากเสี่ยงฟอกไตตลอดชีวิต ควรเริ่มควบคุมการกินอาหารตั้งแต่วันนี้ โดยการกินแป้งขัดสี ซอส และขนมปังที่ใช้ผงฟู เพราะเป็นตัวเร่งให้ไตเสื่อมเร็วขึ้น หันมาบริโภคอาหารที่รสไม่จัด ขนมปังที่ทำจากยีสต์ และอ่านฉลากเพื่อดูปริมาณโซเดียมก่อนบริโภคเข้าสู่ร่างกายทุกครั้ง.

อ้างอิง : Facebook หมอเจด

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

Woralada

นักเขียนเรื่องไลฟ์สไตล์ ข่าวบันเทิง และประเด็นการเมือง เวลาว่างชอบดูซีรีส์ อ่านวรรณกรรม และไปคอนเสิร์ตเพื่อต่อพลังงานชีวิต

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to top button