กรมสรรพากร ตอบชัด Easy E-Receipt 2568 ซื้อสมาร์ทโฟน แท็บเล็ต อุปกรณ์ไอทีได้ไหม ลดหย่อนภาษีสูงสุด 50,000 บาท ต้องมี e-Tax/e-Receipt เริ่ม 16 ม.ค. – 28 ก.พ. นี้
เมื่อวันที่ 24 ธันวาคม 2567 คณะรัฐมนตรีเห็นชอบดำเนินการมาตรการ ‘Easy E-Receipt’ ลดหย่อนภาษี 2568 โดยผู้เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสามารถนำมีใบกำกับภาษี และ ใบรับอิเล็กทรอนิกส์ สินค้าและบริการที่เข้าร่วมรายการลดหย่อนภาษีได้ เริ่ม 16 มกราคม – 28 กุมภาพันธ์ 2568 ตามจำนวนที่จ่ายจริง ไม่เกิน 50,000 บาท หลายคนอาจเกิดข้อสงสัยว่ามาตรการ Easy E-Receipt สามารถซื้อมือถือ สมาร์ทโฟน และแท็บเล็ต ได้หรือไม่
ไขข้อสงสัย ‘Easy E-Receipt’ ลดหย่อนภาษี 2568 ซื้อสมาร์ทโฟนได้ไหม?
กรมสรรพากร ออกมาตอบแล้วว่า มาตรการ ‘Easy E-Receipt’ ลดหย่อนภาษี 2568 สามารถซื้อสมาร์ทโฟน, แท็บเล็ต รวมทั้งสินค้าและอุปกรณ์ไอที (IT Gadget) ได้ แต่ต้องใช้จ่ายภายในวันที่ 16 มกราคม – 28 กุมภาพันธ์ 2568 เท่านั้น และ มีใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ (e-Tax invoice) และ ใบรับอิเล็กทรอนิกส์ (e-Receipt) ที่ระบุชื่อ นามสกุล และเลขประจำตัวผู้เสียภาษีอากร หรือ เลขประจำตัวประชาชนของผู้ซื้อสินค้าหรือผู้รับบริการ
รายการสินค้า Easy E-Receipt ลดหย่อนภาษี 2568
เช็กลิสต์สินค้าหรือบริการที่สามารถนำมาหักลดหย่อนได้ มีเงื่อนไขว่าต้องใช้จ่ายภายในประเทศ ระหว่างวันที่ 16 มกราคม 2568 ถึงวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2568 ได้สูงสุด 50,000 บาท โดยแบ่งออกเป็น 2 ส่วน ได้แก่
1. หักลดหย่อนตามที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 30,000 บาท
ค่าซื้อสินค้าหรือค่าบริการที่จ่ายให้แก่ผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม ต้องมีใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ (e-Tax invoice) แบบเต็มรูปเป็นหลักฐาน หรือผู้ขายสินค้าหรือผู้ให้บริการที่ไม่เป็นผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม โดยต้องมีใบรับอิเล็กทรอนิกส์ (e-Receipt) เป็นหลักฐาน
2. หักลดหย่อนได้เพิ่มอีกตามจำนวนที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 20,000 บาท
สำหรับค่าซื้อสินค้าหรือค่าบริการดังต่อไปนี้ ต้องมี e-Tax Invoice แบบเต็มรูป หรือ e-Receipt เป็นหลักฐาน ได้แก่
- ค่าซื้อสินค้าหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ (OTOP) ซึ่งเป็นสินค้าที่ได้ลงทะเบียนกับกรมการพัฒนาชุมชนแล้ว
- ค่าซื้อสินค้าหรือค่าบริการที่จ่ายให้แก่วิสาหกิจชุมชนที่ได้จดทะเบียนต่อกรมส่งเสริมการเกษตร
- ค่าซื้อสินค้าหรือค่าบริการที่จ่ายให้แก่วิสาหกิจเพื่อสังคมที่ได้จดทะเบียนต่อสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจเพื่อสังคม
หากซื้อสินค้าหรือบริการที่มาจากผู้ประกอบการไม่ได้จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม ต้องซื้อสินค้าตามที่กรมสรรพากรกำหนด ดังนี้
1. ค่าซื้อหนังสือ หนังสือพิมพ์ และนิตยสาร
2. ค่าบริการหนังสือ หนังสือพิมพ์ และนิตยสารที่อยู่ในรูปของข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ผ่านระบบอินเทอร์เน็ต (e-Book)
3. ค่าซื้อสินค้าหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ (OTOP) ซึ่งเป็นสินค้าที่ได้ลงทะเบียนกับกรมการพัฒนาชุมชนแล้ว
4. ค่าซื้อสินค้าหรือค่าบริการที่จ่ายให้แก่วิสาหกิจชุมชนที่ได้จดทะเบียนต่อกรมส่งเสริมการเกษตร
5. ค่าซื้อสินค้าหรือค่าบริการที่จ่ายให้แก่วิสาหกิจเพื่อสังคมที่ได้จดทะเบียนต่อสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจเพื่อสังคม
สินค้าและบริการใด ไม่สามารถใช้สิทธิลดหย่อนภาษีได้
1. ค่าซื้อสุรา เบียร์ และไวน์
2. ค่าซื้อยาสูบ
3. ค่าซื้อน้ำมัน ค่าซื้อก๊าซ และค่าบริการอัดประจุไฟฟ้าสำหรับเติมยานพาหนะ
4. ค่าซื้อรถยนต์ และรถจักรยานยนต์ ตามกฎหมายว่าด้วยรถยนต์ (รถจักรยานยนต์ รวมถึงรถจักรยานที่ติดเครื่องยนต์) และค่าซื้อเรือ
5. ค่าสาธารณูปโภค ค่าน้ำประปา ค่าไฟฟ้า ค่าบริการสัญญาณโทรศัพท์ และค่าบริการสัญญาณอินเทอร์เน็ต
6. ค่าบริการที่มีข้อตกลงการให้บริการและผู้รับบริการสามารถใช้บริการดังกล่าวนอกเหนือจากระยะเวลาของมาตรการ
7. ค่าเบี้ยประกันวินาศภัย
8. ค่าบริการจัดนำเที่ยวที่จ่ายให้แก่ผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยว และค่าที่พักโรงแรม ค่าที่พักโฮมสเตย์ไทย หรือค่าที่พักในสถานที่พักที่ไม่เป็นโรงแรม
ข้อมูลจาก : กรมสรรพากร
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- เช็กเลย ยื่นภาษีเงินได้ 2567 ได้ถึงวันไหน พร้อมวิธีลดหย่อน-คืนภาษี ไม่ยื่นผิดไหม
- รายการสินค้า Easy E-Receipt ลดหย่อนภาษี 2568 ได้สูงสุด 50000 บาท
- เงื่อนไข Easy E-Receipt ลดหย่อนภาษี 2568 สูงสุด 50000 บาท ช้อปอะไรได้บ้าง