การเงินเศรษฐกิจ

วิเคราะห์ทิศทางตลาด Forex: การคาดการณ์แนวโน้มค่าเงินและคู่สกุลเงินหลักในตลาดโลก

ตลาดฟอเร็กซ์ (Forex) หรือ ตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ เป็นตลาดการเงินที่ใหญ่ที่สุดในโลก ด้วยมูลค่าการซื้อขายรายวันมากกว่า 6 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลกอย่างมีนัยสำคัญ

ตลาด Forex ในปี 2024 กำลังเผชิญกับความท้าทายและการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ จากปัจจัยทางเศรษฐกิจและการเมืองระดับโลก มาวิเคราะห์สถานการณ์และแนวโน้มที่จะส่งผลต่อการเทรดในอนาคต

Advertisements

สถานการณ์ตลาด Forex โลกในปัจจุบัน

ตลาด Forex ยังคงเป็นตลาดการเงินที่มีความสำคัญอย่างยิ่งในเศรษฐกิจโลก ด้วยมูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันสูงถึง 6.6 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งสะท้อนถึงความสนใจและการมีส่วนร่วมของนักลงทุนทั่วโลกอย่างต่อเนื่อง คู่เงินหลักอย่าง EUR/USD ยังคงครองส่วนแบ่งการซื้อขายสูงสุดที่ 28% ของปริมาณการซื้อขายทั้งหมด เนื่องจากความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจที่แน่นแฟ้นระหว่างสหรัฐอเมริกาและสหภาพยุโรป

สถานการณ์ตลาด Forex โลกในปัจจุบัน

สภาพคล่องในตลาดยังคงอยู่ในระดับสูง แม้จะมีความผันผวนจากปัจจัยภายนอกเข้ามากระทบ โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่ตลาดหลักอย่างลอนดอน นิวยอร์ก และโตเกียวเปิดทำการซ้อนกัน ทำให้เกิดโอกาสในการเทรดมากขึ้น ขณะเดียวกันก็ต้องระมัดระวังความผันผวนที่อาจเกิดขึ้นในช่วงประกาศข่าวสำคัญ เป็นปัจจัยขับเคลื่อนตลาด Forex ให้ปรับตัว เช่น

การแข็งค่าของดอลลาร์สหรัฐ

  • นโยบายการเงินของ FED

การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยและการลดขนาดงบดุลของธนาคารกลางสหรัฐ (FED) เป็นปัจจัยหลักที่ทำให้ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้น เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นทำให้นักลงทุนหันมาถือครองดอลลาร์เพื่อรับผลตอบแทนที่ดีกว่า

  • ผลกระทบต่อสกุลเงินอื่นๆ

การแข็งค่าของดอลลาร์ส่งผลให้สกุลเงินหลักอื่น ๆ เช่น ยูโร เยนญี่ปุ่น และปอนด์อังกฤษ อ่อนค่าลง ซึ่งส่งผลต่อการค้าและการลงทุนระหว่างประเทศเหล่านี้

Advertisements
  • การไหลเวียนของทุน

นักลงทุนต่างชาติอาจย้ายทุนเข้าสหรัฐอเมริกาเพื่อแสวงหาผลตอบแทนที่สูงขึ้น ทำให้ตลาดการเงินในประเทศเกิดใหม่เผชิญกับความเสี่ยงจากการไหลออกของทุน

การแข็งค่าของดอลลาร์สหรัฐ นโยบายการเงินของ FED

ปัจจัยเศรษฐกิจมหภาค

  • การชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน:

การชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน ซึ่งเป็นเศรษฐกิจใหญ่อันดับสองของโลก ส่งผลกระทบต่อประเทศคู่ค้าสำคัญในเอเชีย เช่น ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และออสเตรเลีย ที่พึ่งพาการส่งออกไปยังจีน

การชะลอตัวของจีนอาจทำให้ความต้องการสินค้าทั่วโลกลดลง ส่งผลให้ราคาสินค้าโภคภัณฑ์และสกุลเงินของประเทศผู้ส่งออกสินค้าเหล่านี้ลดลง

  • สหรัฐฯ แสดงสัญญาณการเติบโตที่แข็งแกร่ง

การใช้จ่ายของผู้บริโภคในสหรัฐฯ ยังคงเพิ่มขึ้น เนื่องจากตลาดแรงงานที่แข็งแกร่งและอัตราการว่างงานที่ต่ำ อีกทั้งการลงทุนในเทคโนโลยีและโครงสร้างพื้นฐานช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจและเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของสหรัฐฯ การเติบโตทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งสนับสนุนการแข็งค่าของดอลลาร์สหรัฐ เนื่องจากนักลงทุนมีความเชื่อมั่นในเศรษฐกิจและตลาดการเงินของสหรัฐฯ

  • ยุโรปเผชิญกับความท้าทายจากวิกฤตพลังงานและเงินเฟ้อ

ในช่วงต้นปี 2024 ความตึงเครียดทางการเมืองกับรัสเซียส่งผลให้ยุโรปต้องเผชิญกับราคาพลังงานที่สูงขึ้น และอาจเกิดปัญหาการขาดแคลนพลังงานในบางประเทศ

ราคาพลังงานและอาหารที่เพิ่มขึ้นทำให้อัตราเงินเฟ้อในยุโรปอยู่ในระดับสูง ส่งผลกระทบต่อกำลังซื้อของผู้บริโภคและการเติบโตทางเศรษฐกิจ ความท้าทายเหล่านี้ทำให้ยูโรอ่อนค่าลง และอาจส่งผลให้ ECB ต้องดำเนินนโยบายที่ผ่อนคลายมากขึ้นเพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจ

AP Photo/Abdel Kareem Hana, File)

ปัจจัยทางเทคโนโลยีและนวัตกรรม

การเข้าถึงตลาดที่ง่ายขึ้น แพลตฟอร์มการซื้อขายออนไลน์และแอปพลิเคชันมือถือทำให้ผู้ลงทุนรายย่อยสามารถเข้าถึงตลาด Forex ได้ง่ายขึ้น

การใช้ AI และการวิเคราะห์ข้อมูล เครื่องมือและเทคโนโลยีใหม่ ๆ ช่วยให้นักลงทุนสามารถวิเคราะห์และคาดการณ์ตลาดได้แม่นยำขึ้น

  • สกุลเงินดิจิทัลและบล็อกเชน

การเกิดขึ้นของสกุลเงินดิจิทัล การยอมรับและการใช้สกุลเงินดิจิทัลเพิ่มขึ้น ส่งผลต่อวิธีการทำธุรกรรมและอาจมีผลต่อสกุลเงินแบบดั้งเดิม

CBDCs (สกุลเงินดิจิทัลของธนาคารกลาง): การพัฒนาของ CBDCs โดยธนาคารกลางต่าง ๆ อาจเปลี่ยนแปลงโครงสร้างของตลาดการเงินและการแลกเปลี่ยนเงินตรา

วิเคราะห์แนวโน้มคู่เงินหลัก

การวิเคราะห์แนวโน้มของคู่สกุลเงินหลักเป็นสิ่งสำคัญสำหรับนักลงทุนและผู้ประกอบการที่ต้องการเข้าใจทิศทางของตลาด Forex ในปัจจุบันและอนาคต โดยคู่สกุลเงินหลักที่มีการซื้อขายมากที่สุด ได้แก่ EUR/USD, GBP/USD, USD/JPY และ USD/THB แต่ละคู่มีปัจจัยเฉพาะที่ส่งผลต่อการเคลื่อนไหวของค่าเงิน

1. EUR/USD (ยูโร/ดอลลาร์สหรัฐ)

แนวโน้มปัจจุบันคาดว่าจะเคลื่อนไหวในกรอบ 1.05-1.12

ปัจจัยที่ส่งผลกระทบ

  1. นโยบายการเงินที่แตกต่างกัน: ธนาคารกลางสหรัฐ (FED) ยังคงรักษาอัตราดอกเบี้ยในระดับสูงเพื่อควบคุมเงินเฟ้อ ขณะที่ธนาคารกลางยุโรป (ECB) เริ่มส่งสัญญาณผ่อนคลายนโยบายการเงิน เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจยุโรป
  2. เศรษฐกิจยุโรปที่อ่อนแอ: วิกฤตพลังงานและความไม่แน่นอนทางการเมืองในบางประเทศสมาชิกส่งผลให้ความเชื่อมั่นของนักลงทุนลดลง
  3. ดัชนีเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่แข็งแกร่ง: ตัวเลขการจ้างงานและการบริโภคในสหรัฐฯ ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง สนับสนุนการแข็งค่าของดอลลาร์สหรัฐ

การวิเคราะห์ทางเทคนิค

  • ระดับแนวรับที่สำคัญ: 1.05 หากราคาหลุดระดับนี้ อาจเห็นการอ่อนค่าของยูโรมากขึ้น
  • ระดับแนวต้านที่สำคัญ: 1.12 หากราคาสามารถทะลุระดับนี้ อาจเป็นสัญญาณการฟื้นตัวของยูโร

2. GBP/USD (ปอนด์อังกฤษ/ดอลลาร์สหรัฐ)

แนวโน้มปัจจุบัน แนวโน้มทรงตัวในกรอบ 1.20-1.28

ปัจจัยที่ส่งผลกระทบ

  1. การฟื้นตัวของเศรษฐกิจอังกฤษ: การเปิดเศรษฐกิจหลังโควิด-19 และการเพิ่มขึ้นของการบริโภคภายในประเทศ
  2. ปัญหาเงินเฟ้อ: อัตราเงินเฟ้อที่สูงในอังกฤษสร้างความกังวลต่อนักลงทุน และอาจจำกัดการเติบโตทางเศรษฐกิจในระยะยาว
  3. นโยบายการเงินของธนาคารกลางอังกฤษ (BOE): การตัดสินใจเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยและมาตรการทางการเงินอื่น ๆ จะส่งผลต่อค่าเงินปอนด์

การวิเคราะห์ทางเทคนิค

  • ระดับแนวรับที่สำคัญ: 1.20 การหลุดระดับนี้อาจส่งสัญญาณการอ่อนค่าของปอนด์
  • ระดับแนวต้านที่สำคัญ: 1.28 การทะลุระดับนี้อาจบ่งบอกถึงการแข็งค่าของปอนด์ต่อดอลลาร์

3. USD/JPY (ดอลลาร์สหรัฐ/เยนญี่ปุ่น)

แนวโน้มปัจจุบัน คาดว่าจะยังคงอยู่ในระดับสูงเหนือ 145 เยน

ปัจจัยที่ส่งผลกระทบ

  1. นโยบายผ่อนคลายทางการเงินของธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ): การคงอัตราดอกเบี้ยในระดับต่ำและการซื้อสินทรัพย์ทางการเงินเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ทำให้เยนญี่ปุ่นอ่อนค่าลง
  2. การแข็งค่าของดอลลาร์สหรัฐ: อันเนื่องมาจากอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นและเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่แข็งแกร่ง
  3. สถานการณ์ความไม่แน่นอนทางการเมืองและเศรษฐกิจโลก: เยนมักถูกมองว่าเป็นสกุลเงินปลอดภัย แต่ในสถานการณ์ปัจจุบัน การอ่อนค่าของเยนยังคงดำเนินต่อไป

การวิเคราะห์ทางเทคนิค

  • ระดับแนวต้านที่สำคัญ: 150 หากราคาทะลุระดับนี้ อาจเห็นการแข็งค่าของดอลลาร์ต่อเยนมากขึ้น
  • ระดับแนวรับที่สำคัญ: 145 การหลุดระดับนี้อาจเป็นสัญญาณการฟื้นตัวของเยน

4. USD/THB (ดอลลาร์สหรัฐ/บาทไทย)

แนวโน้มปัจจุบัน แนวโน้มเคลื่อนไหวในกรอบ 34-36 บาท

ปัจจัยที่ส่งผลกระทบ

  1. การแข็งค่าของเงินบาท: ทำให้ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินบาท
  2. การฟื้นตัวของการท่องเที่ยวไทย: หลังจากการผ่อนคลายมาตรการควบคุมโควิด-19 การท่องเที่ยวเริ่มกลับมา ซึ่งเป็นปัจจัยบวกต่อเศรษฐกิจและค่าเงินบาท
  3. นโยบายการเงินของธนาคารแห่งประเทศไทย (BOT): การตัดสินใจเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยและมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ

การวิเคราะห์ทางเทคนิค

  • ระดับแนวรับที่สำคัญ: 34 บาท การแข็งค่าของเงินบาทต่ำกว่าระดับนี้อาจบ่งบอกถึงเศรษฐกิจไทยที่แข็งแกร่งขึ้น
  • ระดับแนวต้านที่สำคัญ: 36 บาท หากเงินบาทอ่อนค่าเกินระดับนี้ อาจต้องระวังความเสี่ยงทางเศรษฐกิจ

EUR/USD

เครื่องมือการวิเคราะห์

การวิเคราะห์ทางเทคนิคเป็นเครื่องมือสำคัญในการซื้อขาย Forex โดยการใช้ Multiple Time Frame Analysis ช่วยให้มองเห็นแนวโน้มของตลาดในมุมมองที่กว้างขึ้น ผ่านการวิเคราะห์กราฟในช่วงเวลาต่าง ๆ การใช้ Fibonacci Retracement ช่วยระบุระดับราคาที่มีโอกาสกลับตัวหรือปรับฐาน ขณะที่ Moving Average ใช้ในการระบุแนวโน้มและสัญญาณการซื้อขายโดยการเฉลี่ยราคาที่ผ่านมา

การผสานเครื่องมือทั้งสามนี้ช่วยให้นักลงทุนหาจุดเข้า-ออกที่เหมาะสมได้อย่างมีประสิทธิภาพ เริ่มจากการระบุแนวโน้มหลักด้วย Multiple Time Frame Analysis จากนั้นใช้ Fibonacci Retracement เพื่อหาระดับราคาที่น่าสนใจ และยืนยันสัญญาณด้วย Moving Average การเข้าใจและใช้งานเครื่องมือเหล่านี้อย่างถูกต้องเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการตัดสินใจลงทุนที่มีประสิทธิภาพและลดความเสี่ยงในตลาด Forex

ที่สำสัญ ห้ามมองข้ามการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน ให้ความสำคัญกับการติดตามตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญ เช่น อัตราเงินเฟ้อ การจ้างงาน และ GDP รวมถึงรายงานการประชุมของธนาคารกลาง จะทำให้มองสถานการณ์ได้แม่นยำขึ้น

การเทรด Forex ในสภาวะตลาดปัจจุบัน

การบริหารความเสี่ยงต้องให้ความสำคัญเป็นพิเศษ แนะนำให้ใช้ Position Sizing ไม่เกิน 1-2% ของพอร์ตต่อการเทรดหนึ่งครั้ง พร้อมกำหนด Stop Loss ที่ชัดเจน

สำหรับการเข้าเทรด ควรรอสัญญาณยืนยันจากหลายเครื่องมือ และหลีกเลี่ยงการเทรดในช่วงประกาศข่าวสำคัญที่อาจสร้างความผันผวนสูง

คำแนะนำสำหรับเทรดเดอร์

  1. ติดตามข่าวสารและปัจจัยพื้นฐานอย่างต่อเนื่อง
  2. พัฒนาระบบเทรดที่เหมาะกับตัวเอง
  3. บริหารความเสี่ยงอย่างเคร่งครัด
  4. เรียนรู้จากความผิดพลาดและปรับปรุงกลยุทธ์
  5. รักษาวินัยในการเทรดและควบคุมอารมณ์

แนวโน้มและการคาดการณ์ในอนาคต

คาดการณ์ระยะสั้น ดอลลาร์สหรัฐมีแนวโน้มแข็งค่าต่อเนื่องจากนโยบายการเงินที่เข้มงวดของ FED ส่วนในระยะกลาง อาจเห็นการอ่อนค่าของดอลลาร์หากเศรษฐกิจสหรัฐชะลอตัวและ FED เริ่มผ่อนคลายนโยบายการเงิน ขณะที่ระยะยาว การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างระบบการเงินโลก รวมถึงการพัฒนาของสกุลเงินดิจิทัล อาจส่งผลต่อบทบาทของดอลลาร์ในฐานะสกุลเงินหลักของโลก

ดังนั้นตลาด Forex ยังคงมีโอกาสสำหรับเทรดเดอร์ที่มีการวางแผนและบริหารความเสี่ยงที่ดี การติดตามปัจจัยพื้นฐานควบคู่กับการวิเคราะห์ทางเทคนิค พร้อมทั้งรักษาวินัยในการเทรด จะเป็นกุญแจสำคัญสู่ความสำเร็จ

สำหรับเทรดเดอร์ไทย ควรให้ความสำคัญเป็นพิเศษกับคู่เงิน USD/THB และปัจจัยที่ส่งผลต่อค่าเงินบาท เช่น การท่องเที่ยว การส่งออก และนโยบายการเงินของธนาคารแห่งประเทศไทย

ประเภทบัญชี FXGT มีอะไรบ้าง และเหมาะกับใคร

FXGT นำเสนอประเภทบัญชีที่หลากหลาย เพื่อรองรับเทรดเดอร์ทุกระดับและทุกกลยุทธ์การเทรด ตั้งแต่มือใหม่ที่ต้องการเริ่มต้น ไปจนถึงมืออาชีพที่เน้นความเร็วและความแม่นยำ โดยมีรายละเอียดดังนี้

Optimus Account

  • เหมาะกับเทรดเดอร์ที่เน้นการเทรดแบบ Day-Trading หรือทำการซื้อขายในตลาดที่เคลื่อนไหวรวดเร็ว
  • จุดเด่น
    • เลเวอเรจสูงสุดถึง 1:5000
    • สเปรดต่ำเป็นพิเศษ
    • เหมาะสำหรับการเทรดปริมาณมากด้วยเงินทุนขั้นต่ำ

PRO Account

  • เหมาะกับ เทรดเดอร์ทุกระดับที่ต้องการเงื่อนไขการเทรดแบบมืออาชีพ
  • จุดเด่น
    • ไม่มีค่าคอมมิชชัน ($0 Commissions)
    • ใช้งานง่ายและเหมาะสำหรับเทรดเดอร์ที่ต้องการความยืดหยุ่น
    • สามารถเข้าถึงการเทรดในตลาดทั่วโลก

ECN Zero Account

  • เหมาะกับ เทรดเดอร์ที่เน้นการทำกำไรจากการเคลื่อนไหวของราคาระยะสั้น และกลยุทธ์การเทรดอัตโนมัติ
  • จุดเด่น
    • สเปรดต่ำสุดที่ 0.0 Pips
    • เหมาะสำหรับการเทรดปริมาณสูงและการทำ Scalping
    • เพิ่มความแม่นยำในการเข้า-ออกออเดอร์

STANDARD+ Account

  • เหมาะกับ เทรดเดอร์ทุกประเภทที่ต้องการรับโบนัสและสิทธิพิเศษเพิ่มเติม
  • จุดเด่น
    • รองรับการเทรดหลากหลายตราสาร
    • มีโบนัสและรางวัลพิเศษช่วยสนับสนุนการเทรด

MINI Account

  • เหมาะกับ มือใหม่ที่ต้องการเริ่มต้นเทรดด้วยความเสี่ยงต่ำ หรือผู้ที่ต้องการกลับมาเทรดหลังจากหยุดพัก
  • จุดเด่น
    • ฝากเงินขั้นต่ำเพียง $5
    • รองรับการเทรดขนาด Micro-Lots
    • เหมาะสำหรับทดลองระบบการเทรดด้วย Expert Advisors (EA)

สนใจเริ่มต้นการเทรดของคุณด้วยเว็บเทรดอันทรงพลังใหม่ของ FXGT คลิกที่นี่

Thaiger

The Thaiger นำเสนอข่าวสารล่าสุดและอัปเดตจากทั่วประเทศไทย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to top button