ขุดประวัติ สุนิสา จิ้งจอกสาวแสบ ติดคุกไม่เข็ด ตุ๋นเหยื่อแต่งงานซ้ำซาก คดียาวหางว่าว
ประวัติ สุนิสา จิ้งจอกสาวแสบ คือใคร หลอกเหยื่อแต่งงานซ้ำซาก ติดคุกไม่เข็ด คดีฉ้อโกง ยาวหางว่าว วาทะเด็ด ติดคุก 6 เดือนได้เงิน 6 ล้านคุ้ม
เธอกลับมาอีกครั้ง น.ส.สุนิสา ถิ่นฐาน ชาวอำเภอภูกระดึง จังหวัดเลย ผู้ที่ได้รับฉายา “จิ้งจอกสาว” จากพฤติกรรมฉ้อโกงอย่างโชกโชน วีรกรรมหลอกลวงซ้ำแล้วซ้ำเล่า ทั้งสร้างความเสียหายให้ผู้คนหลายราย ล่าสุด มีเหยื่อร้องสายไหมต้องรอด ถูกสุนิสา หลอกแต่งงานจนสูญเงินกว่า 160,000 บาท ยังไม่รวมทรัพย์สินอีกหลายรายการ
ทีมข่าวไทยเกอร์เฉพาะกิจ วันนี้จะพาย้อนไทม์ไลน์ เปิดเผยพฤติกรรมแสบซ่าของเธอที่ถูกบันทึกไว้ในหน้าข่าวตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน
จุดเริ่มต้น หลอกสาว-คบหา ก่อนพ่อบุญธรรมต้องขายที่นาขายบ้าน
ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2557 สิบปีก่อน นายสะอิ้ง อาษากูล ชาวจังหวัดบุรีรัมย์ ได้ร้องเรียนต่อนายอำเภอภูกระดึง ว่าบุตรสาว น.ส.ภัทรานิษฐ์ หรือ “น้องอุ๊” หายตัวไปพร้อมกับแฟนสาวชื่อ น.ส.สุนิสา อายุ 25 ปี ซึ่งขณะนั้นอาศัยอยู่ในพื้นที่อำเภอภูกระดึง
นายสะอิ้งเล่าว่า ลูกสาวขอเงินไปกว่า 40,000 บาท อ้างว่าจะใช้เป็นค่าเตรียมสอบตำรวจพิสูจน์หลักฐานที่จังหวัดสกลนคร แต่แท้จริงแล้วเป็นแผนการที่ น.ส.สุนิสา อยู่เบื้องหลัง ใช้ลูกสาวของเขาเป็นเครื่องมือในการหลอกเอาเงิน
พฤติกรรมในอดีตยังเปิดเผยอีกว่า น.ส.สุนิสา เคยหลอกให้ผู้ใหญ่บ้านจัดงานแต่งงานหลอกลวง โดยอ้างว่าจะมีเศรษฐีจากกรุงเทพฯ มาแต่งงาน จนผู้ใหญ่บ้านหลงเชื่อจ่ายค่าใช้จ่ายไปก่อนถึง 60,000 บาท แต่กลับไม่มีงานแต่งเกิดขึ้นจริง ส่งผลให้พ่อแม่บุญธรรมต้องขายที่นาขายบ้านเพื่อชดใช้หนี้สินแทนลูกสาวจิ้งจอก ก่อนที่เธอจะหายตัวไปอีกครั้ง
นอกจากการหลอกลวงคนรอบข้างแล้ว ยังมีรายงานว่าเธอใช้ เฟซบุ๊กปลอม และภาพปลอมเพื่อหลอกลวงเหยื่อในโลกออนไลน์อีกด้วย สร้างความเสียหายทั้งทางทรัพย์สินและจิตใจให้กับผู้คนจำนวนมาก
คดีซ้ำซาก หลอกแต่งงาน-ยืมเงิน หลายล้านบาท
พฤติกรรมของสุนิสาไม่ได้หยุดเพียงแค่นั้น เมื่อวันที่ 11 สิงหาคม 2567 เธอถูกตำรวจอุดรธานีจับกุมในคดีฉ้อโกง โดยหลอกญาติผู้ต้องขังว่าเป็นเครือญาติกับ ผบ.เรือนจำกลางอุดรธานี สามารถช่วยให้ผู้ต้องขังพ้นโทษได้เร็วขึ้น จากคำกล่าวลวงนี้ทำให้ญาติเหยื่อหลงเชื่อ สูญเงินไปกว่า 5 ล้านบาท
นอกจากนี้ยังมีเรื่องราวที่เธอหลอก นายโอ ชายหนุ่มวัย 21 ปี จัดงานแต่งงานแบบหลอกลวง โดยค้างค่าใช้จ่ายชุดแต่งงาน ค่าจัดงานโต๊ะจีน ค่าใช้จ่ายต่าง ๆ จนเจ้าบ่าวต้องกลายเป็นพยานให้ฝ่ายผู้เสียหาย
เมื่อถูกจับกุมครั้งนี้ ด้วยข้อหา “ฉ้อโกง โดยทุจริต หรือโดยการหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือนำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหาย แก่ประชาชน”
จิ้งจอกสาวยอมรับผิดบางส่วน พร้อมกล่าวว่า ตนกู้เงินมาแต่งงาน ไม่ได้หลอกลวงสามีคนนี้ เป็นฝ่ายเปย์เสียด้วยซ้ำ “ตนอาจจะหลอกคนอื่นมาเปย์ผู้ชายคนนี้ แต่สุดท้ายพอตนโดนจับเรื่องเบี้ยวเงินจัดงานแต่ง เจ้าบ่าวกลับมาเป็นพยานให้ผู้เสียหาย”
มีรายงานว่า นางสาวสุนิสาพูดตอนหนึ่งกับเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วยว่า “หลอกคนได้ 6 ล้าน ติดคุก 6 เดือน คุ้ม”
บทเรียนไม่จดจำ: กลับมาหลอกลวง LGBTQ และแต่งงานหลอกซ้ำรอบ
ล่าสุดเมื่อวันที่ 17 ธันวาคม 2567 ชื่อของ สุนิสา ถิ่นฐาน กลับมาเป็นข่าวใหญ่ระดับประเทศอีกครั้ง เมื่อมีผู้เสียหายกลุ่ม LGBTQ เดินทางร้องเรียนเพจ สายไหมต้องรอด ว่าตนเองถูกสุนิสาหลอกให้แต่งงาน สูญเงินไปกว่า 160,000 บาท พร้อมทรัพย์สินอื่น ๆ รวมถึงโทรศัพท์ iPhone และของใช้แบรนด์เนม
คุณอาทิตย์ (นามสมมติ) หนึ่งในผู้เสียหายเล่าว่า รู้จักกับสุนิสาผ่านการไลฟ์สด ก่อนจะถูกเปย์เงินก้อนโตเพื่อสร้างความไว้วางใจ ต่อมาถูกหลอกให้จัดงานแต่งงาน แต่เมื่อถึงกำหนดวันจริงกลับไม่มีงานเกิดขึ้น ซ้ำยังถูกข่มขู่ไม่ให้ติดต่อครอบครัว จนต้องอาศัยจังหวะเหมาะหนีออกมาได้
จากการสืบสวนพบว่า น.ส.สุนิสา เคยถูกจับกุมมาแล้ว 4 ครั้ง ในคดีเดียวกัน คือ ฉ้อโกง ได้แก่
ครั้งที่ 1: 13 กันยายน 2562
ครั้งที่ 2: ปี 2563
ครั้งที่ 3: 2 มีนาคม 2564
ครั้งที่ 4: 10 สิงหาคม 2567
ปัจจุบัน สุนิสามีหมายจับติดตัวถึง 7 หมาย หลายครั้งมีพฤติการณ์อ้างความเชื่อโชคลาง หลอกลวงแต่งงานทั้งกับผู้ชายและผู้หญิง จนได้รับเงินจำนวนมหาศาล
บทสรุป ชีวิตจิ้งจอกสาว บทเรียนหลอกให้รัก
จากพฤติกรรมหลอกลวงซ้ำซากของ น.ส.สุนิสา ถิ่นฐาน ตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา ใช้กลอุบายเดิมๆ ทั้งการสร้างเรื่องแต่งงาน การอ้างบุคคลที่มีชื่อเสียง และการหลอกลวงเหยื่อผ่านความเชื่อและความสัมพันธ์ใกล้ชิด แม้จะถูกจับกุมและรับโทษหลายครั้ง แต่เธอก็ยังไม่เข็ดหลาบและกลับมาก่อเหตุซ้ำอีก
ขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจและเพจช่วยเหลือสังคมต่าง ๆ กำลังเร่งติดตามข้อมูลเพิ่มเติม พร้อมขอความร่วมมือจากประชาชน หากผู้ใดมีเบาะแสของเธอหรือเคยตกเป็นเหยื่อ สามารถแจ้งความดำเนินคดีเพื่อไม่ให้มีผู้เสียหายรายใหม่อีกต่อไป
ท้ายที่สุด เรื่องราวของ “จิ้งจอกสาว” สุนิสา ถิ่นฐาน เป็นบทเรียนสำคัญสำหรับสังคมไทย ในการไม่หลงเชื่อบุคคลที่เข้าหาด้วยคำหวาน เงินทอง หรือสร้างสถานการณ์ต่าง ๆ เพื่อให้เกิดความไว้วางใจ และที่สำคัญที่สุด การรู้เท่าทันกลโกงเหล่านี้คือเกราะป้องกันที่ดีที่สุดของทุกคน
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- นางงามอักษรย่อ อ. โดนหลอก 3.7 ล้าน มิจฉาชีพแก๊งเดียวหลอก ชาล็อต
- หมอใหญ่ รองผอ.รพ. ยังไม่รอด แก๊งคอลฯ หลอกโอนเงิน 1.5 ล้าน ทำเป็นขบวนการมืออาชีพ
- สุดเศร้า ‘วิกกี้ สุนิสา’ สูญเสียคุณพ่อวิวัฒน์ คนบันเทิงร่วมไว้อาลัย