ข่าวต่างประเทศ

งานวิจัยฮาวาร์ด เผย ช็อคโกแลตลดความเสี่ยงโรคเบาหวานได้ถึง 21%

พลิกตำราที่เคยรู้มาทั้งหมด เมื่องานวิจันของฮาวาร์ด เผยว่า ช็อคโกแล็ต ลดความเสี่ยง โรคเบาหวาน ได้มากถึง 21 เปอร์เซ็นต์

งานวิจัยใหม่จากคณะสาธารณสุขศาสตร์ฮาร์วาร์ด ที.เอช. ชาน (สหรัฐอเมริกา) ที่ศึกษาในกลุ่มตัวอย่างเกือบ 112,000 คน ได้ชี้ให้เห็นว่ามีอาหารและเครื่องดื่มบางชนิดที่ช่วยป้องกันโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ได้

Advertisements

ตามรายงานจาก Science Alert นักวิทยาศาสตร์จากฮาร์วาร์ดได้ทำการวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่ของผู้เข้าร่วมการศึกษาเกือบ 112,000 คน โดยติดตามผลเป็นระยะเวลา 25 ปี เพื่อประเมินว่าการรับประทานอาหารส่งผลต่อความเสี่ยงในการเกิดโรคเบาหวานชนิดที่ 2 อย่างไร

ในการศึกษา อาสาสมัครได้รับการสำรวจอย่างละเอียดเกี่ยวกับนิสัยการรับประทานช็อกโกแลต ซึ่งเป็นหนึ่งในขนมขบเคี้ยวที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลก และมักถูกเชื่อมโยงกับภาวะอ้วนและเบาหวาน

ผลการศึกษาที่ตีพิมพ์ในวารสารการแพทย์ BMJ พบว่าคนที่รับประทานช็อกโกแลตดำมากกว่า 5 ส่วนต่อสัปดาห์ มีความเสี่ยงต่อการเป็นเบาหวานชนิดที่ 2 ลดลง 21% เมื่อเทียบกับคนที่แทบจะไม่ทานหรือไม่เคยทานช็อกโกแลตเลย

นอกจากนี้ อาหารชนิดนี้ดูเหมือนจะช่วยให้พวกเขาควบคุมน้ำหนักและรูปร่างได้ดีกว่าคนอื่นที่มีการรับประทานอาหารในรูปแบบคล้ายกัน ไม่พบความสัมพันธ์แบบนี้ระหว่างช็อกโกแลตนมกับโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ยิ่งไปกว่านั้น คนที่ทานช็อกโกแลตนมดูเหมือนจะมีแนวโน้มเพิ่มน้ำหนักได้ง่ายกว่า

Advertisements

สรรพคุณมหัศจรรย์ของช็อกโกแลตดำมาจากสารประกอบที่มีฤทธิ์ทางชีวภาพที่เรียกว่าฟลาโวนอยด์ ซึ่งมีอยู่มากในโกโก้บริสุทธิ์ ซึ่งเป็นวัตถุดิบหลักในการผลิตช็อกโกแลตแท่ง

ในการทำช็อกโกแลต ผู้ผลิตมักจะเติมน้ำตาล นม และสารเติมแต่งอื่นๆ ลงไป ช็อกโกแลตจะถูกเรียกว่า “ดำ” เมื่อมีปริมาณโกโก้ตั้งแต่ 70-85% ขึ้นไป ขึ้นอยู่กับมุมมองของแต่ละภูมิภาค

ดังนั้น นอกจากการทานช็อกโกแลตดำแล้ว คุณยังมีทางเลือกอื่นคือการทำอาหารหรือเครื่องดื่มจากโกโก้บริสุทธิ์ แน่นอนว่าเพื่อป้องกันเบาหวานชนิดที่ 2 ช็อกโกแลตแท่งหรือโกโก้แก้วของคุณควรจะ “ดำ” มากๆ และมีน้ำตาลน้อยที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้

ตามที่คณะผู้วิจัยระบุ โดยพื้นฐานแล้วโกโก้ในช็อกโกแลตนมก็ดีต่อสุขภาพเช่นกัน แต่ประโยชน์ในการป้องกันเบาหวานและลดน้ำหนักนั้นถูกลดทอนลงโดยปริมาณน้ำตาลที่เติมเข้าไป – รวมถึงน้ำตาลในนม – ซึ่งเป็นสิ่งที่เพิ่มความเสี่ยงต่อโรคเบาหวานและโรคอ้วน

อ้างอิง : soha.vn

 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

Bas

ผู้สื่อข่าวกีฬา จบการศึกษาคณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย มีประสบการณ์เขียนข่าวกีฬากับ SMMSport กว่า 10 ปี เริ่มทำงานกับ Thaiger เมื่อ 2021 ชอบและติดตามกีฬามาตั้งแต่เด็ก โดยเฉพาะฟุตบอลทั้งบอลไทย และต่างประเทศ 5 ลีกดังของโลก พร้อมอัปเดตข่าวสารวงการฟุตบอล แบบเข้าใจง่าย ให้เพื่อนๆและแฟนบอลได้ติดตามกันทุกวัน ช่องทางติดต่อ saral@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to top button