การเงินเศรษฐกิจ

วิธีผูกบัญชีพร้อมเพย์ รับเงินดิจิทัล เฟส 2 ผู้สูงอายุคนใด มีสิทธิบ้าง

คลัง เตรียมเงินดิจิทัล 10,000 บาท ให้ผู้สูงอายุ 50 – 60 ปี ลงทะเบียนผ่านแอปฯ ทางรัฐ ยันไม่ทับซ้อนกับผู้ถือบัตรคนจน และผู้พิการ ต้องผูกบัญชีพร้อมเพย์ กับบัตรประชาชน

นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะกรรมการนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ วันที่ 19 พฤศจิกายนนี้ กระทรวงการคลังจะเสนอแนวทางการแจกเงินดิจิทัลให้กับกลุ่มผู้สูงอายุ โดยมีแนวโน้มที่จะแจกเป็นเงินสด 10,000 บาทให้กับผู้สูงอายุที่ได้ลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชันทางรัฐไว้แล้ว และผูกบัญชีพร้อมเพย์กับบัตรประชาชน เช่นเดียวกับการแจกเงินเฟสแรกของกลุ่มเปราะบาง

Advertisements

สำหรับผู้สูงอายุที่ประสงค์จะผูกบัญชีพร้อมเพย์ของธนาคารกับเลขบัตรประชาชนสามารถทำได้กับบัญชีธนาคารใดก็ได้ โดยไม่ต้องเปิดบัญชีใหม่ ยกตัวอย่างเช่น วิธีผูกพร้อมเพย์ของธนาคารกสิกรไทย มีขั้นตอนดังนี้

วิธีสมัครพร้อมเพย์ผ่านตู้อัตโนมัติ K-ATM

1. ใส่บัตร ATM กรอกรหัส ATM 6 หลักเพื่อเข้าสู่บริการ

2. กดเลือก ‘พร้อมเพย์’ และ ‘บริการพร้อมเพย์’

3. จากนั้นคลิก ‘ลงทะเบียนพร้อมเพย์’ และ เลือก ‘บัญชีออมทรัพย์’

Advertisements

4. เลือก ‘สมัครบริการด้วยหมายเลขบัตรประชาชน’

5. กรอกหมายเลขบัตรประชาชน 13 หลัก แล้วคลิก ‘หมายเลขถูกต้อง’

6. กดเลือกตกลงรับเงื่อนไขทำรายการเรียบร้อย พร้อมรับสลิปยืนยัน

นอกจากนี้ผู้สูงอายุยังสามารถดำเนินการได้ด้วยตนเองผ่านแอปพลิเคชั่น K PLUS ตามวิธีการนี้

1. เข้าสู่แอป K PLUS แล้วเลือก ‘ธุรกรรม’

2. ใส่รหัสผ่านเพื่อเข้าสู่ระบบ

3. เลื่อนไปที่เมนูบริการอื่น

4. เลือก ‘พร้อมเพย์’

5. คลิก ‘ลงทะเบียน/ แก้ไข’

6. เลือกลงทะเบียนด้วย ‘หมายเลขบัตรประชาชน’

7. เลือกบัญชีที่ต้องการลงทะเบียน และระบุอีเมลเพื่อรับแจ้งผลการลงทะเบียน จากนั้นยอมรับเงื่อนไขและกด ‘ยืนยัน’

8. ลงทะเบียนพร้อมเพย์ด้วยหมายเลขบัตรประชาชนสำเร็จ

อย่างไรก็ตาม ผู้สูงอายุต้องผูกบัญชีพร้อมเพย์กับหมายเลขบัตรประชาชน 13 หลัก เท่านั้น จึงจะสามารถรับเงินดิจิทัล 10,000 บาทได้

วิธีลงทะเบียนพร้อมเพย์ด้วยหมายเลขบัตรประชาชน
ภาพจาก : kasikornbank
ลงทะเบียนพร้อมเพย์ด้วยหมายเลขบัตรประชาชน
ภาพจาก : kasikornbank

ผู้สูงอายุคนใดมีสิทธิรับเงิน 10,000 บาทบ้าง

นายเผ่าภูมิระบุเงื่อนไขและคุณสมบัติของผู้มีสิทธิรับเงินดิจิทัล โดยต้องเป็นผู้ที่มีอายุ 50 – 60 ปีขึ้นไป โดยขึ้นอยู่กับการพิจารณาของที่ประชุม อีกทั้งต้องเคยลงทะเบียนรับเงินผ่านแอปฯ ทางรัฐ ซึ่งปิดลงทะเบียนไปเมื่อวันที่ 15 ก.ย. ที่ผ่านมา นอกจากนี้ยังต้องเป็นผู้ที่ไม่ใช่กลุ่มเปราะบาง ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ-บัตรคนจน หรือผู้พิการ ที่ได้รับเงิน 10,000 บาท เป็นที่เรียบร้อยแล้ว เพื่อไม่ให้เกิดการรับสิทธิทับซ้อน

นอกจากนี้ยังต้องไม่ใช่บุคคลที่กระทรวงการคลังระบุไว้ ได้แก่ ผู้ที่มีรายได้เกิน 70,000 บาทต่อเดือน และมีรายได้เกิน 840,000 บาท สำหรับปีภาษี 2566 รวมทั้งมีเงินฝากกับธนาคารพาณิชย์และสถาบันการเงินเฉพาะกิจเกิน 500,000 บาท ณ วันที่ 31 มีนาคม 2567 ประกอบด้วย เงินฝากกระแสรายวัน, เงินฝากออมทรัพย์, เงินฝากประจำ, บัตรเงินฝาก และใบรับฝากเงิน

รวมทั้งไม่เป็นบุคคลที่ฝ่าฝืน ถูกระงับสิทธิหรือถูกเรียกเงินคืนในโครงการของรัฐ และผู้ที่อยู่ระหว่างต้องโทษจำคุกในเรือนจำ

อย่างไรก็ตาม ขอให้ประชาชนติดตามความคืบหน้าที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจในวันที่ 19 พ.ย.นี้ หากมีข้อสรุปหรือการพิจารณาเงื่อนไขใดเพิ่มเติมจะรายงานความคืบหน้าให้ทราบอีกครั้ง

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

sukanlaya s.

นักเขียนบทความ SEO ประจำเว็บไซต์ The Thaiger จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เชี่ยวชาญงานเขียนประเภท ข่าวกระแสสังคม และบทความไลฟ์สไตล์ ไม่ว่าจะเป็น รีวิวที่เที่ยว เทรนด์แฟชั่นและความงาม พร้อมแนะนำกระแสมาแรง ทันเหตุการณ์ ช่องทางติดต่อ ying@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to top button