สื่อใหญ่ฮ่องกงรายงานข่าว บริษัทขายตรง “The iCon” ถูกแจ้งความคดีฉ้อโกงร่วมลงทุนสูญเงินกว่า 2 พันล้าน ตำรวจรวบผู้ต้องหา 18 คน รวม “หนึ่งในนั้นคือ ดาราสาว “มิน พีชญา” มีภาพออกสื่อใหญ่ชัดดังไกลข้ามประเทศ แถมยังเคยมีผลงานเล่นหนังจีนแผ่นดินใหญ่อีกด้วย
เว็บไซต์สื่อมวลชนฮ่องกง ยังเล่นข่าว บริษัท “ดิไอคอนกรุ๊ป จำกัด” (The iCon) ถูกกล่าวหาว่าดำเนินธุรกิจแชร์ลูกโซ่ หลอกลวงประชาชนให้ร่วมลงทุน โดยอ้างว่าจะได้รับผลตอบแทนสูง แต่สุดท้ายกลับสูญเงิน สร้างความเสียหายมูลค่ากว่า 2 พันล้านบาท มีผู้เสียหายเกือบ 7,000 คน ทั้งชาวไทยและต่างชาติ โดยรูปภาพ มิน พีญา หนึ่งในผู้ต้องหาดิไอคอน ก็ถูกแชร์ว่อนบนสื่อต่างประเทศด้วยเช่นกัน
เว็บไซต์ข่าวฮ่องกง เปิดเผยว่า มีผู้เสียหายรายหนึ่งถูกคนไทยที่อาศัยอยู่ในฮ่องกงชักชวน ให้ร่วมลงทุนกับ “ดิไอคอน” โดยอ้างว่าเป็นธุรกิจที่ทำกำไรได้ดี จึงหลงเชื่อ ลงทุนเปิดบิลดีลเลอร์ 2 บิล เป็นเงินรวมประมาณ 250,000 บาท และยังเคยเดินทางมาอบรมการขายออนไลน์ที่ประเทศไทย เมื่อปลายปี 2566 ที่ผ่านมา แต่ยังไม่มีการยืนยันว่าคนที่ชักชวนเหยื่อคนไทยในฮ่องกงเป็น มิน พีชญา หรือไม่
อย่างไรก็ตาม สื่อมวลชนฮ่องกงอย่าง Yazhou Zhoukan ได้เปิดเผยว่า “มิน พีชญา” เคยโกอินเตอร์ ร่วมแสดงหนังสยองขวัญจีน ฉายกว่า 5,500 โรง
ย้อนกลับไปในปี 2558 “มิน พีชญา” ได้ร่วมแสดงในภาพยนตร์แนวสยองขวัญ 3 มิติ เรื่อง “The Nursery Room 3D” ซึ่งเป็นผลงานระดับอินเตอร์เรื่องแรกของเธอ โดยประกบคู่กับ “จู่ อี้ หลง” พระเอกดาวรุ่งของจีน
ภาพยนตร์เรื่องนี้ เล่าเรื่องราวความหลอนในห้องเลี้ยงเด็กแห่งหนึ่ง เข้าฉายในโรงภาพยนตร์กว่า 5,500 โรงทั่วประเทศจีน และยังเข้าฉายในประเทศมาเลเซียอีกด้วย
สำหรับ คดีดิไอคอน เว็บไซต์ข่าว Yazhou Zhoukan เผยว่า มีหลักฐานล่าสุดเป็นคลิปเสียงหลุดออกมา ซึ่งเป็นบทสนทนาระหว่าง “บอสพอล” ซีอีโอและผู้ก่อตั้งดิไอคอนฯ กับนักการเมืองคนหนึ่ง นักการเมืองคนดังกล่าวอ้างว่า สามารถช่วยเหลือ The iCon ให้ดำเนินธุรกิจได้อย่างราบรื่น โดยไม่ถูกหน่วยงานรัฐตรวจสอบ ซึ่ง “บอสพอล” ยอมรับว่าเป็นเสียงของเขาจริง แต่ปฏิเสธว่าไม่ได้จ่ายเงินให้นักการเมืองคนดังกล่าว
นอกจากนี้ สื่อฮ่องกงยังรายงานว่า แม้แต่พระนักเทศน์ชื่อดัง ว.วชิรเมธี ก็ถูกโยงใยกับคดีนี้ด้วย หลังจากที่ท่านเคยแสดงธรรมในหัวข้อ “เคล็ดลับความร่ำรวย” ให้กับผู้บริหารและสมาชิกของ The iCon โดยมีการกล่าวถึงตัวอย่างของการสร้างความมั่งคั่งอย่างรวดเร็ว ซึ่งทำให้หลายคนตั้งข้อสงสัยถึงความสัมพันธ์ระหว่างท่านกับบริษัท
ท้ายที่สุด คดี The iCon ถือเป็นอุทาหรณ์เตือนใจ ให้ประชาชน ควรระมัดระวัง และศึกษาข้อมูลให้รอบคอบ ก่อนตัดสินใจลงทุน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การลงทุนที่ให้ผลตอบแทนสูงเกินจริง มักมีความเสี่ยง และอาจเป็นการหลอกลวง
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ด่วน เปิดเส้นทางเงิน 3 บอสดารา-ดิไอคอน กันต์ได้เยอะสุด มิน-แซม ได้น้อยกว่าที่คาด
- ซ้อแตะเบรค เปิด 5 ข้อ จี้หา “เทวดาตัวจริง” กันต์กินพะโล้ ตั้ม-สนธิ นัดดื่มปัสสาวะ หยุดก่อน
- ตอนจบ “มานะ มานี” แบบเรียนไทย บทสรุปชีวิต “ชูใจ” อวสาน น้ำตาร่วง
- ดอยอินทนนท์ แตะ 10 องศา นทท.แห่สัมผัส ไอเย็นแรกแห่งปี
