อดีตทหารเรือปวดหัวเรื้อรัง ตัดสินใจเข้าหาหมอ สุดท้ายช็อก ตรวจเจอมะเร็งสมอง หมอบอกอยู่ได้อีกแค่ปีเดียว
เรื่องดังกล่าวเป็นของ เจมส์ กรีนวู้ด วัย 42 ปี ผู้ซึ่งอาศัยอยู่ในเวลส์กับ ราเชล โจนส์ แฟนสาววัย 31 ปี กล่าวว่าเขาเริ่มมีอาการวิงเวียนศีรษะ ปวดศีรษะแบบเรื้อรัง และรู้สึกมึนๆ ในเดือนพฤษภาคมขณะกำลังคุยกับพี่เขยของเขา โดยที่เจ้าตัวได้พูดออกมาว่า “สายตาของผมเริ่มพร่ามัวนิดหน่อย และผมอยากจะนั่งพักสักครู่”
ตัวของ กรีนวู้ด ได้เผยกับ PA Life ว่า “ผมมีสุขภาพแข็งแรงมาโดยตลอด นั่นทำให้ผมคิดว่ามันผิดปกติเล็กน้อย” หลังจากนั้นไม่นาน อาการปวดหัวของเขาก็เริ่มจะเป็นในการเจ็บปวดแบบเรื้อรังและมึนๆ เจ้าตัวจึงตัดสินใจจองนัดพบแพทย์ประจำตัวไปในวันที่ 5 มิถุนายนที่ผ่านมา และได้รับแจ้งว่าอาการของเขาน่าจะเกี่ยวข้องกับภาวะขาดน้ำ และเขาอาจถึงกำหนดตรวจสายตาแล้ว เนื่องจากเขาสวมแว่นตาและงานของเขาเกี่ยวข้องกับการทำงานกับหน้าจอคอมพิวเตอร์
หลังจากทนอยู่กับอาการดังกล่าวไปได้ 2-3 วัน เขาก็พบกับอาการผิดปกติ ขณะที่อยู่ในเมืองแมนเชสเตอร์ เมื่อวันที่ 10 ิมถุนายนที่ผ่านมา โดยเจ้าตัวกล่าวว่า “ผมกำลังเดินข้ามเมืองและมันก็รู้สึกเหมือนวิญญาณออกจากร่าง ทุกอย่างรอบตัวผมช้าลง ซึ่งทำให้ผมกังวล” เขาจึงได้นัดพบแพทย์ประจำตัวของเขาในวันเดียวกัน และได้รับแจ้งว่าอาการของเขาสอดคล้องกับไมเกรน
“ผมไม่เคยมีอาการปวดหัวไมเกรนมาก่อน ดังนั้นผมจึงสงสัย เช่นเดียวกับการนัดพบแพทย์ประจำตัวครั้งแรก ผมพยายามขอให้ทำการสแกนบางอย่าง บางทีมันอาจจะเป็นสัมผัสที่ 6 หรืออะไรบางอย่าง แต่ผมรู้แค่ว่าผมรู้สึกอย่างไร และผมพยายามที่จะทำให้จิตใจสงบมากกว่าสิ่งอื่นใด”
เขากล่าวว่าเขาได้รับยาบรรเทาอาการไมเกรนและบอกให้ทำการนัดหมายอีกครั้งภายในสิ้นสัปดาห์ หากไม่ได้ผลตามที่ต้องการ
อย่างไรก็ตาม กรีนวู้ดตื่นขึ้นมาเมื่อเวลาประมาณ 5.00 น. ของวันที่ 12 มิถุนายน พร้อมด้วยอาการปวดศีรษะรุนแรง ซึ่งทำให้เขาต้องไปที่ห้องฉุกเฉิน และหลังจากยืนกรานขอให้ทำซีทีสแกน สุดท้ายก็พบก้อนเนื้อขนาดเท่าลูกวอลนัทที่กลีบขมับด้านขวาของสมองของเขา
กรีนวู้ด เข้ารับการผ่าตัดสมองเพื่อเอาเนื้องอกออกเมื่อวันที่ 28 มิถุนายน ก่อนที่ได้รับข่าวร้ายในเดือนสิงหาคมว่า ก้อนเนื้อดังกล่าวเป็นเนื้องอกในสมอง ระดับสี่ ซึ่งเป็นมะเร็งสมองที่ร้ายแรงที่สุด และมีการพยากรณ์โรคว่าจะมีชีวิตอยู่ได้อีก 12 ถึง 18 เดือน
“มีบางวันที่คุณต้องหยิกตัวเองและถามว่าสิ่งนี้เกิดขึ้นจริงหรือไม่” กรี้นวูดกล่าว
“การได้รับข่าวเป็นเรื่องที่ยากอย่างไม่น่าเชื่อ และคุณต้องเผชิญกับช่วงเวลาแห่งความตกใจในช่วงแรก แต่หลังจากนั้น คุณก็ถูกบังคับให้ดำเนินการและพยายามมองหาสิ่งดีๆ จากมัน”
หลังจากการทำเคมีบำบัดและการฉายรังสีเป็นเวลา 6 สัปดาห์ กรีนวู้ดกำลังรอเพื่อดูว่าการรักษาจะทำให้อาการของเขาดีขึ้นหรือไม่ ก่อนที่จะเริ่มการทำเคมีบำบัดที่เข้มข้นขึ้นในช่วงปลายเดือนตุลาคม
กรีนวู้ด กล่าวว่า “มันแปลกมากนะ มันทำให้รู้สึกเหมือนกับว่าเป็นอิสระยังไงก้ไม่รู้ ผมคิดว่าทุกคนอาจจะรู้สึกผิดที่มองข้ามคนอื่น ไม่ว่าจะเป็นคนที่คุณรัก เพื่อน หรือครอบครัว แต่มันทำให้ผมได้กลับมาติดต่อกับเพื่อนเก่าบางคน ผมคิดว่ามันทำให้ครอบครัวใกล้ชิดกันมากขึ้น มันเปลี่ยนมุมมองของคุณและมันอาจจะฟังดูซ้ำซาก แต่คุณกำลังพยายามลิ้มรสทุกช่วงเวลา”
กรีนวู้ดพยายามที่จะซึมซับทุกช่วงเวลาตั้งแต่เขาได้รับการวินิจฉัย โดยเขาเชื่อว่าความคิดนี้มาจากการฝึกที่เขาได้รับในหน่วยนาวิกโยธิน ซึ่งเขารับใช้เป็นเวลา 5 ปีตั้งแต่อายุ 18 ปี
เขาและเพื่อนสามคนของเขาได้วิ่งระยะทาง 32 กิโลเมตรในเส้นทาง Edale Skyline ใน Peak District ของอังกฤษเมื่อวันที่ 21 กันยายน เพื่อระดมทุนให้กับ Brain Tumour Research ซึ่งระดมทุนได้มากกว่า 27,252 ดอลลาร์ หรือราวๆ 879,000 บาทแล้วจนถึงตอนนี้ และเขาหวังว่าคนอื่น ๆ อาจได้รับประโยชน์จากความพยายามของเขาในอนาคต โดยกล่าวว่ามันเป็นรายการในสิ่งที่ต้องการทำก่อนตายของเขาที่จะระดมทุนเพื่อการกุศล
“คนที่แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการตอบสนองเชิงบวกของผมต่อข่าวร้ายครั้งล่าสุดนี้ ผมขอขอบคุณความคิดส่วนใหญ่จากสิ่งที่นาวิกโยธินได้ปลูกฝังไว้จริงๆ” กรีนวู้ด กล่าว
“การฝึกคอมมานโดได้รับการออกแบบมาเพื่อให้คุณสามารถรับมือกับทุกสิ่งที่คุณต้องเผชิญในชีวิต คุณสามารถย้อนกลับไปอ้างอิงถึงมันได้อยู่เสมอ”
“สำหรับผม มันเกี่ยวกับการพยายามที่จะเป็นปกติมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ และมีคนมากมายเชื่อว่าการคิดบวกเป็นประโยชน์อย่างมากในการต่อสู้กับโรคภัยไข้เจ็บ และผมไม่สามารถเข้าใจวิธีจัดการกับสิ่งนี้ในวิธีอื่นใดได้เลย” กรีนวู้ด กล่าวปิดท้าย
อ้างอิง : nypost.com
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- สลด เด็กชายวัย 8 ขวบถูกยิงเสียชีวิตในฟาร์ม ขณะกำลังล่ากระต่าย
- สยอง ผู้ดูแลสวนสัตว์ไนจีเรีย โดนสิงโตขย้ำคาขณะให้อาหาร เสียชีวิตคากรง
- รวบบาทหลวงเบลเยียม เล่นยา-เซ็กซ์กับเพื่อนบาทหลวง ทำคู่ขาดับ
ข่าวล่าสุด
