สุขภาพและการแพทย์

หลังมีเซ็กซ์ คู่รักญี่ปุ่นมักทำสิ่งนี้ หลายคนคิดว่าไม่ดี แต่กลับมีประโยชน์ต่อสุขภาพ

หลังมีเซ็กซ์ คู่รักญี่ปุ่นมักนอนแยกเตียง หลายคนคิดว่าไม่ดี แต่กลับมีประโยชน์ต่อสุขภาพ ลดปัญหาตื่นกลางดึก ป้องกันโรคติดต่อ มีพื้นที่ส่วนตัว เห็นคุณค่าของเวลาที่ใช้ร่วมกัน 

คนไทยอาจไม่เคยรู้และไม่เคยที่ใครทำแบบนี้ แต่คู่สมรสชาวญี่ปุ่นจำนวนมากนิยมแยกกันนอนหลังมีเพศสัมพันธ์เสร็จ เฮ้ย มันดีจริงหรือ จะกระทบต่อความสัมพันธ์หรือไม่ แต่สำหรับชาวญี่ปุ่นแล้ว การแยกกันนอนไม่ได้หมายถึงการหมางเมิน แต่กลับดีต่อสุขภาพเสียอีก

Advertisements

เมื่ออายุมากขึ้น ผู้ชายวัยกลางคนอาจมีปัญหาต่อมลูกหมากที่ทำให้ต้องตื่นปัสสาวะบ่อยในเวลากลางคืน ส่วนผู้หญิงวัยหมดประจำเดือนอาจนอนไม่หลับเนื่องจากฮอร์โมนเปลี่ยนแปลง การแยกเตียงนอนทำให้ทั้งสองฝ่ายนอนหลับได้ต่อเนื่องและมีคุณภาพการนอนที่ดีขึ้น ไม่ต้องคอยรำคาญเมื่ออีกฝ่ายลุกตื่นจากเตียง

นอกจากนี้ การแยกเตียงยังช่วยให้แต่ละคนสามารถปรับสภาพแวดล้อมการนอนตามความชอบส่วนตัว เช่น อุณหภูมิ แสงสว่าง และเสียงรบกวน

มีพื้นที่ส่วนตัวทางจิตใจ

การแยกเตียงนอนไม่ได้หมายถึงการห่างเหินทางอารมณ์ แต่สามารถเป็น “ที่พักใจ” ให้แก่ทั้งสองฝ่าย ช่วยให้แต่ละคนมีเวลาอยู่คนเดียวเมื่อจำเป็น จัดการอารมณ์ส่วนตัว หรือไตร่ตรองความคิด

การมีเตียงนอนแยกกันทำให้คู่สมรสเห็นคุณค่าของเวลาที่อยู่ด้วยกันมากขึ้น ส่งเสริมการสื่อสารและความเข้าใจที่ลึกซึ้ง การจัดการแบบนี้ทำให้ทั้งสองฝ่ายต้องแสดงความรักและห่วงใยกันอย่างจริงจังมากขึ้น ซึ่งช่วยเสริมสร้างสายสัมพันธ์ทางอารมณ์ให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น

Advertisements

ป้องกันโรคได้ดีขึ้น

โดยเฉพาะในช่วงที่มีการระบาดของโรค เช่น ไข้หวัด โควิด โรคผิวหนัง การนอนแยกเตียงช่วยลดความเสี่ยงในการแพร่เชื้อระหว่างกัน นอกจากนี้ ช่วยให้สามีภรรยาดูแลสุขภาพซึ่งกันและกันได้ดีขึ้นเมื่อเจ็บป่วย โดยไม่ต้องกังวลเรื่องการติดเชื้อมากเกินไป

ข้อควรระวังเพื่อรักษาความสัมพันธ์และสุขภาพของคู่สามีภรรยา

แยกเตียงแต่ไม่แยกใจ

แม้จะนอนแยกเตียง แต่ไม่ควรละเลยการสื่อสารและแลกเปลี่ยนความรู้สึกในชีวิตประจำวัน เพื่อรักษาความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิด สิ่งสำคัญที่สุดคือทั้งสองฝ่ายควรเคารพการเลือกของกันและกัน หาจุดสมดุลที่ทำให้ทั้งคู่รู้สึกสบายใจ

ผู้สูงอายุที่มีโรคประจำตัวไม่ควรแยกห้องนอน

เนื่องจากผู้สูงอายุมักมีโรคประจำตัว เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง การนอนแยกห้องอาจเสี่ยงต่อความปลอดภัย โดยเฉพาะในกรณีฉุกเฉินเกี่ยวกับโรคหัวใจและหลอดเลือดสมอง หากไม่มีคนอยู่ข้างๆ คอยสังเกตและดูแล อาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้
หากการนอนร่วมกันรบกวนการนอนของอีกฝ่าย แนะนำให้เลือกห้องนอนที่อยู่ติดกัน เพื่อรักษาความเป็นส่วนตัวและสะดวกในการดูแลกัน

ท้ายที่สุด ไม่ว่าจะกอดกันนอนหรือแยกเตียงนอน ไม่มีอะไรที่ถูกหรือผิดโดยสมบูรณ์ แต่เป็นทางเลือกที่เหมาะสมของทั้งสองฝ่าย ขึ้นอยู่กับความต้องการส่วนตัวและสภาพสุขภาพของแต่ละคน

การนอนหลับที่ดีคือรากฐานของชีวิตที่มีความสุข นิยามของความสุขขึ้นอยู่กับวิธีที่คู่สมรสสร้างร่วมกัน ดังนั้น จงพยายามมากขึ้น สื่อสารให้มากขึ้น และค้นหาวิธีการนอนที่ทำให้ทั้งคู่พึงพอใจร่วมกัน

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

Thaiger

The Thaiger นำเสนอข่าวสารล่าสุดและอัปเดตจากทั่วประเทศไทย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to top button