ทดสอบ ‘อายุจิต’ ไขความลับความเป็นผู้ใหญ่ที่ไม่เกี่ยวกับตัวเลข

ทำความรู้จักแบบทดสอบ อายุจิต คืออะไร ต้องได้รับการตรวจไหม ถ้ามีมากกว่าอายุจริงจะเป็นผลดีหรือเสีย
เคยสงสัยไหมว่า ทำไมบางคนถึงดู “โตกว่าวัย” ทั้งที่อายุยังน้อย หรือในทางกลับกัน บางคนอายุมากแล้ว แต่กลับมีพฤติกรรมเหมือนเด็กๆ นั่นเป็นเพราะ “อายุจิต” หรือวุฒิภาวะทางอารมณ์ของแต่ละคนนั้นแตกต่างกัน ไม่ได้ขึ้นอยู่กับอายุจริงเสมอไป
รู้จักอายุจิต สิ่งที่ซ่อนอยู่เหนือจากวันเดือนปีเกิด
อายุจิต หรือ Mental age (noun) พจนานุกรมอ็อกซ์ฟอร์ด ให้ความหมายไว้ว่า การวัดระดับสติปัญญาที่บุคคลแสดงออก ตัวอย่างเช่น คนที่มีอายุสมอง 6 ปี จะแสดงความสามารถในการทำงานในระดับเดียวกับเด็กอายุ 6 ปีโดยเฉลี่ย การวัดลักษณะนี้ส่วนใหญ่ถูกแทนที่ด้วยการเปรียบเทียบความสามารถของบุคคลในกลุ่มอายุเดียวกัน
อัลเฟรด บิเนต์ นักจิตวิทยาชาวฝรั่งเศส ผู้บุกเบิกการทดสอบวัดระดับสติปัญญา ได้นำเสนอแนวคิด “อายุจิต” หรือ Mental age ขึ้นในปี 1905 เพื่อใช้เป็นตัวชี้วัดความสามารถทางสติปัญญาของเด็ก โดยเปรียบเทียบกับระดับความสามารถของเด็กทั่วไปในวัยเดียวกัน
พจนานุกรมเมอร์เรียม ระบุว่าการวัดที่ใช้ในการทดสอบทางจิตวิทยา ซึ่งแสดงถึงระดับความสำเร็จทางสติปัญญาของบุคคล โดยเทียบกับจำนวนปีที่เด็กโดยเฉลี่ยต้องใช้ในการบรรลุระดับเดียวกัน มีการกำหนดหมายคำนี้ครั้งแรกเมื่อ ค.ศ. 1910
ความสำคัญของอายุจิต
“อายุจิต” หรือ Mental age เป็นแนวคิดที่ใช้ประเมินความสามารถทางสติปัญญาของบุคคล โดยเปรียบเทียบกับค่าเฉลี่ยของคนในวัยเดียวกัน เป็นเสมือนการวัดว่าบุคคลนั้นมีความสามารถทางความคิดเทียบเท่ากับเด็กอายุเท่าไหร่ โดยไม่คำนึงถึงอายุจริงของบุคคลนั้นๆ
คนที่มีอายุจิตสูง มักจะโดดเด่นด้วยคุณสมบัติเหล่านี้
– ควบคุมอารมณ์ได้อยู่หมัด ไม่ว่าจะเจอเรื่องหนักหนาแค่ไหน ก็รับมือได้อย่างใจเย็น ไม่วู่วาม หรือปล่อยให้อารมณ์อยู่เหนือเหตุผล
– รับผิดชอบตัวเองได้เต็มร้อย เข้าใจว่าทุกการกระทำมีผลลัพธ์ และพร้อมจะรับผิดชอบต่อสิ่งที่ตัวเองทำ ไม่โทษคนอื่น
– เข้าอกเข้าใจผู้อื่น ใส่ใจความรู้สึกของคนรอบข้าง และพร้อมที่จะช่วยเหลือหรือให้กำลังใจอย่างจริงใจ
– แก้ปัญหาได้อย่างชาญฉลาด เมื่อเจออุปสรรค ไม่ท้อถอย แต่จะใช้สติปัญญาและเหตุผลในการหาทางออก
– มีความยืดหยุ่น ปรับตัวเก่ง ไม่ว่าสถานการณ์จะพลิกผันแค่ไหน ก็พร้อมจะปรับตัวและรับมือกับความเปลี่ยนแปลง
– มีความมั่นใจในตัวเอง รู้คุณค่าของตัวเอง และไม่จำเป็นต้องพึ่งพาการยอมรับจากคนอื่นมากเกินไป
อายุจิตไม่ใช่สิ่งที่ติดตัวมาแต่กำเนิด แต่เราสามารถพัฒนาได้ตลอดชีวิต ผ่านประสบการณ์ การเรียนรู้ และการฝึกฝนตัวเองอย่างสม่ำเสมอ การมีอายุจิตที่สูง ไม่เพียงแต่จะช่วยให้เรามีความสัมพันธ์ที่ดีกับคนรอบข้าง แต่ยังส่งผลต่อสุขภาพจิตที่ดี และนำไปสู่ความสำเร็จในชีวิตได้อีกด้วย
ความสำคัญของการวัดอายุจิต
มีตัวอย่างในกรณีของ เด็กหญิงวัย 8 ขวบที่สามารถแก้โจทย์ปัญหาได้เทียบเท่าเด็กวัย 10 ขวบ นั่นหมายความว่า “อายุจิต” ของเธอนั้นมากอายุจริงถึง 2 ปี! อายุจิต หรือ Mental Age คือตัวชี้วัดที่ช่วยให้เราเข้าใจถึงระดับความสามารถทางสติปัญญาของเด็ก เมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยของเด็กในวัยเดียวกัน
การวัดอายุจิตมีประโยชน์มากมาย ดังนี้
– ประเมินพัฒนาการทางสติปัญญา ช่วยให้พ่อแม่และครูเข้าใจถึงศักยภาพทางความคิดของเด็กแต่ละคน เพื่อส่งเสริมและพัฒนาให้เต็มศักยภาพ
– วินิจฉัยความบกพร่องหรือความผิดปกติ หากอายุจิตน้อยกว่าอายุจริงอย่างมีนัยสำคัญ อาจเป็นสัญญาณของความบกพร่องทางสติปัญญาหรือความผิดปกติทางพัฒนาการที่ต้องได้รับการดูแลเป็นพิเศษ
– วางแผนการศึกษาและการฝึกอบรม อายุจิตช่วยให้เราออกแบบการเรียนการสอนและกิจกรรมที่เหมาะสมกับระดับความสามารถของเด็กแต่ละคน เพื่อให้พวกเขาเรียนรู้อย่างมีความสุขและมีประสิทธิภาพ
– คัดเลือกเด็กเข้าโรงเรียนหรือโปรแกรมพิเศษ สำหรับโรงเรียนหรือโปรแกรมที่มีการคัดเลือกนักเรียน การวัดอายุจิตสามารถเป็นหนึ่งในเกณฑ์ที่ช่วยคัดเลือกเด็กที่มีความพร้อมและศักยภาพเหมาะสม
อายุจิตจึงเปรียบเสมือนกุญแจสำคัญที่ไขประตูสู่โลกความคิดของเด็ก ช่วยให้เราเข้าใจศักยภาพและความต้องการของพวกเขา เพื่อส่งเสริมให้เติบโตอย่างมีคุณภาพและมีความสุข
ขั้นตอนการวัดอายุจิต
การวัดอายุจิตสามารถทำได้หลายวิธี แต่โดยหลักๆ แล้วจะใช้การทดสอบทางจิตวิทยาที่ออกแบบมาเพื่อประเมินความสามารถทางสติปัญญาในด้านต่างๆ เช่น ความจำ การใช้เหตุผล การแก้ปัญหา และความเข้าใจภาษา
ขั้นตอนทั่วไปในการวัดอายุจิต
– เลือกแบบทดสอบที่เหมาะสม เนื่องจากมีแบบทดสอบวัดอายุจิตหลากหลายแบบ แต่ละแบบอาจเน้นวัดความสามารถในด้านที่ต่างกัน ควรเลือกแบบทดสอบที่เหมาะสมกับวัยและวัตถุประสงค์ของการวัด
– เข้ารับการทดสอบ ผู้เข้ารับการทดสอบจะต้องทำแบบทดสอบตามคำแนะนำ โดยอาจมีผู้เชี่ยวชาญคอยดูแลและให้คำแนะนำ
– ประเมินผลคะแนน คะแนนที่ได้จากแบบทดสอบจะถูกนำไปเปรียบเทียบกับค่าเฉลี่ยของกลุ่มบุคคลที่มีอายุเท่ากัน เพื่อหาอายุจิต
– ตีความผล ผู้เชี่ยวชาญจะตีความผลการทดสอบและให้คำแนะนำเกี่ยวกับพัฒนาการทางสติปัญญาของผู้เข้ารับการทดสอบ
ตัวอย่างแบบทดสอบที่ใช้ในการวัดอายุจิต
– Stanford-Binet Intelligence Scale เป็นหนึ่งในแบบทดสอบวัดระดับสติปัญญาที่เก่าแก่และได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวาง
– Wechsler Intelligence Scale for Children (WISC) เป็นแบบทดสอบที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในการวัดระดับสติปัญญาของเด็ก
– Raven’s Progressive Matrices เป็นแบบทดสอบที่ไม่ใช้ภาษา วัดความสามารถในการคิดเชิงนามธรรมและแก้ปัญหา
แม้การวัดอายุจิตจะเป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์ แต่ก็มีข้อควรระวังที่เราไม่ควรมองข้าม คือ การวัดและตีความอายุจิตควรกระทำโดยผู้เชี่ยวชาญที่มีความรู้และประสบการณ์ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ถูกต้องและเป็นประโยชน์
อายุจิตเป็นเพียง “ภาพสะท้อน” ของความสามารถทางสติปัญญาในช่วงเวลาหนึ่ง ไม่ใช่ตัวตัดสินความสามารถหรือศักยภาพโดยรวมของบุคคล อายุจิตสามารถเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ขึ้นอยู่กับการเรียนรู้และประสบการณ์ที่แต่ละคนได้รับ ดังนั้น อย่าให้ตัวเลขมาจำกัดศักยภาพของเรา
จำไว้ว่าทุกคนมีเส้นทางการเติบโตที่แตกต่างกัน การวัดอายุจิตเป็นเพียงเครื่องมือหนึ่งที่ช่วยให้เราเข้าใจตัวเองและผู้อื่นมากขึ้น แต่ไม่ใช่ตัวตัดสินคุณค่าของใคร
อ้างอิง: britannica.com , oxfordreference.com
อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง
- ข้อดี “นอนแก้ผ้า” มีประโยชน์ต่อสุขภาพ มากกว่าแค่เรื่องสบายตัว
- สุขภาพผู้หญิง เปลี่ยนไปอย่างไรบ้าง เมื่อวัยเข้า 30 ปี พร้อมวิธีดูแลตัวเองให้สดใสแข็งแรง