คนแห่ลบแอปทางรัฐ ผวา ข้อมูลลงทะเบียนเงินดิจิทัล 25 ล้านคน หลุดหาพี่มิจฯ ฉ่ำ
เงินดิจิทัล 10000 ยังได้อยู่ไหม ชาวบ้านแห่ลบแอปทางรัฐ วุ่น เหตุผวาข้อมูลลงทะเบียน 25 ล้านคน หลุดถึงมือมิจฉาชีพ โลกโซเชียลวิจารณ์ฉ่ำ วงในมาเองบอกทักษิณ สั่งยกเลิก
กำลังเป็นกระแสวุ่นวายพอสมวคร กับความไม่แน่นอนของ โครงการแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท โดยหลังจากผลคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งทำให้ เศรษฐา ทวีสิน ต้องพ้นสภาพสิ้นสุดการดำรงตำแหน่งในฐานะนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ลงไปเป็นที่เรียบร้อย ก็ยิ่งทำให้ประชาชนจำนวนมากที่ลงทะเบียน ผ่านแอปพลิเคชั่น “ทางรัฐ” 25 ล้านคน เกิดความกังวลกับนโยบายเรือธงดังกล่าวอย่างเลี่ยงไม่ได้
ล่าสุด บนเทรนด์เอ็กซ์ ยังคงเปิดประเด็นวิพากษ์วิจารณ์ถึงอนาคตเงินหมื่นแบบดิจิทัลกันต่อเนื่อง ผู้ใช้เอ็กซ์รายหนึ่งทวิตเนื้อหาทำนองพูดถึงบทสรุป #ดิจิทัลวอลเล็ต อาจไม่ได้ไปต่อใช่หรือไม่ เพราะฟังจากอดีตนายกรัฐมนตรี เศรษฐา ชี้แจงแล้ว หน้าตาท่านหน้ายกดูจะผิดหวังมาก แต่จริงๆ ไม่ควรจะมีองค์กรอิสระ มาสั่งยุบพรรคเลย ตัดสิทธิ์ทางการเมือง
บทสรุป #ดิจิทัลวอลเล็ต “อาจไม่ได้ไปต่อใช่หรือไม่” ฟังจากอดีตนายกรัฐมนตรี เศรษฐา แจงแล้ว
หน้าตาท่านหน้ายกดูจะผิดหวังมากนะคะ แต่จริงๆแล้วไม่ควรที่จะมีองค์กรอิสระมาสั่งยุบพรรคเลย ตัดสิทธิ์ทางการเมือง#ศาลรัฐธรรมนูญ #นายกรัฐมนตรี #เศรษฐาทวีสิน #ม112 #พิชิตชื่นบาน #ทุนจีน #เงินดิจิทัล pic.twitter.com/YTFLVD1Cld— Chompoo (@chompoo121912) August 14, 2024
นอกจากนี้ยังมีบางส่วนแจ้งเตือนถึงข้อมูลของผู้ที่ลงทเบียนกว่า 25 ล้านรายชื่อผ่านแอปพลิเคชั่นทางรัฐก่อนหน้านี้ ก็อาจสุ่มเสี่ยงที่ข้อมูลจะรั่วไหลหรือหลุดไปถึงมือของบรรดามิจฉาชีพได้
ทั้งนี้ ปกรณ์ นิลประพันธ์ เลขาคณะกรรมการกฤษฎีกา กล่าวที่ทำเนียบรัฐบาลวันนี้ (15 ส.ค.) ถึงความเป็นไปได้ที่จะ “ยกเลิก” โครงการเติมเงิน 10,000 บาท หากอ้างโดยหลักการแล้ว ถือว่าควรหยุดลง และไม่จำเป็นต้องกลับไปถามความเห็นจากคณะกรรมการกฤษฎีกา
ขณะที่ จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รักษาการรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวถึง กระแสที่มีการอ้าง นายทักษิณ ชินวัตร สั่งยกเลิกโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่านดิจิทัลวอลเลต โดยระบุตนเองไม่ทราบถึงข่าวลือดังกล่าวว่ามาจากไหน แต่หากจะมีการเปลี่ยนแปลงเรื่องโครงการ จะต้องเป็นมติของ ครม. และต้องรอการฟอร์มรัฐบาลใหม่และการแถลงนโยบาย ว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงหรือไม่อย่างไรต่อไป.
อ่านข่าวเพิ่มเติม