รวมภาพยนตร์บู๊ระห่ำ กับ 10 ผลงานขึ้นหิ้งจากฝั่งฮอลลีวู้ดโดนใจสำหรับหนุ่ม ๆ ที่กำลังมองหาหนังแอ็คชั่นสุดมันส์มาเติมเต็มความสนุกยามว่าง
เมื่อพูดถึงหนังแอ็คชั่น ถือเป็นหนึ่งในความบันเทิงที่ตอบโจทย์ความสนุกแบบสุดขีดของหนุ่มๆ หลายคน กับฉากบู๊ระห่ำสุดอลังการ พล็อตเรื่องที่เข้มข้น และตัวละครที่เท่ห์จนต้องร้องว้าว วันนี้ The Thaiger ขอพาทุกท่านไปตะลุยโลกของหนังแอ็คชั่นกับ 10 ผลงานที่การันตีความมันส์แบบไม่มีกั๊ก พร้อมแล้วไปลุยกันเลย!
1. Rambo
เชื่อว่าหลายคนคงคุ้นเคยกับภาพของชายที่แบกปืนกลสาดกระสุนนี้คือภาพจำของ Rambo โดยเรื่องราวของจอห์น แรมโบ้ ทหารผ่านศึกเวียดนามที่กลายเป็นหนึ่งในตำนานของวงการภาพยนตร์แอ็คชั่น ถูกดัดแปลงมาจากนวนิยายเรื่อง “First Blood” ของ David Morrell ที่ตีพิมพ์ในปี 1972 ก่อนจะถูกนำมาสร้างเป็นภาพยนตร์ในปี 1982 นำแสดงโดยซิลเวสเตอร์ สตอลโลน ด้วยซีนแอ็คชั่นสุดระห่ำ ไม่ว่าจะเป็นการต่อสู้มือเปล่า การใช้ปืน หรือใช้ระเบิด โดย Rambo ยังต่อยอดความสำเร็จกับการมีภาคต่ออกมาถึง 5 ภาค ตั้งแต่ปี 1972 – 2019 ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างสูง ปัจจุบันเรื่องราวของ แรมโบ้ ได้จบลงแล้วในภาคที่ 5 ในชื่อ Rambo last blood แต่ตัวละคร Rambo ก็ยังคงเป็นหนึ่งในไอคอนของวงการภาพยนตร์แอ็คชั่นฝั่งฮอลลีวู้ดที่ทุกคนจนจำ
- คะแนนจากเว็บไซต์ IMDb อยู่ที่ 7.7
2. Die Hard
เรื่องราวของนายตำรวจ “จอห์น แมคเคลน” ที่ได้สมญานาม คนอึดตายยาก ไม่ได้มาเพราะโชคช่วย ที่นำแสดงโดยบรูซ วิลลิสที่เปลี่ยนให้เขาจากดาราทีวี กลายเป็น Action Star คนใหม่ของวงการเพียงชั่วข้ามคืน รวมถึงกลายเป็นอีกหนึ่งตัวละครสายบู๊ของวงการฮอลลีวู้ด พร้อมขนแฟรนไชส์ภาคต่อออกมาอีกถึง 5 ภาค และสิ่งที่พิเศษกว่าหนังแอ็คชั่นเรื่องอื่นๆคือ ดายอาร์ด กลายเป็นภาพยนตร์แอ็คชั่นไม่กีเรื่องที่ได้รับความนิยมสูงสุดสำหรับช่วงเทศกาลคริสต์มาส อาจจะเพราะเรื่องราวทั้งหมดเกิดขึ้นในช่วงวันหยุดคริสต์มาสนั่นเอง โดยในปัจจุบัน “บรูซ วิลลิส” ต้องเกษียณจากงานบันเทิงฮอลลีวูดเพื่อรักษา “โรค Aphasia” ที่เกี่ยวกับการสูญเสียความสามารถด้านการสื่อสาร และยังคงรับการรักษาอยู่ในปัจจุบัน
- คะแนนจากเว็บไซต์ IMDb อยู่ที่ 8.2
3. Terminator
อีกผลงานระดับตำนานที่หลายคนรู้จักในชื่อ คนเหล็ก ภาพยนตร์แอ็คชั่นผสมเรื่องราวแนวไซไฟเข้ากันได้อย่างกลมกล่อมโดย Terminator เป็นภาพยนตร์ภาคแรกที่นำแสดงโดยอาร์โนลด์ ชวาร์เซเน็กเกอร์ในบทบาทของเทอร์มิเนเตอร์ T-800 หุ่นยนต์สังหารที่ถูกส่งย้อนเวลามาเพื่อฆ่าซาราห์ คอนเนอร์ แม่ของจอห์น คอนเนอร์ ผู้นำกองกำลังต่อต้านในอนาคต เรื่องนี้ถือว่าเป็นอีกผลงานที่สร้างชื่อเสียงให้กับ อาร์โนลด์ ชวาร์เซเน็กเกอร์ ในวงการหนังแอ็คชั่นกับบทบาทหุ่น T-800 จนเป็นภาพจำ โดยตอนนี้เรื่องราวของคนเหล็กได้ถูกพัฒนาต่อยอดเรื่องราวสู่อนิเมะจำนวน 8 ตอนสำหรับแพลตฟอร์มเน็ตฟลิก ที่จะฉายในวันที่ 29 สิงหาคมนี้
- คะแนนจากเว็บไซต์ IMDb อยู่ที่ 8.1
4. 007 james bond
ถ้าพูดถึงหนังแอ็คชั่นแนวสายลับแล้วไม่พูดถึงเรื่องนี้คงเป็นอะไรที่ผิดมหันต์ กับตัวละครสายลับเจ้าเสน่ห์ระดับตำนาน กับโค้ดลับ 007 หรือที่แฟนหนังรู้จักเขาในชื่อ เจมส์ บอนด์ เรื่องราวของเขาถือกำเนิดขึ้นจากปลายปากกาของไอแซค แอซิมอฟ ผู้เขียนนวนิยายสายลับชื่อดัง ต่อมา อียน เฟลมมิง ได้นำตัวละครนี้มาขยายความและตีพิมพ์เป็นนวนิยายชุดเจมส์ บอนด์ ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างสูง จนถูกนำมาสร้างเป็นภาพยนตร์ในที่สุด โดยมีนักแสดงมากฝีมือหลายคนสวมบทบาทเป็นเจมส์ บอนด์ มากมาย อาทิ ฌอน คอนเนอรี, ร็อดเจอร์ มัวร์, เพียร์ซ บรอสแนน และ แดเนียล เคร็ก และเป็นแฟรนไชส์ภาพยนตร์ที่อยู่มายาวนานพร้อมกับการผลัดเปลี่ยนนักแสดงผู้มาสวมบทบาทนี้อยู่เรื่อย ๆ และปรับเปลี่ยนเนื้อหาในเข้ากับยุคสมัยใหม่อยู่ตลอดโดยตอนนี้หลังจากแดเนียล เคร็ก ผู้รับบทเป็น 007 คนล่าสุด ตอนนี้ก็เป็นช่วงกำลังค้นหานักแสดงคนใหม่เพื่อมารับบทบาทนี้แทน ซึ่งก็คงต้องมารอลุ้นว่าในเวอร์ชั่นใหม่ เราจะได้นักแสดงท่านใดมารับบัทสายลับเจ้าเสน่ห์คนนี้
- คะแนนจากเว็บไซต์ IMDb อยู่ที่ 8.1
4. Bourne
ขอแนะนำอีกผลงานสายลับอีกเรื่องที่คอหนังแอ็คชั่นชื่นชอบไม่แฟนกันกับ เจสัน บอร์น โดยเรื่องนี้ถูกดัดแปลงนวนิยายของโรเบิร์ต ลัดลัม ที่ตีพิมพ์ในปี 1980 ก่อนจะถูกนำมาสร้างเป็นภาพยนตร์ในปี 2002 นำแสดงโดยแมตต์ เดมอน ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างสูง และทำให้ตัวละครเจสัน บอร์นกลายเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก ด้วยเนื้อหาปมของตัวละครที่เป็นชายผู้สูญเสียความทรงจำ แต่กลับมีความสามารถในการต่อสู้และเอาตัวรอดได้เป็นอย่างดี ด้วยความเป็นสายลับสุดโหดกับเนื้อหาการตามล่าหาความทรงจำและทำให้เรื่องนี้กลายเป็นไอคอนของภาพยนตร์สายลับในยุคปัจจุบัน
- คะแนนจากเว็บไซต์ IMDb อยู่ที่ 7.7
5. Taken
Taken หรือชื่อไทยว่า “สู้ไม่รู้จักตาย” เป็นภาพยนตร์แอ็คชั่น ที่ได้ ลุค เบซง ผู้กำกับชื่อดังชาวฝรั่งเศสมารับหน้าที่เขียนบท กำกับโดย ปิแอร์ โมเรล พร้อมพระเอกรุ่นใหญ่อย่าง เลียม นีสัน มานำแสดง ที่สร้างปรากฏการณ์ความมันส์ไปทั่วโลกพร้อมการสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับภาพยนตร์แนวแอ็คชั่นในยุค 2000 เล่าเรื่องราวของ ไบรอัน มิลส์ อดีตเจ้าหน้าที่ซีไอเอที่ต้องเผชิญกับเหตุการณ์ที่เลวร้ายที่สุดในชีวิต เมื่อลูกสาวของเขาถูกกลุ่มขบวนการค้ามนุษย์ลักพาตัวไปที่ปารีส ด้วยทักษะและประสบการณ์ที่สั่งสมมา ไบรอันจึงตัดสินใจบุกเข้าไปในโลกใต้ดินของปารีสเพื่อตามหาลูกสาวของเขากลับมาให้ได้ โดยไม่สนใจกฎหมายหรือความปลอดภัยของตัวเอง โดยมีประโยคจำสุดคลาสิคอย่าง“ฉันไม่รู้ว่าแกเป็นใคร แต่ถ้าไม่ปล่อยลูกสาวฉัน ฉันจะตามหาแก ฉันจะเจอแก และฉันจะฆ่าแก” กับซีนภาพจำที่ถูกเอาล้อเล่นเป็นมีมกันอย่งแพร่หลาย
- คะแนนจากเว็บไซต์ IMDb อยู่ที่ 7.7
6. The Equalizer
ผลงานแอ็คชั่น ที่หยิบเอาซีรีย์ในยุค 80 มาเล่าเรื่องราวของ โรเบิร์ต แม็คคอล” ชายปริศนาที่มีประวัติเบื้องหลังลึกลับที่ความจริงแล้วเขาคืออดีตหน่วยคอมมาโดฝีมือพระกาฬ ที่ได้เข้าไปพัวพันกับแก๊งค์มาเฟียข้ามชาติ เพื่อช่วยเหลือเด็กสาวโสเภณีให้รอดพ้นจากการทารุณ จนเป็นเหตุให้เกิดการต่อสู้ที่ไม่เพียงต้องอาศัยไหวพริบเหนือชั้น แต่ยังต้องอาศัยความเก๋าที่เขาเคยสะสมมาในอดีต เพื่อปกป้องคุ้มครองเหล่าผู้บริสุทธิ์ทั้งหลายให้รอดพ้นจากความอยุติธรรมของคนเลว เรื่องนี้โดดเด่นให้แงของตัวละครที่สามารถประยุกต์อุปกรณ์ทั่วไปให้กลายเป็นอาวุธสุดอันตรายในการรับมือกับอาชญากร แถมซีนจับเวลาว่าจะใช้ระยะเวลากี่วินาทีจัดการคู่ต่อสู้ก็เป็นซีนขายในเรื่องนี้สุดๆ
- คะแนนจากเว็บไซต์ IMDb อยู่ที่ 7.1
7. John Wick
ถ้าทำเพลลิสต์หนังแอ็คชั่นแล้วขาดภาพยนตร์เรื่องนี้ไปคงเป็นอะไรที่ผิดบาปสุดๆ กับผลงานแอ็คชั่นที่ถูกยกขึ้นหิ้งให้เป็นผลงานบู๊ที่ดีที่สุดในยุคนี้ กับ จอห์นวิค ผลงานแอ็คชั่นคืนฟอร์มให้พระเอกระดับตำนาน คีอานู รีฟส์ ขึ้นแท่นพระเอกสายบู๊ กับเรื่องราวการล่าล้างแค้นที่มีจุดเริ่มต้นจากการโดนขโมยรถและฆ่าหมาแสนรัก ทำให้อดีตนักฆ่าสายโหดที่ล้างมือจากวงการต้องกลับมาทวงคืนกับแก๊งค์ที่ฝากรอยแผลไว้กับเขา พลอตเนื้อหาที่เรียบง่าย เข้าใจง่ายในภาคแรกแต่หลังประสบความสำเร็จเป็นพลุแตกพร้อมต่อยอดขยายเรื่องราวไปไกลจนถึงจักรวาลวงการนักฆ่า แถมการดีไซส์คิวบู๊ที่แปลกใหม่ในทุกภาค นี้จึงเป็นหนังที่โดนใจชายสายบู๊ระห่ำ และถูกยกให้เป็นตัวละครไอคอนในวงการหนังแอ็คชั่นยุคใหม่อีกหนึ่งตัว และตอนนี้ก็มีการขยายเรื่องราวของจอห์น วิค เป็นฉบับภาคแยกอย่าง “Ballerina” ที่กำหนดฉายมิถุนายน 2024 และ ซีรีส์อย่าง ‘The Continental’
- คะแนนจากเว็บไซต์ IMDb อยู่ที่ 7.4
8. Bad Boys
ฝั่งหนังแอ็คชั่นเกี่ยวกับตำรวจก็ต้องขอยกให้เรื่องนี้ Bad Boys คู่หูขวางนรก เรื่องราวคู่หูตำรวจสายเดือดบ้าระห่ำระดับพระกาฬ มาร์คัส เบอร์เน็ตต์ และคู่หูของมาร์คัส ไมค์ เลาว์รี่ ต้องร่วมมือกันคลี่คลายคดีอาชญากรรมและยาเสพติดในไมอามี่ โดยเป็นผลงานลูกรักของ กำกับผู้กำกับสายระเบิดภูเขาเผากระท่อมแห่งวงการฮอลลีวู้ด ไมเคิล เบย์ และด้วยเคมีการแสดงของวิลล์ สมิธ และมาร์ติน ลอว์เรนซ์ ที่ลงตัวมากๆ ไม่ว่าจะเป็นบทบู๊หรือขายขำ ก็ทำออกมาโดนใจ จนกลายเป็นอีกผลงานขึ้นหิ้งที่ถูกพุดถึงอยู่เสมอ โดยในภาคล่าสุดอย่าง BAD BOYS: RIDE OR DIE ถือว่าเป็นภาคต่อที่ถูกสร้างเร็วที่สุดในแฟรนไชส์นี้จากปกติกว่าจะใช้เวลาสร้างก็เว้นระยะเป็น 10 ปี ทั้งที่มีกระแสดราม่าของ วิลล์ สมิธ บนเวลาประกาศรางวัลออสการ์
- คะแนนจากเว็บไซต์ IMDb อยู่ที่ 6.6
9. fast and furious
สำหรับหนังแอ็คชั่นเกี่ยวกับรถสักเรื่องยังไงทุกคนก็ต้องนึกถึงแฟรนไชส์นี้เป็นอันดับแรกแน่นอน กับเรื่องราวของครอบครัวแก๊งค์รถซิ่งจากจุดเริ่มต้นของการเป็นกลุ่มขโมยรถจนเดินทางมาถึงกลายมาเป็นกลุ่มพิทักษ์โลกจากเหล่าอาชกรรมหลากหลายรูปแบบ ด้วยลีลาซิ่งสุดมันและออกแบบดีไซส์ซีนแอ็คชั่นที่ความเวอร์วัง จากการใช้รถแบบเหนือจินตนาการ เรื่องนี้จึงเป็นอีกผลงานที่ไม่จำเป็นต้องหาเหตุผล แค่ดูเอามันก็สะใจแล้ว โดยเรื่องราวของครอบครัวรถซิ่งของ โดมินิค โทเรตโต้ ยังคงสานต่อเรื่องราว โดยข่าวว่าแฟรนไชส์นี้จะจบลงที่ภาค 11 หลังจากภาค Fast X หรือภาค 10 ถือว่าเป็นแฟรนไชส์ภาพยนตร์แอ็คชั่นที่อยู่มายาวนานที่สุดในวงการฮอลลีวู้เลยก้ว่าได้
- คะแนนจากเว็บไซต์ IMDb อยู่ที่ 6.8
10. Mad Max
ผลงาน post-apocalyptic หรือเรื่องราวโลกหลังหายนะต่างๆ ที่เต็มไปด้วยความโหดร้าย ทารุณและผู้คนที่บ้าคลั่ง นี้ถือเป็นวัตุถดิบที่ดีสำหรับการจะนำเสนอเป็นภาพยนตร์แอ็คชั่นบ้าดีเดือด ที่เล่นได้เต็มสูบแบบที่ไม่ต้องสนใจกฏเกณฑ์ โดยจะนำเสนอผ่านตัวละคร แม็กซ์ ร็อกแทนสกี ผู้ต้องต่อสู้เพื่อเอาชีวิตรอดในโลกอันโหดร้ายนี้ หนึ่งในจุดเด่นของ Mad Max คือการสร้างสรรค์โลกหลังหายนะที่น่าตื่นตาตื่นใจ ของโลกที่แห้งแล้ง เต็มไปด้วยทรายและซากรถยนต์ ภาพลักษณ์ของตัวละครและยานพาหนะที่แปลกตาสะดุดตา ทำให้ผู้ชมรู้สึกเหมือนได้เข้าไปสัมผัสประสบการณ์โลกอนาคตที่แตกต่างอย่างสิ้นเชิง
อีกความพิเศษของภาพยนตร์เรื่องนี้คือการที่ถ่ายทำทุกอย่างแบบที่ใช้ซีจีน้อยที่สุดรวมถึงฉากสตันท์ที่นักแสดงเล่นกันจริงๆ แต่ด้วยความที่รายได้จากภาคล่าสุด Furiosa: A Mad Max Saga ที่เข้าฉายไป กลายเป็นหนังเจ๊ง จกาทุนสร้างที่สูงถึง 168 ล้านแต่รายได้ไม่เข้าเป้า งานภาคต่อที่กำลังมีโปรเจคอย่าง Mad Max: The Wasteland ก็ดูมีความเป็นไปได้ยากว่าจะถูกพัฒนาสร้างออกมา
- คะแนนจากเว็บไซต์ IMDb อยู่ที่ 8.1
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- รีวิว Twisters ทวิสเตอร์ หนังภัยพิบัติที่ชูเรื่องงานภาพ แต่บทสุดเบาบาง
- รีวิว Bad Boys: Ride or Die หนังแอ็คชั่นสุดมันส์ ที่โคตรมีเสน่ห์ในแบบของตัวเอง
- รีวิว Furiosa: A Mad Max Saga ไม่เดือดเท่าภาคก่อน แต่ยังน่าประทับใจ
อ้างอิง : imdb.com