วิกฤตฝนตก ถล่มถ้ำน้ำทะลุ เขื่อนรัชชประภา นักท่องเที่ยวระทึก ช่วย 23 ชีวิตปลอดภัย ไกด์สูญหาย 1 ราย
เมื่อช่วงเย็นวันนี้ นักท่องเที่ยวและไกด์นำเที่ยวจำนวน 24 คน ติดอยู่ในถ้ำน้ำทะลุ บริเวณท้ายเขื่อนรัชชประภา จังหวัดสุราษฎร์ธานี หลังจากเกิดฝนตกหนักและน้ำป่าไหลทะลักเข้าถ้ำอย่างกะทันหัน
เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเขาสกได้รับแจ้งเหตุจากไกด์นำเที่ยวเวลา 19.00 น. และได้ระดมกำลังเข้าช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน ล่าสุดสามารถช่วยเหลือนักท่องเที่ยวทั้ง 22 คน และไกด์นำเที่ยว 1 คน ออกมาได้อย่างปลอดภัย ทุกคนไม่ได้รับบาดเจ็บร้ายแรง
อย่างไรก็ตาม ไกด์นำเที่ยวอีก 1 คน ยังคงสูญหาย เจ้าหน้าที่กำลังเร่งค้นหาอย่างเต็มกำลัง โดยหวังว่าจะพบตัวโดยเร็วที่สุด
ถ้ำน้ำทะลุเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในสุราษฎร์ธานี แต่ก็เคยเกิดเหตุการณ์น้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมถ้ำมาแล้วในอดีต ครั้งหนึ่งเคยมีนักท่องเที่ยวเสียชีวิตถึง 7 ราย
ย้อนรอย โศกนาฏกรรมถ้ำน้ำลอด เหตุการณ์น้ำป่าคร่า 7 ชีวิต
ย้อนกลับไป 14 ตุลาคม 2550 ค่ำคืนแห่งความสูญเสียได้เริ่มต้นขึ้น ณ อุทยานแห่งชาติเขาสก จังหวัดสุราษฎร์ธานี เมื่อสายฝนที่โหมกระหน่ำเทลงมาไม่หยุดหย่อน ได้กลายเป็นมวลน้ำป่าที่หลั่งไหลทะลักเข้าท่วมถ้ำน้ำลอด แหล่งท่องเที่ยวอันงดงามภายในอุทยานฯ
เหตุการณ์ไม่คาดฝันนี้ได้พรากชีวิตนักท่องเที่ยวชาวเยอรมันไปถึง 5 ราย พร้อมด้วยไกด์ชาวไทยอีก 2 ราย ขณะกำลังสำรวจความงดงามภายในถ้ำ ท่ามกลางความมืดมิดและกระแสน้ำที่เชี่ยวกราก เหลือเพียงความเงียบงันและความโศกเศร้าไว้เบื้องหลัง
ทันทีที่ได้รับแจ้งเหตุ เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยจากทุกสารทิศได้ระดมกำลังเข้าช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน แต่ด้วยสภาพภูมิประเทศที่ทุรกันดาร การเดินทางเข้าถึงจุดเกิดเหตุเป็นไปอย่างยากลำบาก ต้องใช้ทั้งเรือและเท้าในการฝ่าฟันอุปสรรค
ความพยายามในการค้นหาผู้สูญหายดำเนินไปตลอดทั้งคืน ท่ามกลางความหวังและความสิ้นหวังที่ผสมปนเปกัน จนกระทั่งเวลา 03.00 น. เจ้าหน้าที่ก็สามารถนำร่างผู้เสียชีวิตทั้ง 7 ราย ขึ้นมาจากผืนน้ำได้สำเร็จ
นายไชทัช บุญภูพันธ์ตันติ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาสก ผู้เป็นผู้นำในการค้นหาครั้งนี้ ได้เปิดเผยว่า ฝนที่ตกหนักเพียงชั่วโมงเดียวได้นำมาซึ่งโศกนาฏกรรมครั้งใหญ่ แม้การค้นหาจะยุติลงในเวลา 02.00 น. แต่ความทรงจำของเหตุการณ์นี้จะยังคงอยู่ตลอดไป
เหตุการณ์น้ำป่าถ้ำน้ำลอดครั้งนี้ นับเป็นบทเรียนราคาแพงที่เตือนใจให้เราตระหนักถึงพลังอันยิ่งใหญ่ของธรรมชาติ และความสำคัญของการเตรียมความพร้อมในการเผชิญหน้ากับภัยพิบัติทางธรรมชาติ เพื่อป้องกันไม่ให้โศกนาฏกรรมเช่นนี้เกิดขึ้นซ้ำอีก
