ชัยชนะอีกก้าวของ LGBTQIA+ ในไต้หวัน คว้าเก้าอี้สมาชิกสภานิติบัญญัติ ได้สำเร็จ
ส.ส. ชาวไต้หวัน ผู้มีความหลากหลายทางเพศ คว้าเก้าอี้ ‘สมาชิกสภานิติบัญญัติ’ มาครองได้สำเร็จ สะท้อนความก้าวหน้าอีกขั้นของสังคม ประชาชนเคารพในความแตกต่าง
วันที่ 25 มิถุนายน 2567 สำนักข่าวต่างประเทศ bbc รายงานว่า หวง เจี๋ย (Huang Jie) ส.ส.พรรคประชาธิปไตยก้าวหน้า วัย 31 ปี ได้กลายเป็นผู้สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ ด้วยการคว้าที่นั่งในสภาและกลายเป็นสมาชิกสภานิติบัญญัติคนแรกที่เปิดเผยตัวว่าเป็นเกย์อย่างเปิดเผย ในเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา
‘หวง เจี๋ย’ ให้สัมภาษณ์กับ BBC ถึงความสำเร็จในครั้งนี้ว่า ปลิ้มปริ่มที่ได้เห็นพัฒนาอีกก้าวของความเท่าเทียมในไต้หวัน “ฉันคิดว่านี่เป็นก้าวสำคัญสำหรับไต้หวัน แน่นอนว่าในฐานะสมาชิกสภานิติบัญญัติคนแรก ส่งผลให้ฉันมีความรับผิดชอบมาขึ้น จำเป็นที่จะต้องทำงานให้หนักขึ้น และแสดงให้ทุกคนเห็นถึงความพยายามของฉันในการผลักดันสิทธิของชาว LGBTQIA+”
ไต้หวันเป็นหนึ่งในประเทศที่ก้าวหน้าที่สุดในเอเชียสำหรับสิทธิของกลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศ โดยในปี 2562 ไต้หวันถือเป็นที่แรกในภูมิภาคเอเชียที่สมรสเท่าเทียมถูกกฎหมาย อีกทั้งในปัจจุบันยังอนุญาตให้คู่รัก LGBTQIA+ รับบุตรบุญธรรมได้อีกด้วย
นอกจาก หวง เจี๋ย ก็ยังสมาชิกผู้แทนราษฎรอีกหลายสิบคนที่เข้ามามีบทบาทในการเมือง หนึ่งในนั้นก็คือ เหมียว โป๋หยา (Miao Poya) สมาชิกสภาผู้แทนฯของกรุงไทเป ซึ่งทั้งหวง เจี๋ย และเหมียว โป๋หยา ล้วนเป็นนักการเมือง LGBTQIA+ ที่โดดเด่นที่สุดในการเลือกตั้งในเดือนมกราคมที่ผ่านมา
ก่อนหน้านี้ ช่วงปี 2016 อดีตประธานาธิบดี ไช่ อิงเหวิน ก็ได้แต่งตั้งให้ ออเดรย์ ถัง (Audrey Tang) เป็นรัฐมนตรีกระทรวงดิจิทัลไต้หวัน ซึ่งทำให้กลายเป็นรัฐมนตรีแปลงเพศคนแรกของโลก
ชัยชนะของหวง เจี๋ย ซึ่งเป็นตัวแทนของพรรคประชาธิปไตยก้าวหน้า หรือดีพีพี จากเมืองเกาสง เป็นการปิดฉากการต่อสู้ทางการเมืองอันยากลำบากในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาของเธอ หลังจากทำงานด้านการวิจัยสุขภาพสิ่งแวดล้อมและสื่อสารมวลชน โดยเธอได้เข้าร่วมพรรคการเมืองก้าวหน้าขนาดเล็กและได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งในสภาท้องถิ่นของเกาสงในปี 2018
ในปีต่อมา เธอโด่งดังหลังได้เผชิญหน้าอภิปรายกับ หัน กั๋วหยู นักการเมืองสายอนุรักษนิยมในสภาเกาสง โดยระหว่างการโต้เถียงกันขณะประชุมสภา กล้องได้จับภาพวินาทีที่เธอกลอกตามมองบนถึงข้ออภิปรายที่ได้ฟัง นับแต่นั้นเธอก็ได้กลายเป็นเจ้าของมีมสุดไวรัล และได้รับฉายาว่า “เทพธิดามองบน”
ในขณะเดียวกัน ความโด่งดังในชั่วข้ามคืนก็ได้นำไปสู่การเรื่องราวมากมาย หนังสือพิมพ์แท็บลอยด์ลงบทความเกี่ยวกับรสนิยมของหวง เจี๋ย เป็นเหตุให้เธอต้องออกมาปฏิเสธข้อกล่าวหาบางส่วน พร้อมกับยอมรับว่าเป็นไบเซ็กชวล
“เหตุการณ์ครั้งนั้นเสมือนถูกสื่อบังคับให้เปิดเผยตัวตน พ่อแม่ไม่รู้เรื่องเพศของเธอจนกระทั่งได้อ่านข่าวจากหนังสือพิมพ์ ถ้ามีทางเลือก ก็คงเลือกที่จะไม่เปิดเผยเรื่องนี้ ก่อนอื่นต้อวบอกว่าฉันไม่เคยอายที่จะพูดถึงรสนิยมทางเพศ แต่ฉันก็ไม่คิดว่าฉันมีภาระผูกพันที่จะต้องอธิบายเรื่องรสนิยมทางเพศให้คนอื่นได้ทราบ เมื่อเราต้องแสดงตนว่าเป็นชนกลุ่มน้อยทางเพศ มันสื่อให้สังคมเห็นว่า คนที่มีความหลากหลายทางเพศเป็นข้อยกเว้น เป็นกลุ่มคนพิเศษที่ไม่ปกติ”
อย่างไรก็ดี ตลอดช่วงเวลาการทำงานของหวง เจี๋ย เธอได้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าต้องการจะผลักดันความเท่าเทียมกันของ LGBTQIA+ ในรัฐสภา และหนึ่งในสิ่งที่เธอให้ความสำคัญเป็นอันดับต้น ๆ ก็คือการสนับสนุนให้คู่รักเพศเดียวกันสามารถมีทายาททางสายเลือดเป็นของตนเอง ซึ่งในตอนนี้ไต้หวันก็กำลังพิจารณาอนุญาตให้พวกเขาเข้าถึงเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ เช่น IVF
แม้สังคมไต้หวันอาจจะดูก้าวหน้าในมุมมองของคนต่างชาติ แต่ในฐานะบุคคลที่ทำงานในรัฐสภาและเป็นคนที่มีชื่อเสียงเรื่องของการต่อสู้เพื่อสิทธิในไต้หวัน ถึงอย่างนั้นก็ยังคงมีความกังวลว่า ผู้มีอำนาจคนอื่น ๆ อาจอ้างเรื่องรสนิยมทางเพศและตัวตนของฉันมาใช้ในการโจมตีฉัน
ข้อมูลจาก bbc
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ก้าวประวัติศาสตร์ “สมรสเท่าเทียม” ผ่านวาระสุดท้ายในสภา เห็นด้วย 130-4 เสียง
- สมรสเท่าเทียมเดือด สว.วรพงษ์ ไม่เห็นด้วย ลบคำว่าสามีภรรยา กดชายหญิงให้ลงไปเท่า LGBTQ
- สปสช.เตรียมออกเกณฑ์ สิทธิบัตรทองผ่าตัดแปลงเพศฟรี LGBTQ+ มีลุ้น