ป้ายปริศนาโผล่ “เขตใช้กระสุนจริง” ในวันวิสาขบูชา สำนักพุทธฯ ปฏิเสธพัลวัน
ป้ายปริศนา “เขตใช้กระสุนจริง” ปรากฏในพุทธมณฑล สร้างความสงสัยในวันวิสาขบูชา สำนักพุทธฯ ปฏิเสธพัลวัน
เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2567 รศ. ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์ประจำภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้โพสต์ภาพป้ายปริศนาบนเฟซบุ๊กส่วนตัว โดยป้ายดังกล่าวมีข้อความว่า “พื้นที่หวงห้าม เขตใช้กระสุนจริง ประชาชนห้ามเข้า” ถูกติดตั้งอยู่บริเวณรั้วเหล็ก พื้นที่พุทธมณฑล สร้างความสงสัยและกังวลให้กับประชาชนที่พบเห็น เนื่องจากเป็นข้อความที่คล้ายคลึงกับเหตุการณ์สลายการชุมนุมในอดีต
อย่างไรก็ตาม อ.เจษฎา ยืนยันว่าป้ายดังกล่าวเป็นป้ายใหม่ ไม่ใช่ป้ายเก่าจากเหตุการณ์ในอดีต และได้ตั้งคำถามถึงสาเหตุที่เจ้าหน้าที่ติดตั้งป้ายดังกล่าวในช่วงวันวิสาขบูชา ซึ่งเป็นวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา
“มีเพื่อนไปวิ่งออกกำลังกาย ที่พุทธมณฑล แล้วเจอป้ายนี้ครับ พื้นที่หวงห้าม เขตกระสุนจริง ประชาชนห้ามเข้า ใครพอจะรู้สาเหตุมั้ยครับ ว่าทำไมเจ้าหน้าที่เขาถึงติดป้ายแบบนี้ในช่วงวันวิสาขบูชา ป.ล. ไม่ใช่ป้ายเก่าตั้งแต่หลายปีก่อนนะครับ เป็นป้ายใหม่ แต่แขวนมาหลายวันแล้ว เจ้าหน้าที่ก็ไม่ได้เอาออกด้วย”
ล่าสุด สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ได้ออกมาชี้แจงว่าไม่ได้เป็นผู้ติดตั้งป้ายดังกล่าว และได้ดำเนินการนำป้ายออกแล้ว พร้อมทั้งจะตรวจสอบข้อเท็จจริงต่อไป โดยระบุว่าที่ผ่านมาได้มีการแบ่งโซนพื้นที่ในพุทธมณฑลเพื่อความปลอดภัยของประชาชน เนื่องจากมีอุบัติเหตุเกิดขึ้นบ่อยครั้ง รวมถึงมีการลักขโมยสิ่งของในพุทธมณฑล จึงจำเป็นต้องเข้มงวดในการเปิด-ปิดเส้นทางบางเส้นทาง
กรณีดังกล่าวยังคงเป็นที่สนใจของประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเทศกาลสำคัญทางศาสนา ซึ่งมีประชาชนเดินทางมาทำบุญเป็นจำนวนมาก จึงเป็นเรื่องที่ต้องติดตามความคืบหน้าของการตรวจสอบข้อเท็จจริงจากสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติต่อไป
เมื่ออ่านป้ายการใช้กระสุนจริง ทำให้หลายคนนึกไปถึงเหตุการณ์สลายการชุมนุมที่แยกราชประสงค์ กรุงเทพฯ ระหว่างวันที่ 7-19 พฤษภาคม พ.ศ. 2553 ในช่วงเวลานั้น มีการชุมนุมของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) เรียกร้องให้รัฐบาล อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ยุบสภาและจัดการเลือกตั้งใหม่ การชุมนุมครั้งนี้เกิดขึ้นเป็นเวลาหลายวันและมีผู้คนจำนวนมากมาร่วม
เพื่อยุติการชุมนุม รัฐบาลได้ส่งทหารเข้ามาพร้อมกับอาวุธและรถหุ้มเกราะ ทหารได้ตั้ง “เขตยิงกระสุนจริง” หมายความว่าในพื้นที่นั้น ทหารมีสิทธิ์ยิงกระสุนจริงใส่ผู้ที่เข้ามาในเขตดังกล่าว โดยมีจุดประสงค์เพื่อควบคุมสถานการณ์และป้องกันความรุนแรง แต่กลับทำให้มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตจำนวนมาก
ในช่วงเย็นของวันที่ 13 พฤษภาคม พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล (เสธ.แดง) ผู้สนับสนุนกลุ่มผู้ชุมนุม ถูกยิงที่ศีรษะขณะให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวต่างประเทศ หลังจากนั้น รัฐบาลได้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในหลายจังหวัด และมีการเพิ่มการปิดล้อมพื้นที่ชุมนุมมากขึ้น
การปิดล้อมและการใช้กระสุนจริงในการสลายการชุมนุมส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บเป็นจำนวนมาก ในวันที่ 19 พฤษภาคม ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของการสลายการชุมนุม มีรายงานว่าทหารได้ยิงเจ้าหน้าที่แพทย์ที่เข้าไปช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ และมีการเผาอาคารหลายแห่งทั่วประเทศ
การสลายการชุมนุมครั้งนี้มีผู้เสียชีวิตทั้งหมด 59 คน และบาดเจ็บอีก 480 คน และยังมีผู้สูญหายอีกกว่า 51 คน นับเป็นเหตุการณ์ที่น่าสลดใจและเป็นบทเรียนสำคัญเกี่ยวกับการใช้กำลังในการควบคุมการชุมนุม
อ่านข่าวที่เกียวข้อง
- ประมวลภาพ มวลชนเสื้อแดง รอต้อนรับ ‘ทักษิณ ชินวัตร’ กลับถึงไทย
- ครบรอบ 13 ปี วันสุดท้าย เหตุสลายการชุมนุม ‘เสื้อแดง’ 53 สังเวยเกือบร้อยชีวิต
- บช.น. แถลงกรณี จับกุมกลุ่มจะนะรักษ์ถิ่น ยืนยันไม่ใช่การสลายการชุมนุม