เครื่องบิน นาซา เริ่มขึ้นบินแล้ว ร่วมมือ สทอภ. เช็กมลพิษทางอากาศในไทย หวังผลภายใน 1 ปี
นาซา ร่วมกับ GISTDA และหน่วยงานจากเกาหลีใต้ ทำการศึกษาคุณภาพอากาศไทย หวังแก้ปัญหามลพิษ PM 2.5 เริ่มบินสำรวจน่านฟ้าไทยแล้ว
องค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติ หรือ นาซ่า (NASA) ร่วมมือกับ สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (GISTDA) หรือ สทอภ. และชื่อมโยงข้อมูลกับดาวเทียม GEMS ของเกาหลีใต้ ร่วมกับหน่วยงานอื่น ๆ ในภูมิภาคเอเชีย เปิดตัวโครงการ Airborne and Satellite Investigation of Asian Air Quality (ASIA-AQ) มุ่งศึกษาคุณภาพอากาศในประเทศไทยและภูมิภาคเอเชีย หวังผลภายใน 1 ปี โดยทำการบินระหว่างวันที่ 16-25 มีนาคม 2567 รวมระยะเวลาการสำรวจ 10 วัน
สำหรับโครงการความร่วมมือระหว่างนาซ่าและ สทอภ. นี้ แสดงให้เห็นถึงความสำคัญของการทำงานร่วมกันระหว่างประเทศเพื่อแก้ปัญหามลพิษทางอากาศ ซึ่งเป็นปัญหาใหญ่ที่ ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน โดยเฉพาะ PM 2.5 ที่รุนแรงในประเทศไทย
ดร. ปกรณ์ อาภาพันธุ์ ผู้อำนวยการ สทอภ. อธิบายว่าโครงการนี้ริเริ่มขึ้นเพื่อทำงานร่วมกับนานาชาติ ท่ีมีเป้าหมายเดียวกัน ท่ีจะศึกษาและหาแนวทางแก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ อีกทั้งโครงการนี้มีความสำคัญที่จะนำไปสู่การกำหนดยุทธศาสตร์อย่างมีประสิทธิภาพ ที่จะช่วยติดตามคุณภาพอากาศ พยากรณ์อากาศ และระดับมลพิษได้อย่างแม่นยำ ข้อมูลเหล่านี้จะช่วยให้คนไทยสามารถวางแผนกิจกรรมและดูแลสุขภาพได้อย่างเหมาะสม
ในส่วนของ ดร. Barry Lefer นักวิทยาศาสตร์ประจำโครงการจากองค์การนาซา อธิบายว่า โครงการนี้เป็นความร่วมมือระหว่างหลายประเทศ ได้แก่ สหรัฐอเมริกา เกาหลีใต้ ฟิลิปปินส์ ไทย และมาเลเซีย ซึ่งเป็น 5 เมืองหลักในเอเชียที่เผชิญปัญหามลพิษทางอากาศมากที่สุด สาเหตุหลักมาจากการขยายตัวของเมืองและการเติบโตของภาคอุตสาหกรรม
นางสาวศุภมาส อิศรภักดี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) รู้สึกภูมิใจที่หน่วยงานภายใต้กำกับของ อว. ได้ร่วมมือกับองค์การนาซา ในโครงการศึกษาคุณภาพอากาศ ที่จะช่วยแก้ปัญหามลพิษทางอากาศที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน
อย่างไรก็ตาม โครงการนี้ใช้เครื่องบิน 2 ลำ ที่มีหน้าที่เก็บข้อมูลที่แตกต่างกัน ดังนี้ 1) DC-8: บินเหนือเป็นแนวตั้ง จากสนามบินอู่ตะเภาถึงเชียงใหม่ แล้ววนกลับมาลงที่อู่ตะเภา เก็บข้อมูลมลพิษทางอากาศในระดับต่าง ๆ ใช้เวลาบิน 8 ชั่วโมงต่อเที่ยวบิน เก็บข้อมูลสารพิษและฝุ่นละอองเพื่อวิเคราะห์ 2) G-III: บินในแนวนอน เก็บข้อมูลคุณภาพอากาศในพื้นที่กว้าง ระยะทาง 60 กิโลเมตรต่อเที่ยวบิน
โดยจะทำการเก็บข้อมูลทางอากาศในระดับเหนือน้ำทะเลไม่เกิน 28,000 ฟุต เชื่อมโยงข้อมูลกับดาวเทียม GEMS ของเกาหลีใต้ ที่บันทึกข้อมูลคุณภาพอากาศในเอเชีย ท่ีรวมถึงประเทศไทย ในช่วงเวลากลางวัน 8 ชั่วโมงต่อวัน
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- แม่ส่งภาพลูก “เลือดกำเดาไหล” จากปัญหาฝุ่นพิษ เพจดังเตือนบางเคสหนักถึงผ่าตัด
- แพทย์ มช. เตือน วิกฤติฝุ่น PM 2.5 สาเหตุเลือดกำเดาไหล เสี่ยงเยื่อจมูกอักเสบ
- เศรษฐา แจง ไม่ประกาศเชียงใหม่ เป็นพท.ฉุกเฉิน ฝุ่น PM พุ่ง ห่วงกระทบนักท่องเที่ยวต่างชาติ
อ้างอิง : ท่าอากาศยานแพร่ Phrae Airport, U.S. Embassy Bangkok