กินเม็ดชานมไข่มุก เสี่ยงเป็นมะเร็งจริงหรือ?

Aindravudhเผยแพร่: 29 ก.พ. 2567 21:08 น.| อัปเดต: 29 ก.พ. 2567 21:10 น.

178 Less than a minute

อย. ชี้แจงแล้ว กินเม็ดชานมไข่มุก เสี่ยงเป็นมะเร็ง จริงหรือไม่

วันนี้ 1 มีนาคม 2567 หลังจากที่ในโลกออนไลน์ได้ส่งต่อข้อความเตือน อ้างข้อมูลทางการแพทย์ว่า เม็ดไข่มุก ในชานมไข่มุก เครื่องดื่มเย็นดับร้อนคลายกระหายของคนไทย กินแล้วเสี่ยงเป็นมะเร็ง

ความจริงเรื่องนี้ ทางสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา กระทรวงสาธารณสุข ยืนยันว่า เป็นข้อมูลเท็จ

ข้อความเตือนที่ส่งต่อการมาผิด ๆ ระบุว่า ในเม็ดไข่มุกบางยี่ห้อจากไต้หวันนั้นมีสารสไตรีน และสารกลุ่มโพลีคลอรีนเนตเต็ดไบฟีนีล (Polychlorinated Biphenyls ; PCBs) ซึ่งทำให้เกิดมะเร็งได้

จากที่คณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคไต้หวันได้มีการตรวจสอบแล้วไม่พบว่า มีสารสไตรีน (Styrene) แต่พบสารอะซิโตฟีโนน (Acetophenone) และสารประกอบกลุ่มโพลีโบรมีนเนตเต็ดไบฟีนีล (Polybrominated Biphenyl ; PBBs) ซึ่งมีปริมาณน้อยมาก ไม่ใช่สารประกอบกลุ่มโพลีคลอรีนเนตเต็ดไบฟีนีล (Polychlorinated Biphenyls ; PCBs) จึงไม่ได้ทำให้เป็นมะเร็งอย่างที่ได้มีการแชร์

เม็ดชานมไข่มุกทำมาจากอะไร

เม็ดชานมไข่มุกทำมาจากแป้งมันสำปะหลัง การกินเม็ดชานมไข่มุกก็เหมือนการกินแป้ง จึงยังสามารถกินชานมไข่มุกได้เหมือนเดิม

แต่สิ่งที่น่ากลัว คือ การกินชานมไข่มุกในปริมาณที่มากเกินไป อาจทำให้เกิดโรคเบาหวาน โรคหลอดเลือดหัวใจได้ เพราะนอกจากในเม็ดไข่มุกจะประกอบไปด้วยแป้งมันสำปะหลังแล้วนั้น ในน้ำชานมยังประกอบไปด้วยน้ำตาล น้ำเชื่อม ครีมเทียม นมข้นหวาน ซึ่งจัดได้ว่า ชานมไข่มุกเป็นเครื่องดื่มที่มีแคลอรี่สูง และมีคุณค่าทางสารอาหารน้อย

ผู้บนิโภคควรกินชานมไข่มุกนาน ๆ ครั้งเท่านั้น หรือหากต้องการกินอาจลดปริมาณน้ำตาล หลีกเลี่ยงการใส่ครีมเทียมในชานมไข่มุก

ดังนั้น การรับประทานเม็ดชานมไข่มุก ไม่ทำให้เสี่ยงต่อการเป็นมะเร็ง อีกทั้งไม่พบว่า มีสารสไตรีน และสารประกอบกลุ่มโพลีคลอรีนเนตเต็ดไบฟีนีล จึงไม่ได้ทำให้เป็นมะเร็งตามที่มีการแชร์แต่อย่างใด