ศาลกาญจนบุรี เลื่อนฟังคำตัดสิน คดีหวย 30 ล้าน เหตุ ครูปรีชา กลับคำสารภาพไปมา ลุงจรูญโมโห ไม่ประสงค์ไกล่เกลี่ย หลังถูกหาว่าฟ้องพยานไม่เป็นธรรม
ทนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม ให้สัมภาษณ์ภายหลังคำพิพากษาคดีที่ ร.ต.ท.จรูญ วิมูล หรือลุงจรูญ ยื่นฟ้องนายปรีชา ใคร่ครวญ หรือ ครูปรีชา กับพวก ปมหวย 30 ล้านนั้น
โดยทนายตั้มระบุว่า คดีที่ฟ้องร้องไปนั้น คดีแรกฟ้องทนายครูปรีชากับตัวครูปรีชาเอง ในข้อหาร่วมกันฟ้องเท็จ โดยศาลรอลงคำพิพากษา ต้องนำกลับไปทำคำพิพากษาใหม่ เนื่องจากครูปรีชากลับคำรับสารภาพสลับไปมา
ส่วนคดีที่สอง คือคดีร่วมกันเบิกความเท็จ ที่ครั้งแรกครูปรีชายอมรับสารภาพ แต่มากลับคำรับสารภาพภายหลัง ศาลเล็งเห็นว่าเป็นการประวิงเวลา จึงไม่ยินยอมให้กลับคำรับสารภาพ โดยมีนัดฟังคำตัดสินวันที่ 20 มี.ค.
คดีที่สาม เป็นคดีที่ฟ้องร้องเจ๊พัช เจ๊บ้าบิ่น และพยานบุคคลอื่นๆ รวม 10 คน ในข้อหาเบิกความเท็จ แต่เนื่องจากคุยไกล่เกลี่ยไม่ลงตัว เนื่องจากมีปัญหาเรื่องเงิน 2.5 ล้านบาท ที่ฝ่ายโจทก์เรียกร้องไป แต่กลุ่มพยานไม่ยินยอมจะร่วมชดใช้ จึงขอต่อสู้คดี โดยมีนัดไต่สวนมูลฟ้องเดือนเม.ย.
ทนายตั้ม กล่าวด้วยว่า ครูปรีชาระบุว่าหากฟ้องพยานแบบนี้สังคมจะอยู่อย่างไร ทำให้ลุงจรูญโมโห ไม่ประสงค์ไกล่เกลี่ยหรือถอนฟ้องแล้ว ให้นำเงินไปวางที่ศาลดีกว่า
ขณะที่ลุงจรูญ ให้สัมภาษณ์ว่า ตนน่าจะเป็นคนพูดให้ครูปรีชาฟังมากกว่าว่า การที่มีคนอย่างคุณอยู่แล้วสังคมจะอยู่อย่างไร และในเมื่อคุยกันไม่รู้เรื่อง วันหน้าก็ไม่ต้องคุยกันดีกว่า ตนไม่เดือดร้อนเรื่องเงิน จะจบก็ได้ แต่ให้โอกาสแล้ว เขาไม่คว้าไว้ ตนเหนื่อยกายเหนื่อยใจแล้ว เพราะรู้มาแต่แรกว่าคดีจะนานแน่ๆ ทั้หากเรื่องยังไม่จบก็คงไม่ขอซื้อหวยอีก
