ไลฟ์สไตล์

เปิดข้อกฎหมาย ถูกแอบติดเครื่องดักฟัง เอาผิดทางแพ่งและอาญาได้หรือไม่

กางกฎหมายแพ่งและอาญา ติดเครื่องดักฟัง ละเมิดสิทธิส่วนบุคคลเข้าข่ายความผิดมาตราไหน รู้ไว้จะได้ไม่ถูกคนอื่นแอบดักเอาข้อมูล

อ้างอิงตามข้อมูลจากรัฐธรรนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 สิทธิและเสรีภาพของปวงชนชาวไทย ตามมาตรา 32 ระบุไว้ว่า บุคคลย่อมมีสิทธิในความเป็นอยู่ส่วนตัว เกียรติยศ ชื่อเสียง และครอบครัว การกระทำอันเป็นการละเมิดหรือกระทบต่อสิทธิของบุคคลตามวรรคหนึ่ง

หรือการนำข้อมูลส่วนบุคคลไปใช้ประโยชน์ไม่ว่าในทางใด ๆ จะกระทำมิได้ เว้นแต่โดยอาศัยอำนาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมายที่ตราขึ้นเพียงเท่าที่จำเป็นเพื่อประโยชน์สาธารณะ

ดังนั้น การติดเครื่องดักฟัง ถือเป็นการละเมิดสิทธิและเสรีภาพที่ได้รับความคุ้มครองตามรัฐธรรมนูญ สามารถยกบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญเพื่อใช้สิทธิทางศาลหรือยกขึ้นเป็นข้อต่อสู้คดีในศาลได้

นอกจากนี้ หากพิจารณาตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 420 จะพบว่าการติดเครื่องดักฟังนั้นเข้าข่ายลักษณะกฎหมายละเมิด ผู้ใดจงใจ หรือประมาทเลินเล่อ ทำต่อบุคคลอื่นโดยผิดกฎหมาย ให้เขาเสียหายถึงแก่ชีวิตก็ดี แก้ร่างกายก็ดี อนามัยก็ดี เสรีภาพก็ดี ทรัพย์สินหรือสิทธิอย่างใดก็ดี ท่านว่าผู้นั้นทำละเมิด จำต้องใช้ค่าสินไหมทดแทนเพื่อการนั้น

สรุปได้ว่า การติดเครื่องดักฟังเพื่อละเมิดสิทธิส่วนบุคคล มีความผิดทั้งทางแพ่งและทางอาญา ผู้ที่ได้รับความเสียหายสามารถฟ้องร้องกล่าวโทษต่อผู้กระทำผิดได้ เพราะฉะนั้นหากท่านใดพบว่าตนเองถูกแอบติดตั้งเครื่องดักฟังเพื่อละเมิดสิทธิส่วนบุคคล ก็ขอให้แจ้งความดำเนินคดีโดยเร็ว

ความผิดฐาน ดักฟัง

อ้างอิงข้อมูลจาก : กรมสรรพสามิต, รัฐธรรมนูญฉบับ 2560, สำนักงานทนายคลายทุกข์ และ สำนักงานกฎหมายสภาผู้แทนราษฎร

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

Mothana

นักเขียนข่าวที่ Thaiger การศึกษาทางด้านภาษา จากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มีความเชี่ยวชาญด้านมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ จึงรับหน้าที่เขียนบทความไลฟ์สไตล์บันเทิง เศรษฐกิจ อยากเป็นสื่อกลางคอยขุดคุ้ยประเด็นตั้งแต่เล็กน้อยจนถึงใหญ่โตมาเขียนให้ทุกคนได้อ่าน เพราะมีความเชื่อว่าสื่อที่ดีย่อมเป็นหนทางนำผู้อ่านไปสู่งานเขียนที่ดีได้ ติดต่อได้ทาง tangmo@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

Back to top button