น้องจูเนียร์ เหยื่อเมาแล้วขับ ติ๊ก ชิโร่ เสียชีวิตแล้ว พ่อเปิดเบื้องลึกเยียวยา
สุดยื้อ ‘น้องจูเนียร์’ เสียชีวิตแล้ว เหยื่อเมาแล้วขับ ของ ‘ติ๊ก ชิโร่’ พ่อผู้ตายเผย อีกฝั่งการกระทำสวนกับคำพูด พยายามเปลี่ยนคดีเป็นประมาทร่วม
จากกรณี ติ๊ก ชิโร่ นักร้องรุ่นใหญ่ ประสบอุบัติเหตุขับรถชนมอเตอร์ไซค์ กลางสะพานข้ามถนนเทพรักษ์ กทม. จนเป็นเหตุให้สามพี่น้อง น.ส.เทียนพร อายุ 28 ปี เสียชีวิตทันที, น.ส.จิณห์นิภา อายุ 24 ปี ได้รับบาดเจ็บ และ นายจักรภัคร หรือ จูเนียร์ น้องชายคนเล็กอายุ 21 ปี ได้รับบาดเจ็บสาหัส โดยฝั่งติ๊ก ชิโร่ ได้มอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจอย่างโดยดี พร้อมสัญญากับครอบครัวผู้เสียชีวิตว่าจะดำเนินการเยียวยาให้
เบื้องต้นทางตำรวจได้แจ้งความกับติ๊กทั้งหมด 5 ข้อหาได้แก่ ขับขี่รถในขณะเมาสุราหรือของมึนเมาอย่างอื่นเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย, ขับขี่รถในขณะเมาสุราหรือของมึนเมาอย่างอื่นเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายสาหัส, ขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย, ขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายสาหัส, ขับรถโดยประมาทเป็นเหตุทรัพย์สินผู้อื่นเสียหาย
ล่าสุด (18 มกราคม 2568) นายจีรวัฒน์ ศิวพรพิทักษ์ อายุ 56 ปี พ่อของน้อง ‘จูเนียร์’ ได้ออกมาเปิดเผยว่า ลูกชายเสียชีวิตแล้วจากการติดเชื้อที่ปอดขณะที่ศูนย์พักฟื้น หลังนอนรักษาตัวที่โรงพยาบาลราว 70 วัน ก่อนออกมาเมื่อวันที่ 22 ธ.ค. 67 โดยตอนนี้กำลังอยู่ในขั้นตอนรับร่างเพื่อไปประกอบพิธีทางศาสนา
นอกจากนี้คุณพ่อยังได้เผยว่าตลอดเวลาที่ผ่านมา “ติ๊ก” เคยเดินทางมาเยี่ยมน้องจูเนียร์ขณะที่รักษาตัวที่โรงพยาบาลทั้งหมด 3 ครั้ง ช่วยเหลือค่างานศพลูกสาวคนโต 170,000 บาท และค่าใช้จ่ายที่ศูนย์พักฟื้นของลูกชาย ทว่าในส่วนของเงินเยียวยายังไม่เคยได้รับแม้แต่บาทเดียว ทั้งที่ทางครอบครัวเคยคุยกับฝั่งตัวแทนของติ๊กในเรื่องนี้ไปเมื่อปลายเดือนตุลาคม 2567
ขณะที่ฝั่งนั้นให้คำตอบในเรื่องนี้ว่ารับทราบแล้ว ขอเวลาไปพิจารณาในเรื่องนี้ก่อน แล้วจะแจ้งกลับมาในภายหลัง ทว่านับแต่นั้นมา (3 เดือน) ตนก็ไม่ได้รับการติดต่อกลับแต่อย่างใด
กระทั่งวันที่ 13 ม.ค. ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งว่า ต้องส่งสำนวนให้อัยการหากไม่มีการเจรจาเรื่องเงินเยียวยาก็จำเป็นต้องสรุปสำนวนส่งอัยการ ฝั่ง “ติ๊ก” จึงส่งน้องสาวมาเป็นตัวแทนการเจรจา พร้อมแจ้งยอดเงินเยียวยาให้ทราบ โดยเป็นการเยียวยาสำหรับน้อง 2 คน ที่สองเสียชีวิตไป (ตอนนั้นจูเนียร์ยังไม่เสีย) ซึ่งน้อยกว่าที่คุยกันไว้ก่อนหน้านี้ค่อนข้างเยอะ
ฝั่งติ๊ก ชิโร่ ระบุว่า จะนำที่ดินผืนหนึ่งใน จ.นครราชสีมา ซึ่งมีมูลค่าอยู่ประมาณ 4-5 ล้านบาท ไปขายและนำเงินมามอบให้ แต่ไม่ได้บอกว่ากี่ไร่ ซึ่งไม่รู้เหมือนกันว่าจะได้ตอนไหน พร้อมยื่นข้อเสนอว่าหากไม่รอเงินแล้ว ก็พร้อมโอนโฉนดเป็นชื่อตนให้ แต่ตนมองว่าเงื่อนไขนี้ไม่สามารถรับได้ เพราะไม่ทราบว่าราคาที่ดินจะเป็นไปตามนั้นจริงหรือไม่ ส่วนเรื่องวงเงินที่เสนอมา ก็ใช้ดูแลน้องที่ป่วยได้ไม่เกิน 2-3 ปีก็คงหมดอีกด้วย แต่ประเด็นการเสียชีวิตของลูกชายนั้น ตนยังไม่แจ้งให้ทางนั้นทราบ เพราะกำลังยุ่ง ๆ อยู่
อีกทั้งตนยอมรับว่ารู้สึกกังวลว่าอาจไม่ได้รับความเป็นธรรม เพราะที่ผ่านมาดูจากการกระทำ และพฤติกรรมของอีกฝั่งนั้น ก็พูดคุยดี ติดต่อกัน แต่การกระทำกลับย้อนแย้งกับสิ่งที่พูด เคยบอกว่ายินดีรับผิดชอบดูแลทุกอย่างตามที่เขาเคยให้สัมภาษณ์ แต่ความจริงพอตัวเองไม่ทวงถามก็เงียบไป แถมบอกว่ายอมรับผิดแต่กลับไปสู้คดีร้องขอความเป็นธรรม พยามทำคดีให้เป็นประมาทร่วมอีกด้วย
จากนี้ไปหากไม่ได้รับการเยียวยา ก็คงต้องว่ากันในกระบวรการชั้นศาล ต่างคนต่างทำหน้าที่ตัวเอง หาก ติ๊ก ชิโร่ มาร่วมงานศพน้องจูเนียร์ ตนก็ยินดี ไม่มีปัญหาอะไร ส่วนเรื่องคดีนั้น ตนได้เดินทางมาลงบันทึกประจำวันเพื่อเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมว่าการเสียชีวิตของน้องเป็นผลมาจากอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นหรือไม่ต่อไป
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ภรรยา ‘ติ๊ก ชีโร่’ ยัน ไม่ได้ชนแล้วหนี ตอนนี้เข้ารักษาตัว วอนอย่าซ้ำเติม-หาคนผิด
- เปิด 3 ข้อหา ‘ติ๊ก ชีโร่’ หลังผลตรวจเลือดชี้ชัด แอลกอฮอล์สูงเกินกฎหมายกำหนด
- ‘ติ๊ก ชีโร่’ ขับรถชนมอ’ไซค์ ร่างกระเด็น ดับ 1 บาดเจ็บ 1 กราบขมาในที่เกิดเหตุ