ข่าวดาราบันเทิง

‘วินัย ไกรบุตร’ อัปเดตโรคตุ่มน้ำพอง อาการดีขึ้น ยังไม่หายไปไหน

วินัย ไกรบุตร อัปเดตอาการโรคตุ่มน้ำพอง เผยตอนนี้ลดยา อาการดีขึ้น ยังไม่หายไปไหน จากนี้จะหาละคร และขายของออนไลน์ต่อไป

จากกรณีอดีตพระเอกและนักแสดงชื่อดัง เมฆ วินัย ไกรบุตร ป่วยเป็นโรคในกลุ่มตุ่มน้ำพอง หรือเพมฟิกอยด์ (Bullous pemphigoid) ทำให้ต้องรับประทานยาสเตียรอยด์ และเปลี่ยนมาขายของออนไลน์ เพื่อหาเลี้ยงหาดูครอบครัว เนื่องจากยังไม่สามารถรับงานละครได้

ล่าสุด วันเสาร์ที่ 14 ตุลาคม 2566 มีรายงานว่า วินัยออกมาโพสต์คลิปวิดีโอผ่านอินสตาแกรม อัปเดตอาการของโรคล่าสุด ระบุว่า “ตอนนี้รับประทานยาสเตียรอยด์เหลือ 2 เม็ด สามารถขับรถส่งลูกไปโรงเรียนได้ ไปตลาดได้ ตนพยายามช่วยครอบครัวเรื่องขับรถ ทั้งไปรับของและส่งของ

ส่วนอาการทั่วไป ตอนนี้นั่งได้แต่ยังเป็นแผลอยู่ ตุ่มขึ้นน้อยมาก ถ้าไม่เกาจะไม่มีตุ่มขึ้นเป็นแผ่นเลย ส่วนแผลที่เท้าเริ่มแห้ง รวมถึงมือก็เริ่มดีขึ้นเช่นกัน ตอนนี้ขึ้นอยู่กับว่าตัวเองจะทนอาการคันได้หรือไม่ ภายในสิ้นเดือนน่าจะรู้ผล

อาหารรับประทานได้ปกติ ทั้งไข่ ผัก ปลา กินเจด้วย ฝากแฟนคลับว่าอย่าลืม ยังไม่หายไปไหน ยังมีอาชีพเหมือนเดิม ขายของออนไลน์ ขายกาแฟ ไม่ต้องเป็นห่วง สู้กันไป ตนเองก็สู้เต็มที่ เดือนที่แล้วขายรถฮุนไดไปเรียบร้อย ก็ตามสภาพ จากนี้จะหาละคร ขายของออนไลน์”

หลังจากคลิปวิดีโออัปเดตอาการถูกเผยแพร่ แฟนคลับต่างเข้ามาให้กำลังใจเป็นจำนวนมาก อาทิ “อดทนสู้สู้นะคะ”, “เป็นกำลังใจให้ค่ะ สู้ ๆ ค่ะ”, “พี่เมฆเก่งมาก ๆ เลยค่ะ เป็นกำลังใจให้พี่และครอบครัวนะคะ” เป็นต้น

หากอาการดีขึ้นตามลำดับ อีกไม่นานแฟนละครของเมฆ วินัย ไกรบุตร อาจจะได้เห็นนักแสดงมากฝีมือโลดแล่นอยู่บนจอแก้วอีกครั้งอย่างแน่นอน

วินัยอาการโรคดีขึ้น
ภาพจาก IG : winaikraibutr
วินัยอัปเดตอาการ
ภาพจาก IG : winaikraibutr
วินัย สู้โรคตุ่มน้ำพอง
ภาพจาก IG : winaikraibutr

 

วินัย ไกรบุตร
ภาพจาก IG : winaikraibutr
เมฆ วินัย
ภาพจาก IG : winaikraibutr

Kamonlak

นักเขียนข่าวประจำ Thaiger ผู้มีความสนใจที่หลากหลาย มีประสบการณ์เชี่ยวชาญเขียนข่าวการเงิน เศรษฐกิจ จบการศึกษาจากคณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ งานอดิเรก ติดตามข่าวสารความบันเทิง โดยเฉพาะภาพยนตร์และแอนิเมชัน เขียนงานโดยมีแนวคิดที่ต้องการถ่ายทอดมุมมองของตัวเองและถ่ายทอดสิ่งที่เกิดขึ้นในสังคม ช่องทางติดต่อ kamonlak@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

Back to top button