ข่าวข่าวการเมือง

‘อิศเรศ’ แนะรัฐบาล 3 ข้อ เดินหน้าแจกเงินดิจิทัล 10,000 แตะเบครกูรูไม่สร้างความหวาดกลัวเกินจริง

รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย เสนอ 3 ข้อแนะรัฐบาลเดินหน้าโครงการแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาททบทวนกลุ่มเป้าหมายแบบ พุ่งเป้า พร้อมแตะเบรกกูรูนักวิขาการต้องไม่สร้างความหวาดกลัวจนเกินจริง

วันที่ 9 ต.ค.2566 อิศเรศ รัตนดิลก ณ ภูเก็ต รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ออกมาเคลื่อนไหวแสดงความเห็นเกี่ยวกับโครงการแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท ของคณะรัฐมนตรีนายเศรษฐา ทวีสิน ที่ตอนนี้กำลังถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักหน่วง โดยเฉพาะกับนักวิชาการและกลุ่มที่มีหน้าที่รับผิดชอบด้านการเงินการคลังต่าง ๆ ถึงความเหมาะสม ตลอดจนการแก้ปัญหากระตุ้นเศรษฐกิจด้วยการแจกเงินไฮเทคนี้จะตอบโทย์การแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจภ่ายในประเทศไทยได้จริงหรือไม่

Advertisements

ซึ่งเรื่องนี้ นายอิศเรศ ในฐานะ รองประธานสภาอุตสาหกรรมไทย ก็ได้เขียนร่ายยาวในแง่มุมหลากหลายประเด็นไว้ผ่านสื่อบัญชีโซเชียลของตัวเอง (Facebook @isares.rattanadilok) ดังนี้

ทางออกของการกระตุ้นเศรษฐกิจ ด้วยการเพิ่มการบริโภค จากนโยบาย Digital Wallet 10,000 บาท ผมขออนุญาตแสดงความเห็นต่อเรื่องนี้ ดังนี้ครับ

1) ถือเป็นนโยบาย ที่ดีของรัฐบาล ที่ต้องการกระตุ้นเศรษฐกิจ ผ่านการบริโภคของประชาชน ที่กำลังลำบากอย่างยิ่งจากวิกฤติเศรษฐกิจในปัจจุบัน โดยเฉพาะกลุ่มผู้มีรายได้ขั้นต่ำ ,ปานกลาง,แรงงาน ,กลุ่มเปราะบาง ประเภทต่างๆ และ คนตกงาน

2) การเลือกใช้เงิน Digital คือการควบคุมประเภทของการใช้เงิน ให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของรัฐบาล ( สินค้า หรือ บริการ ที่จำเป็นในการครองชีพ)และ ให้เงินหมุนเวียนกระตุ้นเศรษฐกิจอยู่ในระบบ Block chain ตลอดเวลา 6 เดือน ของโครงการ
ที่สำคัญคือ ทำอย่างไร ให้เงินหมุนเวียน และ กระจายสู่ท้องถิ่นและ SMEs มากที่สุด และ ไม่กระจุกตัวในสินค้า และ ช่องทางการตลาดที่ผูกขาดของทุนใหญ่ มากเกินไป

3) เศรษฐกิจในประเทศของเราในวันนี้ ต้องยอมรับว่า ฝืดเคืองอย่างยิ่ง เราต้องการการกระตุ้นการบริโภคเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจอย่างเป็นระบบ

Advertisements
  • 3.1 ฝั่ง Demand ; ดูจาก % หนี้ครัวเรือน ต่อ GDP ที่สูงถึง 91% (ยังไม่รวมหนี้นอกระบบ )ใครมองปัญหาไม่ออก อยากให้ท่านลองคุยกับ ลูกน้องในองค์กรของท่านดูก็ได้ครับ
  • 3.2 ฝั่ง Supply ; ทั้งจากปัจจัยภายนอกประเทศ จากการส่งออกที่ชะลอตัว ,สินค้าราคาถูกนำเข้า ไร้มาตรฐานแทรกแซงตลาดในประเทศ ,ความผันผวนของราคาพลังงานโลก และ ล่าสุดการเร่งรีบขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย โดยอ้างเหตุผลสกัดเงินเฟ้อในอนาคต ?

4) วินัยการคลัง ,ผลกระทบเรื่องภาวะเงินเฟ้อ , ความคุ้มค่าของโครงการนี้ คือสิ่งที่เรา และ กูรู ทั้งปวง ควรต้องช่วยกันเสนอแนะทางออกที่ดี อย่างสร้างสรรค์เพื่อเป็นการเดินหน้าเศรษฐกิจประเทศไทย ไม่ใช่ อยู่ภายใต้การสร้างความหวาดกลัวจนเกินจริงไหมครับ ?

ที่ผ่านมา และ จากนี้ไปประชาชนส่วนใหญ่ ก็อยากให้กูรูทั้งหลายจะได้กรุณาให้ความเห็นต่อการใช้เงินของภาครัฐ ที่อาจมีความสุ่มเสี่ยง และ ไม่คุ้มค่าทางเศรษฐกิจ อย่างเหมาะสมนะครับ

ท้ายนี้ ในความเห็นส่วนตัว ผมขออนุญาตเสนอแนะรัฐบาล เพื่อเดินหน้าโครง Digital wallet ดังนี้ ครับ

  1. ทบทวนกลุ่มเป้าหมาย แบบ “พุ่งเป้า “ควรเน้นเฉพาะคนที่ลำบาก เดือดร้อน และ เห็นความสำคัญของ การใช้เงิน 10,000 บาทนี้จริงๆทั้งนี้ เราจะได้มีงบประมาณไปใช้ในโครงการเร่งด่วน อื่นๆ เช่น ปัญหาภัยแล้ง ตามที่ภาครัฐ ก็ให้ความสำคัญ ลงพื้นที่ รับทราบปัญหาตลอดมา
  2. บริหารโครงการให้มีความโปร่งใสและรัดกุมที่สุดใช้เงินอย่างคุ้มค่า ในทุกบาททุกสตางค์ด้วยจำนวนเม็ดเงินจำนวนมากหลายแสนล้านบาท
  3. ติดตามผลจากการกระตุ้นเศรษฐกิจ อย่างต่อเนื่อง และ สื่อสาร นำเสนอให้สังคมรับทราบเพื่อเป็นการประเมินประสิทธิภาพและประสิทธิผลของโครงการลดการโต้ตอบแบบนักการเมืองใดๆ

ผมปรารถนาที่จะให้ประเทศไทยได้ร่วมกันฝ่าฟันปัญหาวิกฤติเศรษฐกิจ ครั้งนี้ให้ผ่านไปได้ด้วยดี ด้วยการใช้พลังบวก ลดการโต้ตอบทางการเมืองซึ่งจะเป็นการซ้ำเติมประเทศไปมากกว่านี้นะครับ ขอบคุณมากครับ อิศเรศ รัตนดิลก ณ ภูเก็ต 9 ตุลาคม 2566.

อิศเรศ รัตนดิลก ณ ภูเก็ต facebook
ภาพ Facebook @isares.rattanadilok

Pachara

นักเขียนประจำที่ Thaiger จบการศึกษาด้านศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา เคยผ่านประสบการณ์ผู้สื่อข่าวกีฬา เริ่มเขียนบทความกับ Thaiger ตั้งแต่ปี 2021 วิ่งกับการอ่านหนังสือ คือ กิจกรรมที่สนใจเป็นพิเศษ ช่องทางติดต่อ pachara@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

Back to top button