อาหารไลฟ์สไตล์

เช็กตัวเอง เราเป็น “โรคกระเพาะ หรือ กรดไหลย้อน” อาการแบบนี้ ไม่เหมือนกันนะ

โรคกระเพาะอาหารและกรดไหลย้อน เป็นอาการที่พบได้บ่อยและสร้างความรำคาญให้กับผู้ป่วยเป็นอย่างมาก ทั้งสองโรคนี้มีอาการที่คล้ายคลึงกัน จึงทำให้หลายคนเข้าใจผิดว่าเป็นโรคเดียวกัน หรือบางคนก็เข้าใจผิดว่าตัวเองป่วยเป็นอีกโรค ก็จะทานยา รักษาผิด เป็นสาเหตุให้ป่วยไม่หายสักที

ทีมงานไทยเกอร์ จึงได้ไปค้นคว้าข้อมูลมาสรุปให้เข้าใจง่าย ๆ ว่า โรคทั้งสองโรคนี้มีความแตกต่างกันทั้งในด้านสาเหตุ อาการ และการรักษา อย่างไรบ้าง

โรคกระเพาะอาหาร

โรคกระเพาะอาหาร (Gastritis) เป็นโรคที่เกิดจากการอักเสบหรือเป็นแผลของเยื่อบุกระเพาะอาหาร เยื่อบุกระเพาะอาหารมีหน้าที่ผลิตน้ำย่อยและกรดที่ช่วยในการย่อยอาหาร หากเยื่อบุกระเพาะอาหารเกิดการอักเสบหรือเป็นแผล อาจทำให้มีอาการปวดท้อง คลื่นไส้ อาเจียน เบื่ออาหาร น้ำหนักลด เป็นต้น สาเหตุของโรคกระเพาะอาหารมีหลากหลายปัจจัย เช่น

  • การติดเชื้อแบคทีเรีย Helicobacter pylori
  • การทานยาแก้ปวดกลุ่ม NSAIDs เช่น ไอบูโพรเฟน ไดโคลเฟแนก
  • การดื่มแอลกอฮอล์
  • การสูบบุหรี่
  • ภาวะเครียด

อาการของโรคกระเพาะอาหาร ได้แก่

  • ปวดท้องบริเวณลิ้นปี่หรือท้องด้านบน
  • แสบท้อง
  • คลื่นไส้ อาเจียน
  • เบื่ออาหาร
  • น้ำหนักลด

กรดไหลย้อน

กรดไหลย้อน (Gastroesophageal Reflux Disease: GERD) เป็นโรคที่เกิดจากการไหลย้อนของน้ำย่อยในกระเพาะอาหารขึ้นไปในหลอดอาหาร น้ำย่อยในกระเพาะอาหารมีฤทธิ์เป็นกรด จึงอาจทำให้หลอดอาหารระคายเคืองและเกิดอาการต่างๆ ตามมา เช่น แสบร้อนกลางอก เรอบ่อย รู้สึกเหมือนมีน้ำรสขมหรือเปรี้ยวไหลย้อนขึ้นมาทางปาก ไอเรื้อรัง เจ็บคอ เป็นต้น

ปัจจัยที่ทำให้เกิดอาการกรดไหลย้อน

  • ภาวะกรดในกระเพาะอาหารมากเกินไป
  • กล้ามเนื้อหูรูดหลอดอาหารส่วนล่าง (LES) ทำงานผิดปกติ
  • น้ำหนักตัวเกิน
  • ตั้งครรภ์
  • การสูบบุหรี่
  • ดื่มแอลกอฮอล์

อาการของกรดไหลย้อน ได้แก่

  • แสบร้อนบริเวณหน้าอกหรือลิ้นปี่
  • เรอบ่อย
  • รู้สึกเหมือนมีน้ำรสขมหรือเปรี้ยวไหลย้อนขึ้นมาทางปาก
  • ไอเรื้อรัง
  • เจ็บคอ

ความแตกต่างระหว่าง โรคกระเพาะอาหาร กับ กรดไหลย้อน

ตารางต่อไปนี้สรุปความแตกต่างระหว่างโรคกระเพาะอาหารและกรดไหลย้อน ได้เข้าใจง่ายๆ

ลักษณะ โรคกระเพาะอาหาร กรดไหลย้อน
ตำแหน่งที่แสดงอาการ บริเวณลิ้นปี่หรือท้องด้านบน บริเวณหน้าอกหรือลิ้นปี่
สาเหตุ การติดเชื้อแบคทีเรีย Helicobacter pylori การทานยาแก้ปวดกลุ่ม NSAIDs การดื่มแอลกอฮอล์ การสูบบุหรี่ ภาวะเครียด ภาวะกรดในกระเพาะอาหารมากเกินไป กล้ามเนื้อหูรูดหลอดอาหารส่วนล่าง (LES) ทำงานผิดปกติ น้ำหนักตัวเกิน ตั้งครรภ์ การสูบบุหรี่ ดื่มแอลกอฮอล์
อาการ ปวดท้อง แสบท้อง คลื่นไส้ อาเจียน เบื่ออาหาร น้ำหนักลด แสบร้อนบริเวณหน้าอก เรอบ่อย รู้สึกเหมือนมีน้ำรสขมหรือเปรี้ยวไหลย้อนขึ้นมาทางปาก ไอเรื้อรัง เจ็บคอ
การรักษา ยาลดกรด ยาลดการหลั่งกรด ยาต้านการอักเสบ การผ่าตัด ยาลดกรด ยาลดการหลั่งกรด ยาต้านการอักเสบ การผ่าตัด

การวินิจฉัย

โรคกระเพาะอาหารและกรดไหลย้อนสามารถวินิจฉัยได้จากการซักประวัติ ตรวจร่างกาย และการตรวจเพิ่มเติม เช่น

  • การตรวจเลือด
  • การตรวจอุจจาระ
  • การส่องกล้องกระเพาะอาหารและลำไส้เล็กส่วนต้น
  • การตรวจเอกซเรย์คอมพิวเตอร์

การป้องกันไม่ให้เกิดโรค

โรคกระเพาะอาหารสามารถป้องกันได้ด้วยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม เช่น

  • รับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่
  • หลีกเลี่ยงอาหารรสจัด อาหารที่มีไขมันสูง และอาหารทอด
  • หลีกเลี่ยงการทานอาหารก่อนนอน
  • ไม่สูบบุหรี่
  • ไม่ดื่มแอลกอฮอล์
  • ควบคุมน้ำหนักตัว

ส่วนผู้เป็นกรดไหลย้อนควรปฏิบัติตัวดังนี้เพื่อเลี่ยงอาการแย่ลงหรือลุกลาม

  • หลีกเลี่ยงการทานอาหารหรือเครื่องดื่มที่กระตุ้นการหลั่งกรดในกระเพาะอาหาร เช่น ชา กาแฟ น้ำอัดลม น้ำผลไม้ที่มีรสเปรี้ยว อาหารที่มีรสเผ็ด เป็นต้น
  • หลีกเลี่ยงการนอนราบหลังรับประทานอาหารใหม่ๆ
  • ยกศีรษะเตียงให้สูงขึ้นประมาณ 6 นิ้ว เพื่อช่วยป้องกันน้ำย่อยไหลย้อนขึ้นไปในหลอดอาหาร
  • หากมีอาการปวดท้องหรือแสบร้อนบริเวณหน้าอก ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อรับการตรวจวินิจฉัยและรักษาอย่างถูกต้อง

Aindravudh

นักเขียนประจำ Thaiger มีประสบการณ์เขียนข่าวมากกว่า 5 ปี จบการศึกษาด้านภาษาและประวัติศาสตร์ จากคณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มีความสนใจ ประเด็นความเคลื่อนไหวทางสังคมและการเมือง เจาะประเด็นข่าวทางสังคม ด้วยกลวิธีการเล่าเรื่องแบบย่อยง่าย อย่างงานเขียนสร้างสรรค์ สั้น กระชับ จับทุกประเด็น หัวข้อที่เชียวชาญคือเรื่องไลฟ์สไตล์ เลขเด็ด หวยรัฐบาลไทย หวยลาว ช่องทางติดต่อ vajara@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

Back to top button